อดีต ส.ส.ร.ชี้เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญปี 2550 หากศาล รธน.ตัดสินยุบพรรค บรรดา ส.ส.สัดส่วนจะต้องสิ้นสภาตามพรรคที่ถูกยุบไปด้วย ไม่สามารถย้ายพรรคได้
วันนี้ (2 ธ.ค.) นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ในฐานะอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ให้ความเห็นหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตยว่า ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 แล้วถือว่าในส่วนของ ส.ส.ระบบสัดส่วนของทั้งสามพรรคทั้งหมด จะไม่สามารถย้ายพรรคได้ และต้องพ้นสภาพ ส.ส.ไปพร้อมกับพรรคที่ถูกยุบไปด้วย
นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า แม้ว่าก่อนหน้านี้บรรดา ส.ส.สัดส่วนของแต่ละพรรคพยายามลาออกเพื่อให้มีการเลื่อนลำดับ ส.ส.คนอื่นขึ้นมาก็ไม่มีความหมาย เพราะในการเลือกตั้งแล้วตามเจตนารมณ์ในการเลือก ส.ส.สัดส่วนนั้นประชาชนได้เลือกพรรค เช่น ถ้าเป็นผู้สมัครจากพรรคพลังประชาชนก็มีเจตนาเลือกพรรคพลังประชาชน ขณะที่ผู้สมัครของพรรคชาติไทย ประชาชนก็เลือกผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วนในนามพรรคชาติไทย ไม่เหมือนกับกรณีของ ส.ส.ระบบเขต ที่มีเจตนาเพื่อให้เลือกทั้งคนและพรรค ซึ่งหากตายหรือลาออกสามารถเลือกตั้งซ่อมได้
ส่วนที่มีการวางแผนจะให้มีการย้าย ส.ส.ไปพรรคเพื่อไทยหรือพรรคการเมืองอื่นนั้น นายเจิมศักดิ์ กล่าวย้ำว่า ทำไม่ได้ เพราะในตอนนั้นพรรคเพื่อไทยยังไม่เกิดและประชาชนก็มีเจตนาเลือกพรรคพลังประชาชน ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย
“ดังนั้น เมื่อพรรคทั้ง 3 ถูกยุบก็จะทำให้ ส.ส.ระบบสัดส่วนก็ต้องพ้นสภาพไปด้วย ไม่สามารถย้ายพรรคได้ และแม้ว่าจะลาออกออกหน้านี้ก็ตาม เพราะเมื่อเลื่อนอันดับ ส.ส.สัดส่วนขึ้นมาแล้ว แต่เมื่อพรรคถูกยุบ ส.ส.สัดส่วนก็ต้องถูกยุบตามไปด้วย” นายเจิมศักดิ์ ซึ่งเป็นอดีตกรรมการสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ระบุ
สำหรับ ส.ส.สัดส่วนของพรรคพลังประชาชนมีจำนวน 34 คน พรรคชาติไทย มีจำนวน 4 คน
วันนี้ (2 ธ.ค.) นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ในฐานะอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ให้ความเห็นหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตยว่า ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 แล้วถือว่าในส่วนของ ส.ส.ระบบสัดส่วนของทั้งสามพรรคทั้งหมด จะไม่สามารถย้ายพรรคได้ และต้องพ้นสภาพ ส.ส.ไปพร้อมกับพรรคที่ถูกยุบไปด้วย
นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า แม้ว่าก่อนหน้านี้บรรดา ส.ส.สัดส่วนของแต่ละพรรคพยายามลาออกเพื่อให้มีการเลื่อนลำดับ ส.ส.คนอื่นขึ้นมาก็ไม่มีความหมาย เพราะในการเลือกตั้งแล้วตามเจตนารมณ์ในการเลือก ส.ส.สัดส่วนนั้นประชาชนได้เลือกพรรค เช่น ถ้าเป็นผู้สมัครจากพรรคพลังประชาชนก็มีเจตนาเลือกพรรคพลังประชาชน ขณะที่ผู้สมัครของพรรคชาติไทย ประชาชนก็เลือกผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วนในนามพรรคชาติไทย ไม่เหมือนกับกรณีของ ส.ส.ระบบเขต ที่มีเจตนาเพื่อให้เลือกทั้งคนและพรรค ซึ่งหากตายหรือลาออกสามารถเลือกตั้งซ่อมได้
ส่วนที่มีการวางแผนจะให้มีการย้าย ส.ส.ไปพรรคเพื่อไทยหรือพรรคการเมืองอื่นนั้น นายเจิมศักดิ์ กล่าวย้ำว่า ทำไม่ได้ เพราะในตอนนั้นพรรคเพื่อไทยยังไม่เกิดและประชาชนก็มีเจตนาเลือกพรรคพลังประชาชน ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย
“ดังนั้น เมื่อพรรคทั้ง 3 ถูกยุบก็จะทำให้ ส.ส.ระบบสัดส่วนก็ต้องพ้นสภาพไปด้วย ไม่สามารถย้ายพรรคได้ และแม้ว่าจะลาออกออกหน้านี้ก็ตาม เพราะเมื่อเลื่อนอันดับ ส.ส.สัดส่วนขึ้นมาแล้ว แต่เมื่อพรรคถูกยุบ ส.ส.สัดส่วนก็ต้องถูกยุบตามไปด้วย” นายเจิมศักดิ์ ซึ่งเป็นอดีตกรรมการสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ระบุ
สำหรับ ส.ส.สัดส่วนของพรรคพลังประชาชนมีจำนวน 34 คน พรรคชาติไทย มีจำนวน 4 คน