"สมชาย"สั่งให้ผวจ.ทุกจังหวัด ดูแลสถานที่ราชการเข้ม หวั่นถูกพันธมิตรฯบุกยึด อ้างปชช.จะเดือนร้อนเพิ่ม ปลุกใจขรก.อย่าหวั่นวิตก เผยได้รับหนังสือจากปธ.สิทธิมนุษยชน แต่ไม่มีเวลาตอบ ปัดไม่ใช่ความขัดแย้งทางการเมือง ปากดีบอกจากบุคคลกลุ่มหนึ่ง ยึดสถานที่ราชการเท่านั้น ลั่นพร้อมเปิด ให้กก.สิทธิฯ-สื่อ ดูการสลายม็อบ ตามหลักสากลของตร.
วันนี้(28 พ.ย.) เวลาประมาณ 19.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ โดยมีรายละเอียดว่า รบกวนเวลาท่านอีกสักวันหนึ่ง แต่คงจะใช้เวลาเพียงเล็กน้อยนะครับ อยากจะกราบเรียนสถานการณ์การทำงานและเหตุการณ์ในวันนี้ให้พ่อแม่พี่น้องได้รับทราบอีกครั้งหนึ่ง
เนื่องจากผมมีภาระที่จะต้องพบปะกับท่านผู้บริหารระดับสูงแต่ละกระทรวงทุกเดือนนะครับ โดยรับประทานอาหารกัน แล้วก็คุยเรื่องการงาน ปัญหาการทำงานของแต่ละกระทรวงทุกๆ เดือนนะครับ ส่วนมากก็จะนัดกันเวลาอาหารกลางวัน ก็ผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพในแต่ละกระทรวง แต่บังเอิญว่าเดือนนี้ผมมีภารกิจไปต่างประเทศหลายครั้งนะครับ แล้วก็เมื่อกลับมาก็ยังมีปัญหาภารกิจต่างๆ ที่ยังไม่เรียบร้อย ไม่มีเวลาที่จะได้พบกับท่านผู้บริหาร
วันนี้ผมก็เลยถือโอกาสได้เชิญท่านผู้บริหารระดับหัวหน้าส่วนของทุกกระทรวง รวมทั้งท่านอธิบดีและผู้ที่มีตำแหน่งเทียบเท่าท่านปลัด และก็ไหนๆ ก็จะพูดจากันแล้ว ผมก็เลยได้เรียนเชิญท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเพื่อมาร่วมฟังกันด้วยนะครับ เพราะว่าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นมีความสำคัญที่ท่านได้อยู่คลุกคลีกับพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นทั่วประเทศ แล้วก็การพูดคุยกันนั้นก็เนื่องจากว่าวันนี้เราก็เชิญคนจำนวนมากแล้วก็อยู่ทุกจังหวัด ก็เลยขออนุญาตใช้เป็นวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ก็ได้เชิญไปที่กระทรวงมหาดไทย เพราะมีที่กว้างขวางและก็มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ดี ก็เลยได้สามารถพูดกันได้ทั่วประเทศ
ที่ได้พูดกันก็เป็นเรื่องทำความเข้าใจเรื่องการทำงาน คือผมเนี่ยบังเอิญว่าเป็นข้าราชการมาก่อน เป็นข้าราชการประจำมานานนะครับ จนเกือบจะเกษียณอายุถึงได้ลาออกจากราชการไป เพราะฉะนั้นการพูดคุยกับข้าราชการนั้นก็เป็นเรื่องที่ผมมีความสบายใจและก็มีความเข้าใจในการทำงานของข้าราชการ เพราะว่าผมมีประสบการณ์มากว่า 30 ปีอยู่ตรงนั้น แต่บังเอิญว่าช่วงนี้พ้นจากราชการมาแล้วก็มาทำงานการเมือง ก็เป็นอีกมิติหนึ่งที่จะต้องมาทำความเข้าใจกัน
ครับ ก็ได้เรียนกับท่านข้าราชการ เพื่อนข้าราชการทุกท่านว่า ในภาวะเช่นนี้ถึงแม้จะมี เรียกว่าวิกฤตการณ์ของบ้านเมืองอยู่ส่วนหนึ่ง ก็อยากจะให้ทุกๆ ท่านที่เป็นข้าราชการประจำนั้นได้ทำงานตามปกติ ไม่ต้องหวั่นไหวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สถานการณ์เหล่านั้นก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันกับพี่น้องประชาชนส่วนหนึ่งที่ยังมีความเข้าใจแตกต่างกันนั้น ขจัดปัญหา คลี่คลายปัญหากันไป อย่าให้ประชาชนทั่วประเทศต้องได้มาวิตกกังวลกับเรื่องเหล่านี้ เพราะจะทำให้เสียเวลาในการทำมาหากิน แล้วก็จะเดือดร้อนไปด้วยนะครับ เพราะฉะนั้นก็ทำความเข้าใจกัน
