ลูกพรรค “เพื่อไทย” รับเสียงอ่อย เลือกนายกฯ ใหม่ไม่ทัน 8-9 ธ.ค.แน่ เผยกลุ่มเพื่อนเนวินทยอยสมัครเข้าพรรคแล้ว ยังเหลือ 30 คน รอความชัดเจนว่าที่นายกฯ หวั่นเปลี่ยนขั้วซบประชาธิปัตย์ รัฐบาลนอมินี 3 ฝันค้างแน่ เผย ยอด ส.ส.พปช.ย้ายเข้าพรรคแล้ว 155 คน
วันนี้ (4 ธ.ค.) พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มโคราช กล่าวถึงการเลือกบุคคลมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่า มั่นใจว่า คนที่จะมาเป็นนายกฯ นั้นจะเป็นคนที่มาจากพรรคเพื่อไทย แม้จะมีข่าวว่า มีกลุ่ม ส.ส.สนับสนุนใครคนใดคนหนึ่ง แต่บทสรุปสุดท้ายต้องมานั่งโต๊ะพูดคุยเพื่อรับฟังความคิดเห็นของ ส.ส.ทุกกลุ่มว่าจะสนับสนุนใคร ต้องใช้เวลา 1-2 วัน เพื่อหาข้อยุติให้ได้
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.สมชาย ยอมรับว่า คงไม่สามารถที่จะเลือกนายกฯ ได้ทันในวันที่ 8-9 ธ.ค.อย่างแน่นอน เพราะยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญลงมา
ส่วนการที่ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ยังไม่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าต้องการต่อรอง หรือปั่นราคาให้กับกลุ่ม เพื่อจะได้ตำแหน่งในรัฐบาลใหม่นั้น พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า คงไม่ใช่เช่นนั้น แต่ ส.ส.คงต้องการความชัดเจนถึงคุณสมบัติของนายกฯ และการบริหารงานต่อไปว่าจะเป็นไปในทิศทางใดมากกว่า แต่ถ้า ส.ส.ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันก็เกรงว่าจะมีการสลับขั้วทางการเมือง เพราะไม่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนจะเป็นปัญหาตามมาให้แก้ไขอีกอย่างแน่นอน
ด้าน นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู อดีตสมาชิกกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า ตนได้ส่งเอกสารสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว เพราะเห็นว่าแนวทางของกลุ่มเพื่อนเนวินยังไม่ชัดเจน รวมทั้งทิศทางในอนาคต แต่เมื่ออยู่ในพรรคร่วมกันก็ต้องร่วมหัวจมท้ายด้วยกัน ไม่อยากแยกกันเดิน หลังจากที่ถูกยุบพรรคมา 2 ครั้งแล้ว ถือเป็นบทเรียนทางการเมืองที่เจ็บปวด
นายไชยา กล่าวต่อว่า วันนี้ พรรคเพื่อไทย จึงควรรีบเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องนายกรัฐมนตรี และอยากให้สร้างพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองต่อไป ต่อไปพรรคจะทำอะไรต้องให้ทุกคนร่วมในการตัดสินใจ และต้องฟังกระแสสังคมเพื่อให้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป หากคิดว่ามีเสียงข้างมากอย่างเดียว ทำอะไรไม่ฟังกระแสสังคมก็จะอยู่ลำบาก และการทำตามความต้องการผู้มีอำนาจในพรรคก็จะทำให้พรรคไม่โต การแก้ปัญหาบ้านเมืองจะเดินหน้าไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การเป็นนักการเมืองต้องพร้อมเป็นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล
“อีสานพัฒนา” หวั่น “เพื่อนเนวิน” สลับขั้วจับมือ ปชป.
ขณะที่ นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ยังไม่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่า ตอนนี้ ส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวิน เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเกือบหมดแล้ว เหลืออยู่ประมาณ 30 คนเท่านั้น ซึ่งยังรอดูท่าทีที่ชัดเจนอยู่ อย่างไรก็ตาม หากยังอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีปัญหา แต่หากเสียง ส.ส.สลับขั้วเปลี่ยนไปสนับสนุนจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็คงส่งผลกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน
วันที่ 2 สรุปยอด 155 ส.ส.พปช.ซบ “เพื่อไทย”
สำหรับบรรยากาศความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยปรากฏว่า ตลอดวันนี้ได้มี ส.ส.จากอดีตพรรคพลังประชาชน ทั้ง ส.ส.และ ส.ส.เขต กลุ่มเพื่อนเนวิน รวมทั้งกลุ่มโคราช ได้เดินทางเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยกันเพิ่มเติม อาทิ นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.กาญจนบุรี นายอัสนี เชิดชัย ส.ส.สัดส่วน นางลินดา เชิดชัย ส.ส.นครราชสีมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน รวมทั้ง พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก เป็นต้น
น.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร รักษาเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ยอดล่าสุดของจำนวน ส.ส.จากพรรคพลังประชาชน ที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 155 คน นอกจากนี้ ยังมีอีก 12 คนที่หลักฐานยังไม่ครบ ทั้งนี้ ยังได้รับการประสานจาก ส.ส.ด้วยว่าจะเดินทางมาสมัครในวันที่ 6-7 ธ.ค.ด้วยอีกประมาณ 30 คน โดยคละเคล้ากันจากหลายกลุ่มหลายภาค
อย่างไรก็ตาม ยังได้รับโทรศัพท์จาก ส.ส.พรรคการเมืองอื่นที่แสดงเจตจำนงว่าอยากมาร่วมสังกัดพรรคเพื่อไทยด้วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการกำหนดเงื่อนเวลาปิดรับสมัครโดยจะเปิดไปเรื่อยๆ เพราะการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย นั้น ถือว่ามีผลสมบูรณ์นับตั้งแต่นายทะเบียนลงลายมือชื่อรับรองแล้ว
สำหรับสาเหตุที่จำนวน ส.ส.มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยลดลงจากที่เคยแจ้งในวันแรกนั้น เนื่องจากมีความเข้าใจผิดโดยรวมจำนวนของอดีตผู้สมัคร ส.ส.เข้าไปด้วย
