“เทพไท” ไล่ “จาตุรนต์” ทบทวนตัวเอง มีจิตสำนึกประชาธิปไตยอยู่หรือไม่ ปัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ชี้ ปชป.ไม่จำเป็นต้องมีตัวช่วย เหน็บพรรคเพื่อไทย ส่งนายหญิง มาซื้อตัว ส.ส.แถมเอาตำแหน่งมาล่อยังไม่มีใครไป
วันนี้ (10 ธ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เพราะถูกข่มขู่ว่า จะปฏิวัติ และกล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารนั้น ถือเป็นการทำลายหลักนิติธรรมว่า ตนอยากให้ นายจาตุรนต์ ไปถามข้อเท็จจริงจาก นายเนวิน เอง เพราะการตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ไม่จำเป็นต้องมีตัวช่วย ไม่เหมือนพรรคเพื่อไทย ที่นายใหญ่ส่งนายหญิงมาบัญชาการซื้อตัว ส.ส.โดยการเอาตำแหน่งรัฐมนตรีมาล่อ ซึ่งในที่สุดก็ไม่มีใครหลงกล พรรคประชาธิปัตย์ จัดตั้งรัฐบาลแบบเปิดเผยและตรงไปตรงมา
โดยการแถลงข่าวที่โรงแรมสุโขทัย อย่างเปิดเผย และให้เกียรติกับพรรคร่วมทุกพรรค ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพรรคหลายคนได้เดินสายไปทาบทามถึงบ้านหัวหน้าพรรคร่วมทุกคน ซึ่งผิดกับพรรคเพื่อไทยที่วันนี้ก็ยังไม่ยอมแพ้ พยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้มาซึ่งการจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงวิธีการที่ถูกต้องและชอบธรรม ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็จะเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็จะเอาด้วยคาถา อยากถาม นายจาตุรนต์ ว่า ยังมีจิตวิญญาณเป็นนักประชาธิปไตยหลงเหลืออยู่หรือเปล่า ที่มาทำลายความชอบธรรมของการจัดตั้งรัฐบาลในวิธีทางประชาธิปไตย
“วันนี้บ้านเมืองกำลังมีทางออก ต้องการรัฐบาลใหม่ เพื่อมาฟื้นฟูประเทศชาติ แต่ นายจาตุรนต์กลับไม่เห็นชอบด้วย ที่มีการจัดตั้งรัฐบาลในระบบประชาธิปไตย ที่พรรคการเมืองรวบรวมเสียงข้างมากได้ และเลือกตัวแทนพรรคการเมือง มาเป็นนายกฯ 1 คน การดำเนินการแบบนี้ไปทำลายหลักนิติธรรมตรงไหน อยากให้ชี้แจงและอธิบายให้สังคมรับทราบ ไม่ใช่มีอคติเมื่อคนของฝ่ายตัวเองไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็มาฟูมฟายกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ โดยปราศจากข้อเท็จจริง วันนี้ ทหารอยู่ในกรม กองไม่มีความคิดปฏิวัติใดๆ ถ้าทหารยุคนี้ไม่ใช่ทหารประชาธิปไตยแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจบาตรใหญ่ข่มขู่ใคร อยากให้ นายจาตุรนต์ ไปสำรวจตัวเองว่าอยู่ในฐานะอะไรที่ออกมาวิจารณ์การเมือง ในขณะที่ตัวเองถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เพราะทำตัวเป็นปรปักษ์ต่อระบบประชาธิปไตย เป็นคนไม่มีประชาธิปไตยในหัวใจ แล้วยังมาเรียกหาประชาธิปัตย์จากคนอื่น” นายเทพไท กล่าว