แล้วก็ขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกท่านได้ไปทำความเข้าใจกับผู้ใต้บังคับบัญชา รวมถึงท่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แล้วก็พี่น้องประชาชนทั้งประเทศให้ได้รับทราบ
ก็มีการพูดคุยกันทางผ่านจอได้ด้วยนะครับ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์เนี่ย พูดสองทาง วันนี้มีท่านปลัดบางท่าน เช่น ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย ท่านก็ได้แจ้งว่า ท่านได้เรียนต่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหัวดไปแล้ว ว่าในต่างจังหวัดนั้นก็ขอให้ช่วยดูแลสถานที่ราชการ หรือสถานที่สำคัญๆ ในส่วนของแต่ละจังหวัด ว่าอย่าให้มีการไปทำร้าย ทำลาย หรือมีใครไปยึดไปอะไรต่ออะไรอย่างนี้นะครับ เพราะว่ามิฉะนั้นประชาชนจะเดือดร้อนเพิ่มขึ้นไปอีก จากที่ตอนนี้ก็เดือดร้อนอยู่ในบางส่วนอยู่แล้วนะครับ
ท่านปลัดกระทรวงคมนาคมก็รายงานว่า ตอนนี้ก็มีเที่ยวบินหลายเที่ยวที่ไม่สามารถจะลงในกรุงเทพฯ ได้ คือไม่สามารถลงดอนเมือง ไม่สามารถลงสุวรรณภูมิได้ ก็ได้อนุญาตให้ไปลงที่สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งได้ประมาณวันละ 70-80 เที่ยว ความจริงเที่ยวบินมันมีเยอะมากมายนะครับ ก็ประมาณ 70 เที่ยว และที่เหลือก็พยายามจะประสานงาน เช่น ถ้าเป็นพวก Charter Flight ก็ให้ไปลงหาดใหญ่ ภูเก็ต หรือเชียงใหม่ เชียงราย แล้วแต่ความต้องการของสายการบินเหล่านั้น แต่ส่วนใหญ่สายการบินที่เป็นสายการบินโดยสารปกติก็มาไม่ได้ นะครับ เพราะว่าเขาต้องมีเส้นทางบินที่จำกัดอยู่ แล้วก็การเช็กอินจากต่างประเทศบางทีเขาไม่ยอมเช็กอินให้ เพราะว่าเป็นเรื่องที่เป็นการเสี่ยงที่จะปล่อยให้ผู้โดยสารมาโดยไม่ทราบว่าจะลงสนามบินได้หรือเปล่า ทีนี้อู่ตะเภาก็รับได้ส่วนหนึ่งนะครับ
แล้วก็ท่านอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ ก็ได้เรียนว่า ผู้โดยสารที่มาลงแล้วก็รับผิดชอบในการที่ขนส่งเข้ามากรุงเทพฯ หรือไปจังหวัดใกล้เคียงที่เขาต้องการจะไป ก็ได้จัดรถ ขสมก.ด้วย รถ บขส.ด้วยนะครับ อาจจะรถปรับอากาศของบริษัทเอกชนส่วนหนึ่งในการช่วยรับส่ง อันนี้ก็คงจะต้องรับผิดชอบในการเรื่องค่าใช้จ่าย
ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีก็ได้เรียนต่อที่ประชุมว่า ปัญหาเรื่องนักท่องเที่ยวตกค้างที่ชลบุรีนั้นมีเป็นจำนวนมากนะครับ เพราะชลบุรีนั้นมีเมืองพัทยาที่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของเรา ก็ผู้ตกค้างเหล่านั้นบางท่านก็การเงินก็ร่อยหรอลงไป เพราะว่าท่านก็ต้องมีเงินมาจำกัด เขารู้เวลาของเขานะครับ พอเวลาใกล้กลับเขาก็จะซื้อข้าวซื้อของซื้ออะไรต่อไป แล้วก็กลับไม่ได้ กลับไม่ได้ก็เดือดร้อน ทางจังหวัดได้ประสานกับทางโรงแรม หรือร้านอาหาร เจ้าของกิจการ ว่า อย่างเช่นค่าโรงแรมก็จะเก็บเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ที่ตกค้างอยู่ ก็ช่วยเหลือกันไปนะครับ แล้วก็ ค่าอาหารกับค่าโรงแรมเนี่ย คิดแล้วก็จะคิดไม่เกินวันละพันบาท ซึ่งก็ถ้าเปรียบเทียบแล้วคงจะถูกนะครับ ถ้ามิฉะนั้นก็คือ 30 เปอร์เซ็นต์
