“สัตว์นรก” ทาส “นช.แม้ว” สุดชั่ว! ลอบยิงบึ้มใส่ “พันธมิตรฯ” ที่บริเวณทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ-ปาระเบิดใส่สนามบินดอนเมือง ส่งผลให้การ์ดพันธมิตรฯ บาดเจ็บทันทีรวม 3 ราย เบื้องต้นนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บอย่างเร่งด่วนแล้ว
รายงานข่าวจากสนามบินสุวรรณภูมิแจ้งว่า เมื่อเวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบยิงระเบิดเข้าใส่การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้ชุมนุมที่บริเวณทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ส่งผลให้การ์ดพันธมิตรฯ บาดเจ็บทันที 1 ราย คาดว่าระเบิดถูกยิงมาจากฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นตึกปฏิบัติการของศูนย์การบินไทย
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าเป็นการจงใจยิงระเบิดเข้าใส่พันธมิตรฯ เพื่อที่จะยึดพื้นที่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิคืน หลังจากที่ปล่อยให้พันธมิตรฯ เข้ามาปักหลักชุมนุมตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีประชาชนจำนวนมากต่างเดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ที่สนามบินสุวรรณภูมิอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
รายงานข่าวแจ้งว่า เกิดเหตุป่วนกรุงและการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เข้ายึดทำเนียบรัฐบาล ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเริ่มจากเวลา 02.00 น.เกิดเหตุระเบิดบริเวณสะพานดุสิต ถนนพระราม 5 แขวงและเขตดุสิต พบหลุมกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ลึกประมาณ 1 เซนติเมตร จำนวนหลายสิบหลุม นอกจากนี้ ที่บริเวณข้างสะพาน ราวสะพานที่เป็นซีเมนต์ พบรอยแตกลึกประมาณ 1 ซม. รัศมีความเสียหายประมาณ 5 เมตร จากการตรวจสอบห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 เมตร พบกระเดื่องของระเบิดชนิดลูกเกลี้ยง เอ็ม 26 เบื้องต้นพบว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฟีโน่ ไม่ติดแผ่นทะเบียน วิ่งตรงมาจากสี่แยกสำนักงานเขตดุสิต ลักษณะเหมือนถูกไล่มาจากทางด้านทำเนียบรัฐบาล เมื่อรถวิ่งถึงจุดเกิดเหตุชายที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังไม่สวมเสื้อได้โยนระเบิดใส่จุดดังกล่าว ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าไปทางสะพานแดงอย่างรวดเร็ว
ถัดมาเวลา 04.30 น.เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณ ปากซอยวิภาวดี ซอย 3 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. ที่เกิดเหตุพบตู้โทรศัพท์สาธารณะที่ตั้งอยู่ปากซอยดังกล่าว กระจกด้านหน้าตู้แตกกระจัดกระจายเต็มไปทั่วพื้น เบื้องต้นทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด 2 คน และถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณหางตา 1 คน เบื้องต้นทราบว่า บริเวณปากซอยดังกล่าวเป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ คลื่น 92.75 เมกะเฮิรตซ์ และคลื่น 107.50 เมกะเฮิรตซ์
จากการสอบสวน นายถนัดวิทย์ โมศิริ อายุ 15 ปี กล่าวว่า ตนทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณปากซอยดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุนั่งอยู่ที่บริเวณปากซอยดังกล่าว ระหว่างนั้นได้ยินเสียงเสียงระเบิดดังขึ้น 2 นัด โดยคนร้ายได้หย่อนลงมาจากโทลเวย์ หลังจากนั้นได้ยินเสียงปืนดังข้ามมาจากบริเวณวิภาวดี 19 ฝั่งตรงข้ามอีกหลายนัด ขณะเกิดเหตุไม่เห็นหน้าคนร้ายที่ก่อเหตุ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน
