พันธมิตรฯ ย้ำเจรจาโดยตรงยากถ้า “สมชาย” ยังด้านไม่ออก

พันธมิตรฯ ชี้หาก “สมชาย” ไม่ลาออกการเจรจาโดยตรงเป็นไปได้ยาก ย้ำความเสียหายของบ้านเมืองมาจากความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลทรราช ระบุหากศาล รธน.ตัดสินคดียุบพรรค 2 ธ.ค.นี้จะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

วันนี้ (29 พ.ย.) เมื่อเวลา 19.00 น.ที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ แถลงว่า จากการที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ระบุว่าพร้อมเจรจากับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี นั้น ขณะนี้ยังไม่มีการประสานมาจากนายสมชายแต่อย่างใด และที่ผ่านมานายสมชายยืนยันว่าจะไม่ลาออกหรือยุบสภา ดังนั้น การเจรจาโดยตรงจึงเป็นไปได้ยาก เพราะนายสมชายไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความแตกแยก ส่วนการให้ข่าวของนายสนธิ ลิ้มทองกุล กับ พล.ต.จำลอง ที่มีความแตกต่างกันในเรื่องการเจรจากับรัฐบาลนั้น ตนยืนยันว่าแกนนำไม่ได้มีปัญหาความเป็นเอกภาพ แต่เป็นเพราะตำรวจออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องการเจรจาเพื่อหวังผลอะไรบางอย่าง

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ส่วนกระแสข่าวถึงความเสียหายจากการที่กลุ่มพันธมิตรฯยึดสนามบินทั้ง 2 แห่งนั้น ยืนยันว่าแกนนำทุกคนไม่ปฏิเสธว่าเกิดความเสียหาย ขณะที่เสียงวิจารณ์จากนักวิเคราะห์และภาคธุรกิจที่ระบุว่าเกิดความเสียหายเช่นกันนั้น ตนอยากเรียกร้องกลุ่มคนเหล่านี้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากกลุ่มพันธมิตรฯอย่างเดียว แต่มาจากความไม่ชอบธรรมของการบริหารประเทศโดยรัฐบาลชุดนี้ จึงอยากเรียกร้องให้ช่วยกันกดดันให้นายกฯลาออกเพื่อไม่ให้ความเสียหายที่เกิดจากการยึดสนามบินบานปลายมากไปกว่านี้ ส่วนนักวิชการที่ถือหางรัฐบาลว่าเป็นกลุ่มคนที่น่าสมเพชมาก และขอให้ร่วมกันกดดันให้รัฐบาลชุดนี้ออกไปดีกว่า

นายสุริยะใส กล่าวว่า ส่วนการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตยนั้น ถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับพิพากษาในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ โดยทั้ง 3 พรรคอาจถูกตัดสินยุบพรรค ซึ่งในช่วงเวลาที่เหลือไม่ถึงสัปดาห์เป็นช่วงที่นายสมชายต้องตัดสินใจและต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีของตระกูลวงศ์สวัสดิ์ด้วยการเลิกรับใช้ตระกูลชินวัตร แต่ถ้าถูกตัดสินยุบพรรคซึ่งทำให้นายสมชายต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯโดยอัตโนมัติ จะทำให้กลายเป็นนายกฯฆาตกรที่มีบาปติดตัว

ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า สำหรับการยกเลิกการเคลื่อนขบวนไปเยี่ยมนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในช่วงเย็นที่ผ่านมานั้น เป็นเพราะเรากังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากทราบว่ามีการจัดตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงดักทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯระหว่างเดินทาง แต่ยืนยันว่าความคิดนี้ยังมีอยู่ ส่วนจะเป็นวันและเวลาใด ก็จะมีการประเมินสถานการณ์ก่อนแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ส่วนที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจมีการสลายการชุมนุมในคืนนี้นั้น ทราบว่ามีการเคลื่อนไหวโดยมีการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่มากขึ้น โดยเฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตั้งด่านเพื่อสกัดไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมแสมทบ ทางกลุ่มฯอาจต้องใช้มวลชนมาสลายกำลังตำรวจเช่นกัน

เมื่อถามว่าการนำรถยนต์ไปจอดกีดขวางการจราจรโดยเฉพาะบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สัญจรไปมา จะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร นายสุริยะใส กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าทางกลุ่มฯจะปิดถนนในช่วงเวลากลางคืน เพราะเกรงเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะการสลายการชุมนุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่จะเปิดทางให้สัญจรได้ในช่วงกลางวันแทน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมติของแกนนำกลุ่มฯ ว่ามีความเห็นอย่างไร