ลูกพรรค ปชป.เปิดแถลงข่าวประณาม “ชัย” ไร้หลักการ-ลำเอียง ยันรัฐสภาไม่สามารถแก้ปัญหาชาติบ้านเมืองได้ ขณะที่รัฐบาลเหมือนสัมภเวสีพเนจรไม่มีแหล่งที่อยู่ ชำแหละหวังใช้เวทีสภาถล่ม ผบ.ทบ.จนหลุดปากท้าทายให้รัฐประหาร
วันนี้ (27 พ.ย.) ภายหลังนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร สั่งปิดการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เช่น นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และนายธนิตพล ไชยนันทน์ ส.ส.ตาก ได้ลงมาแถลงข่าวโจมตีการปฏิบัติหน้าที่ของนายชัย โดย นพ.วรงค์ กล่าวว่า การทำหน้าที่ของนายชัยในวันนี้ไม่มีหลักการ ลำเอียงอย่างเห็นได้ชัด ชี้ให้เห็นว่าสภาไม่สามารถเป็นที่แก้ปัญหาของชาติได้ รัฐบาลเองก็ทำตัวเป็นสัมภเวสี หนีไปวันๆ วันนี้เหลือทางเลือกแค่ 2 ทางเท่านั้น คือ ยุบสภา หรือนายกฯ ลาออก
นายธนา กล่าวว่า ประธานสภาฯ ทำตัวเป็นเผด็จการ ทั้งที่เป็นแค่ผู้รักษาการตามข้อบังคับการประชุมเท่านั้น วันนี้แสดงให้เห็นแล้วว่ารัฐบาลโดยพรรคพลังประชาชนไม่ใส่ใจที่จะรับฟังข้อเสนอแนะของฝ่ายอื่น วันนี้ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดคุยกัน แม้ข้อเท็จจริงนั้นจะทำให้เจ็บปวดก็ตาม แต่การแสดงออกวันนี้ของรัฐบาลที่กระทำโดยผ่านนายชัยเป็นการไม่รับฟังความเห็นที่แตกต่างจากฝ่ายอื่น ที่ชิงอ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุม แสดงให้เห็นว่าสภาไม่ได้ใส่ใจที่จะหาทางออกให้ชาติบ้านเมือง
นายเทพไท กล่าวว่า รัฐบาลได้ตั้งป้อมถล่ม ผบ.ทบ.มาตั้งแต่วันก่อน ที่เสนอให้นายกฯ ยุบสภาฯ คงเสียดแทงใจดำ เพราะรัฐบาลยังอยากเป็นผู้ใช้งบประมาณ ที่จะต้องเบิกจ่ายในเดือน ม.ค.2552 ที่บอกว่าอดีตนายกฯเป็นคนนอก อยากถามว่าแล้ว ผบ.ทบ. เป็นคนนอกหรือเปล่า ที่พรรคร่วมรัฐบาลพยายามบอกว่าสภาไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่จำเป็นต้องยุบสภานั้น วันนี้ชัดเจนแล้วว่าสภาไม่สามารถทำหน้าที่ต่อไปได้อีกแล้ว เพราะประธานสภาฯ ไม่มีวุฒิภาวะ ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารก็ล้มเหลว ต้องพนเจรไปเปิดประชุม ครม.ที่เชียงใหม่ และการที่ประธานรัฐสภาบอกว่า เกิดการรัฐประหารก็ดีเรื่องจะได้จบๆ นั้น อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญได้ หากเห็นว่า ผบ.ทบ.ทำผิดกฎหมาย ก็ต้องไปดำเนินการกับท่าน และผบ.เหล่าทัพ ไม่ใช่ใช้เวทีสภาถล่มแบบนี้
นายธนิตพล กล่าวว่า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ยืนยันว่า ฝ่ายค้านจะดำเนินการทุกวิถีทางต่อประธานสภาฯ และจะกดดันสภาที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญนี้อย่างถึงที่สุด หากเหตุการณ์เหล่านี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งจะเสนอให้คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ไปพูดคุยกับประธานสภาฯ เพื่อให้รับปากว่าจะไม่เกิดกรณีการเลือกปฏิบัติแบบนี้ขึ้นอีก