ส่วนที่สนามบินสุวรรณภูมิที่พันธมิตรฯ ยึดเมื่อคืนที่ผ่านมาก็มีเหตุระเบิด โดยเวลา 04.30 น.เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง ที่บริเวณถนนด้านนอกอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ห่างจากตัวตึกประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้เกิดความชุลมุนโกลาหลชั่วขณะ บรรดาผู้ชุมนุมพากันแตกตื่น โดยทางแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมอย่าแตกตื่น เพราะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.45 น. เกิดเหตุปาระเบิดขวด เข้าใส่การ์ดพันธมิตรฯที่อาคารสำนักงานท่าอากาศยานดอนเมือง หลังจากเปิดเวทีได้ไม่นาน โดยคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนขว้างระเบิดขวดใส่กลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ ที่รักษาการอยู่บริเวณสะพานทางเชื่อมระหว่างอาคาร 1 มุ่งหน้าไปอาคาร 2 ทำให้การ์ดพันธมิตรผู้ชายที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยจุดนั้นบาดเจ็บทันที 2 ราย โดยคนหนึ่งมีอาการสาหัสเนื่องจากสะเก็ดเข้าที่เอวขวา และสะโพกหลังด้านขวา ส่วนอีกคนได้รับบาดเจ็บที่ขา อย่างไรก็ตามการ์ดที่บาดเจ็บหนักได้นำขึ้นรถกระบะของผู้ชุมนุมไปยังโรงพยาบาลภูมิพล ส่วนอีกรายมีรถของโรงพยาบาลภูมิพลเข้ามารับตัวไปดูแลเช่นกัน
โดยเพื่อนการ์ดพันธมิตรฯ ที่รักษาอยู่ในจุดใกล้เคียงกันเล่าให้ฟังว่า มองเห็นรถตู้สีขาว ติดฟิลม์กรองแสงทึบ วิ่งชะลออยู่บนทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์มาตั้งแต่ไกล โดยเมื่อรถคันดังกล่าวได้ชะลอถึงจุดตรงข้ามกับจุดที่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั่งก็มีเสียงระเบิดขึ้น 1 ครั้ง และเศษขวดได้แตกกระจาย ทั้งนี้การ์ดทั้ง 2 คนกำลังนั่งพิงของทางกั้นกำแพงถนนบนเก้าอี้ โดยระเบิดตกลงที่ด้านขวาของผู้ได้รับบาดเจ็บหนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากไม่มีขอบกำแพงปูนกั้นถนนขวางระเบิดขวดดังกล่าว ลูกระเบิดอาจจะตกใส่รถถ่ายทอดสดเคลื่อนทีของช่อง 7 ที่จอดอยู่ใต้สะพานได้
นอกจากนี้ ในเวลาไล่เลี่ยกันก็มีคนร้ายการยิงปืนไม่ทราบชนิดกระสุนขนาดใหญ่ แต่การ์ดพันธมิตรฯ คาดว่าน่าจะเป็นชนิด M-79 ตกลงบริเวณสวนหย่อมใต้สะพานกลับรถ แต่โชคดีที่กระสุนไม่ทำงานจึงไม่มีการระเบิด และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ทันทีที่เกิดเหตุ นางมารีรัตน์ แก้วก่า แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 ได้ขึ้นกล่าวบนรถติดเครื่องขยายเสียงด้วยความโกรธ และประณามการกระทำลอบกัดของใครก็ตามที่กระทำการดังกล่าว พร้อมกับสั่งให้การ์ดตรวจค้นตัว กระเป๋าของผู้ที่จะเดินทางเข้ามาชุมนุมอย่างละเอียดรวมทั้งผู้ที่จะเข้ามาติดต่อเวทีปราศัยก็เช่นเดียวกัน และในขณะเดียวกันก็มีผู้ชุมนุมบางคนถึงกับนั่งสวดภาวนาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ให้คนเจ็บเป็นอะไรมาก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำวานนี้ (25 พ.ย.) เวลาประมาณ 23.00 น. เกิดเหตุคนร้ายยิงหัวน็อตและก้อนหินจากถนนอีกฝั่งเข้าใส่การ์ดพันธมิตรฯ ที่รักษาความปลอดภัยอยู่ริมถนนวิภาวดี-รังสิต แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เพราะวิถีก้อนหินและนอตดันไปตกลงที่บังเกอร์ จากนั้นเวลา 02.20 น. ก็มีเสียงปืนยิงขึ้นฟ้าขึ้นหนึ่งนัดจากถนนวิภาวดีฯ โดยการ์ดพันธมิตรฯ ระบุว่ามาจากรถคนหนึ่งที่แล่นผ่านดอนเมือง ดังนั้นช่วงคืนที่ผ่านมาการ์ดพันธมิตรต้องระดมกำลังกันทำงานกันอย่างหนัก
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ระเบิด M-79 และระเบิดขวดที่ถูกยิงและขว้างเข้าใส่พันธมิตรฯ ที่ชุมนุมอยู่นั้น ถูกยิงและขว้างมาจากทางด่วนโทลเวย์ ซึ่งอยู่ด้านบนของเยื้องกับเวทีพันธมิตรฯ ส่วนผู้บาดเจ็บนั้น ได้ถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วนแล้ว เพื่อให้แพทย์รักษาอาการบาดเจ็บอย่างเร่งด่วนต่อไป
