แถลงการณ์ ฉบับที่ 28/2551
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เรื่อง
สดุดีและกราบขอบพระคุณ
ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดชุมนุมใหญ่มาตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2551 และได้ยุติการชุมนุมลงในวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2551 รวม 193 วัน ตามที่ได้ประกาศเอาไว้แล้ว ใน แถลงการณ์ฉบับที่ 27/2551 ลงวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2551
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มการชุมนุมใหญ่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ถูกคุกคามสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมและรับฟังข้อมูลข่าวสาร ถูกทำร้ายร่างกาย และถูกทำลายทรัพย์สิน ทั้งโดยเจ้าหน้าที่รัฐและอันธพาลฝ่ายรัฐบาล ทั้งในกรุงเทพมหานครและในหลายจังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น เชียงใหม่ เชียงราย มหาสารคาม สกลนคร ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และอุดรธานี มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 7 ราย, อาการโคม่า 1 ราย, พิการ 6 ราย และบาดเจ็บ 625 ราย โดยที่ผู้กระทำความผิดยังไม่ได้ถูกจับกุมหรือถูกลงโทษแม้แต่รายเดียว
นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ทุ่มเทแรงกายยืนหยัดร่วมการชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนเสียชีวิตในที่ชุมนุมอีก 1 ราย
เราขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง กับครอบครัวผู้เสียชีวิต พิการ และบาดเจ็บจากการชุมนุม เราขอเชิดชู ยกย่อง และสดุดีผู้ที่เสียสละชีวิต พิการ และบาดเจ็บเพื่อปกป้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่ง ชาติ ราชบัลลังก์ และรัฐธรรมนูญ ทั้งในสถานที่ชุมนุมและนอกสถานที่ชุมนุม ให้เป็น “วีรชน” ที่จะถูกจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์และในจิตใจของพวกเราตลอดไป โดยมีรายนามวีรชนผู้เสียชีวิตดังต่อไปนี้
1.นางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ผู้ชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ เสียชีวิตอันเนื่องมาจากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่รัฐใช้อาวุธทำร้ายเข่นฆ่าประชาชนจากบริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ในคืนวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2551
2.พันตำรวจโท เมธี ชาติมนตรี การ์ดอาสาของพันธมิตรเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรมและถูกทำลายหลักฐานด้วยการระเบิดรถ ในสถานการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข่นฆ่าทำร้ายประชาชนในการสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2551
3.นายสมเลิศ เกษมสุข ผู้ชุมนุมและผู้ประสานงานแท็กซี่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เข้าร่วมชุมนุมมาอย่างยาวนาน และได้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจในที่ชุมนุมบริเวณ ถนนพิษณุโลก ข้างทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2551
4.นายเจนกิจ กลัดสาคร ผู้นั่งฟังการปราศรัยบนเวทีอย่างสงบและปราศจากอาวุธ เสียชีวิตเนื่องจากถูกอาวุธสงครามประเภทระเบิด M-79 ยิงมาจากภายนอกสถานที่ชุมนุมเข้ามาทะลุเต้นท์ผ้าใบในทำเนียบรัฐบาล เมื่อคืนวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2551
5.นายยุทธพงษ์ เสมอภาพ การ์ดอาสาที่กำลังทำหน้าที่แจกน้ำและอาหารให้กับสารวัตรทหารบริเวณสี่แยกมิสกวัน เสียชีวิตเนื่องจากคนร้ายฝ่ายรัฐบาลนั่งมอเตอร์ไซค์ยิงอาวุธสงครามประเภทระเบิด M-79 จากริมรั้วกองบัญชาการตำรวจนครบาลเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2551
6.นายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา บิดาของแกนนำกลุ่มทหารเสือพระราชา ซึ่งเป็นกลุ่มแนวร่วมที่จัดรายการวิทยุชุมชน ซึ่งถ่ายทอดสดภาพและเสียงของการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดเชียงใหม่ ถูกกลุ่มอันธพาลของรัฐบาล 50 คนใช้ปืน มีด และใช้ท่อนเหล็กรุมทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2551
7.นางสาวกมลวรรณ หมื่นหนู ผู้นั่งฟังการปราศรัยบนเวทีอย่างสงบและปราศจากอาวุธอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล เสียชีวิตเนื่องจากคนร้ายฝ่ายรัฐบาลได้ยิงอาวุธสงครามประเภทระเบิด M-79 ยิงมาจากภายนอกสถานที่ชุมนุมเข้ามาทะลุเต็นท์ผ้าใบ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2551
8.นายรณชัย ไชยศรี ผู้ชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธที่สนามบินดอนเมือง เสียชีวิตเนื่องจากมีคนร้ายฝ่ายรัฐบาลได้ยิงอาวุธสงครามประเภทระเบิด M-79 ยิงมาจากบริเวณทางด่วนเข้ามาในสถานที่ชุมนุมในขณะที่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่กำลังนอนหลับอยู่ในเวลากลางคืนของวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2551
เราจะต่อสู้ต่อไปไม่ให้การสูญเสียชีวิต อวัยวะ และการบาดเจ็บของวีรชนต้องสูญเปล่า โดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะธำรงความมุ่งหมายในการพิทักษ์รักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญสืบต่อไป ตลอดจนจะดำเนินการหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด
เราขอกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่เข้าร่วมการชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา
เราขอกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ได้สนับสนุนและเสียสละ งบประมาณ อาหาร น้ำ และอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งทำให้การชุมนุมสามารถดำเนินต่อไปได้และบรรลุวัตถุประสงค์ในการชุมนุมในที่สุด
เราขอกราบขอบพระคุณแนวร่วมองค์กรต่างๆ ที่ทำให้การชุมนุมเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี เจ้าหน้าที่ของกองทัพธรรมมูลนิธิ สันติอโศก สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ การ์ดอาสาสมัคร การ์ดศรีวิชัย แนวร่วมพันธมิตรฯ ทุกจังหวัด เครือข่ายศิลปิน แนวร่วมองค์กรภาคเอกชนทุกองค์กร และสื่อมวลชนทุกแขนง
193 วัน แห่งการชุมนุมอย่างยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ การเมืองไทยที่ผ่านมาถึง 3 ฤดู ผ่านร้อน ผ่านฝน และผ่านหนาว ผ่านประสบการณ์ทั้งความทุกข์และความสุข เสียงหัวเราะและคราบน้ำตา เกิดพลานุภาพครั้งยิ่งใหญ่ของประชาชนผู้หาญกล้า มุ่งมั่น ศรัทธา และเสียสละเพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งจะถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ไปตลอดกาล
เราขอกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนทุกท่าน ในการมีส่วนร่วมเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์มา ณ โอกาสนี้
ด้วยจิตคารวะ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2551