ทีนี้ก็ ช่วยบรรเทาไปได้บ้าง ก็ต้องขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีที่ว่า ท่านเอาเงินกองทุนส่วนหนึ่งของจังหวัด ท่านบอกมีประมาณล้านกว่าบาท ตอนนี้ท่านก็เอามาใช้จนหมดนะครับ เพื่อพยุงความเดือดร้อนตรงนี้ของนักท่องเที่ยว แต่ตรงนี้นะครับ ผมก็เห็นว่าเป็นปัญหาใหญ่ยิ่ง เรื่องนักท่องเที่ยวตกค้าง เรื่องความเดือดร้อนที่เขาได้รับ แล้วก็นอกจากนั้นความเสียหายที่เกิดขึ้นจากธุรกิจการค้า วันนี้ผมได้ตัดสินใจตั้งให้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นะครับ เป็นเจ้าภาพ หรือเรียกว่าเป็นประธานกรรมการในการเยียวยาบุคคลที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่เราไม่สามารถใช้สนามบินได้ ทำให้เขาได้รับความเดือดร้อนตกค้างอยู่อย่างนี้
ที่เราต้องทำอย่างนี้นะครับ บางทีเราจำเป็นต้องตัดใจในการที่ต้องจ่ายเงินจ่ายทองไปบ้าง แต่อยากจะกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า เราจำเป็นต้องรักษาตลาดการท่องเที่ยวเอาไว้ เราจำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะไม่ใช่ความผิดของเขา เป็นความผิดของประเทศชาติเราเองที่เราทำให้เกิดอย่างนั้น เป็นความผิดที่รัฐบาลเองไม่สามารถที่จะดูแลไม่ให้คนเข้าไปยึดสนามบินได้ ซึ่งปัญหานี้ก็คลี่คลายกันต่อไป ซึ่งผมก็คงจะได้กราบเรียนต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนต่อไปนะครับ
ก็ เรื่องนี้ก็อย่างที่บอกนะครับว่าเราก็พยายามดูอยู่ เรื่องการที่มีคนมายึดสนามบิน ปิดสนามบินนั้น ผมก็ได้ตั้งกรรมการขึ้นแล้ว อย่างที่ได้กราบเรียนเมื่อวาน ได้มีคำสั่งขึ้นไปแล้ว อย่างที่กราบเรียนเมื่อวาน ซึ่งเจ้าหน้าที่คงจะทำงาน แต่ว่าท่านไม่ต้องวิตกกังวลนะครับ เจ้าหน้าที่จะใช้การทำงานอย่างละมุนละม่อม เราคนไทยด้วยกัน ผมเรียนแล้วว่าไม่ประสงค์ที่จะให้เกิดการบาดเจ็บ หรือไม่ประสงค์ที่จะทำความรุนแรงทั้งสิ้นนะ จะใช้วิธีเจรจา จะใช้วิธีอะไรก็ว่าไปนะครับ ก็คงจะต้องดำเนินการให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั้นๆ นะครับ ซึ่งก็ เรื่องนี้ผมได้เรียนกับทางหลายๆ ท่านที่วิตกกังวลไปแล้วนะครับ วันนี้กราบเรียนให้ทราบว่าผมได้รับหนังสือจากท่านประธานกรรมการสิทธิมนุษยชน ท่าน ศ.เสน่ห์ จามริก ฉบับหนึ่ง
ผมขออนุญาตที่ได้เรียนต่อท่านประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนตรงนี้ เนื่องจากผมยังไม่มีเวลาที่จะตอบเป็นจดหมายไปนะครับ เดี๋ยวผมจะตอบไป แต่ว่าตรงนี้ก็เรียนให้ทราบแล้วก็พอดีมันก็เป็นประโยชน์นะครับ
คือท่านก็มีหนังสือมาถึงผมแสดงความเป็นห่วงว่า ตอนนี้เราเกิดปัญหา ท่านก็เรียกว่าปัญหาทางการเมือง แต่ว่าจริงๆ ผมไม่อยากจะเรียกปัญหาการเมืองนะครับ มันเป็นปัญหาที่มีบุคคลกลุ่มหนึ่งนะครับ เข้ามาดำเนินการยึดสถานที่ซึ่งเป็นสถานที่สาธารณะ ราชการนะครับ มันไม่ใช่เรื่องขัดแย้งทางการเมืองอะไร