วันนี้ (27 พ.ย.) ภายหลังนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร สั่งปิดการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เช่น นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และนายธนิตพล ไชยนันทน์ ส.ส.ตาก ได้ลงมาแถลงข่าวโจมตีการปฏิบัติหน้าที่ของนายชัย โดย นพ.วรงค์ กล่าวว่า การทำหน้าที่ของนายชัยในวันนี้ไม่มีหลักการ ลำเอียงอย่างเห็นได้ชัด ชี้ให้เห็นว่าสภาไม่สามารถเป็นที่แก้ปัญหาของชาติได้ รัฐบาลเองก็ทำตัวเป็นสัมภเวสี หนีไปวันๆ วันนี้เหลือทางเลือกแค่ 2 ทางเท่านั้น คือ ยุบสภา หรือนายกฯ ลาออก
นายธนา กล่าวว่า ประธานสภาฯ ทำตัวเป็นเผด็จการ ทั้งที่เป็นแค่ผู้รักษาการตามข้อบังคับการประชุมเท่านั้น วันนี้แสดงให้เห็นแล้วว่ารัฐบาลโดยพรรคพลังประชาชนไม่ใส่ใจที่จะรับฟังข้อเสนอแนะของฝ่ายอื่น วันนี้ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดคุยกัน แม้ข้อเท็จจริงนั้นจะทำให้เจ็บปวดก็ตาม แต่การแสดงออกวันนี้ของรัฐบาลที่กระทำโดยผ่านนายชัยเป็นการไม่รับฟังความเห็นที่แตกต่างจากฝ่ายอื่น ที่ชิงอ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุม แสดงให้เห็นว่าสภาไม่ได้ใส่ใจที่จะหาทางออกให้ชาติบ้านเมือง
นายเทพไท กล่าวว่า รัฐบาลได้ตั้งป้อมถล่ม ผบ.ทบ.มาตั้งแต่วันก่อน ที่เสนอให้นายกฯ ยุบสภาฯ คงเสียดแทงใจดำ เพราะรัฐบาลยังอยากเป็นผู้ใช้งบประมาณ ที่จะต้องเบิกจ่ายในเดือน ม.ค.2552 ที่บอกว่าอดีตนายกฯเป็นคนนอก อยากถามว่าแล้ว ผบ.ทบ. เป็นคนนอกหรือเปล่า ที่พรรคร่วมรัฐบาลพยายามบอกว่าสภาไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่จำเป็นต้องยุบสภานั้น วันนี้ชัดเจนแล้วว่าสภาไม่สามารถทำหน้าที่ต่อไปได้อีกแล้ว เพราะประธานสภาฯ ไม่มีวุฒิภาวะ ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารก็ล้มเหลว ต้องพนเจรไปเปิดประชุม ครม.ที่เชียงใหม่ และการที่ประธานรัฐสภาบอกว่า เกิดการรัฐประหารก็ดีเรื่องจะได้จบๆ นั้น อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญได้ หากเห็นว่า ผบ.ทบ.ทำผิดกฎหมาย ก็ต้องไปดำเนินการกับท่าน และผบ.เหล่าทัพ ไม่ใช่ใช้เวทีสภาถล่มแบบนี้
นายธนิตพล กล่าวว่า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ยืนยันว่า ฝ่ายค้านจะดำเนินการทุกวิถีทางต่อประธานสภาฯ และจะกดดันสภาที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญนี้อย่างถึงที่สุด หากเหตุการณ์เหล่านี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งจะเสนอให้คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ไปพูดคุยกับประธานสภาฯ เพื่อให้รับปากว่าจะไม่เกิดกรณีการเลือกปฏิบัติแบบนี้ขึ้นอีก