แล้วก็ท่านแสดงความกังวลว่า อาจจะเกิดปัญหา ก็ไม่อยากให้ใช้ความรุนแรง ไม่อยากให้เกิดอะไรที่มันเป็นเรื่องเสียหายมากมายนะครับ ซึ่งความจริงเราก็คิดตรงกันนะครับ ฉะนั้นผมอยากจะกราบเรียนแค่ว่า ที่เรียนไปแล้วก็คือวิธีการที่เจ้าหน้าที่เขาจะทำอย่างนั้น ก็เป็นวิธีตามหลักสากล และก็อยากกราบเรียนว่า ในการที่เจ้าหน้าที่เข้าไปฏิบัติการนั้น ผมอยากเรียนเชิยถ้าท่านมีเวลา เรียนเชิญท่านกรรมการสิทธิมนุญชนก็ตาม หรือท่านที่มีความสนใจ รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งหลา ยก็อยากให้เข้าไปดู จะไปถ่ายทำด้วยก็ได้ เวลาเขาไปดำเนินการอะไรต่ออไะร เพื่อจะได้เห็นชัดเจนว่าการทำนั้นผมได้ให้นายกฯ ให้นโยบายไปแล้วว่า ให้ทำโดยโปร่งใส ปราศจากอคติ ปราศจากความชิงชังอะไรทั้งสิ้น ดำเนินการตามหลัก กฎเกณฑ์กติกา และตามยึดกฎหมายเป็นหลักทุกอย่างนะครับ อันนี้ก็เรียนเชิญผ่านตรงนี้ไป ก็จะทำให้รู้สึกว่าเราได้เข้าใจซึ่งกันและกัน ผมบอกแล้วนะครับคนไทยด้วยกัน เพราะฉะนั้นก็คิดว่าเรื่องนี้จะต้องโปร่งใส
มีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เมื่อเช้านี้ท่านก็ได้เข้ามาในจอด้วย แล้วก็บอกว่า ทางภาคใต้นั้นมีสถานการณ์อะไรบ้าง ก็ตอนนี้ก็ดูแล้วไม่ค่อยรุนแรง ผมได้เรียนไปว่า สำหรับพี่น้องข้าราชการ พนักงาน ที่อยู่ในภาคใต้ 3 จังหวัด กับบางอำเภอใน จ.สงขลา นั้น คณะรัฐมนตรีได้เพิ่มเบี้ยยังชีพที่เคยได้รับ 1,000 บาทนั้น ก็ให้เป็น 2,500 บาทต่อเดือน แต่วันนั้นผมไปตอบคำถามในสภาฯ ท่าน ส.ส.ทางจังหวัดยะลา มั้ง ยะลาหรือปัตตานีจำไม่ได้แล้ว ขอโทษ บอกว่าเงินยังไม่ได้รับ ผมก็เรียนว่าจะพยายามเร่ง เพราะว่าเราเพิ่งมีมติ ครม.ไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ก็ให้เบิกได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ปี 51 เป็นต้นไป เพราะฉะนั้นได้ช้าหรือได้เร็วก็จะได้เท่ากัน ครับ แต่พยายามจะเร่งให้เร็วขึ้น
ครับ อันนี้ก็คือบางสิ่งบางอย่างที่วันนี้ผมอยากจะมากราบเรียนให้ทราบถึงความก้าวหน้าในการทำงาน และก็เรียนให้ทราบถึงการที่ได้ประชุมร่วมกับข้าราชการ ผมก็ได้เรียนกับเพื่อนข้าราชการทั้งหลายว่า ขอให้เข้าใจในความที่ผมเป็นหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งดำเนินการจะต้องดูแลเพื่อนข้าราชการให้มีศักยภาพ มีความสุข และก็มีสวัสดิการที่ดีนะครับ นี่เป็นหน้าที่ของผมซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาล ในการต้องดูแล ผมต้องดูแลทั้งพี่น้องประชาชน แล้วก็ต้องดูแลข้าราชการทุกภาคส่วน รวมทั้งการทำมาหากินของภาคเอกชนทุกภาคนะครับ อันนี้ก็ได้ให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลจะทำงานต่อไป โดยจะยึดถือประโยชน์สุขของประชาชนส่วนรวมเป็นหลัก
ก็ขอกราบเรียนไว้เพียงแค่นี้ ถ้ามีโอกาสก็จะขออนุญาตมากราบเรียนเพิ่มเติมในวันต่อไป ขอบพระคุณที่กรุณารับฟังนะครับ สวัสดีครับ