เมื่อเวลา 08.30 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตร กล่าวภายหลังนำการ์ดเดินตรวจที่เกิดเหตุระเบิดว่า ผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่าลูกระเบิดที่ยิงมาจากรถตู้สีขาวที่วิ่งบนทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ โดยรถตู้คันดังกล่าวชะลอและยิงลงมา ซึ่งรถคันดังกล่าวมีลักษณะที่คาดว่าน่าจะเป็นของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หรือเสธ.แดง ที่เคยเข้าไปป่วนกลุ่มพันธมิตร โดยเชื่อว่าต้องการสร้างสถานการให้ผู้ชุมนุมหวาดกลัว ซึ่งหลังจากนี้ตนได้มีการประสานกองทัพอากาศให้จัดส่งเจ้าหน้าที่มาดูแล เพราะดอนเมืองเป็นเขตของกองทัพอากาศ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับกลับมา
นายสมศักดิ์ ยอมรับว่า พื้นที่ตรงนี้ถือเป็นจุดเสี่ยงที่อาจมีผู้ไม่หวังก่อเหตุได้อีก เนื่องจากติดถนน มีทางด่วนผ่าน แต่ก็ยืนยันว่าจะปักหลักชุมนุมที่นี่ต่อไป โดยเบื้องต้นได้สั่งเพิ่มการ์ดอาสา เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการส่งการ์ดอาสาไปที่สุวรรณภูมิจำนวนมากจึงขอประกาศขอเพิ่มอาสาสมัคร และจะมีการจัดการ์ดไปตระเวนบนพื้นที่ทางด่วน และจะเตรียมที่จะมีการหารือกับแกนนำในเรื่องของการป้องกันเพราะอาจจะเกิดเหตุขึ้นได้อีก
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้มีการประสานการบินไทยขอให้การ์ดอาสาขึ้นไปบนดาดฟ้าอาคารสำนักงานท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งตอนนี้ได้ขึ้นไปแล้วเพื่อสถานการณ์จากด้านบน ส่วนอาคารสำนักงานฯดอนเมืองที่เป็นจุดตั้งเวทีชั่วคราว ก็มีการเปิดห้องน้ำที่ชั้นสามให้ผู้ชุมนุมเข้าใช้ โดยจะมีการตรวจอย่างเข้มงวด กระทั่งห้ามนำน้ำ กระดาษหนังสือพิมพ์เข้าไป เนื่องจากเจ้าหน้าที่การท่าสั่งกำชับไว้ เพราะกระดาษถือเป็นเชื้อเพลิงอยางดี
ส่วนการรักษาความปลอดภัย พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ประสานตำรวจ สน.ทางด่วน จัดจราจรมายืนเฝ้าประจำบนทางด่วนโทลล์เวย์ เพื่อป้องกันคนร้ายก่อเหตุซ้ำอีก ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังประสานแกนนำเพื่อขอเข้ามาดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ
ขณะที่บรรยากาศการชุมนุมบริเวณด่านล่างเจ้าหน้าที่อาสาของพันธมิตรฯ มีการนำเสื้อผ้า ชุดชั้นในมาแจกให้กับผู้ชุมนุมหลังจากปักหลักชุมนุมมาสองคืนแล้ว อย่างไรก็ตามการชุมนุมก็ยังเป็นไปตามปกติ
นายสาวิทย์ แก้วหวาน แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 กล่าวปราศรัยบนเวที โดยขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้ปักหลักชุมนุมต่อไปอย่างเหนียวแน่น เพื่อขับไล่รัฐบาลภายใต้การนำของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่หมดความชอบธรรมแล้วในเวลานี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ชั่วคราวดอนเมือง พ.ต.อ. รณฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ (ผกก.สน.ดอนเมือง) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ 5 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบ เหตุปาระเบิดจากทางยกระดับอัตตราภิมุข หรือโทลล์เวลย์ เข้าใส่การ์ดและกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสวนหย่อม ด้านข้างอาคารสำนักงานท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
พ.ต.อ.รณฤทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถทำอะไรได้มาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงมาตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและลงบันทึกประจำวันเท่านั้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้เชียวชาญด้านวัตถุระเบิดจาก กรมพลาธิการสรรพาวุธทหารอากาศให้มาตรวจสอบว่าเป็นระเบิดชนิดใด พร้อมกันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพไว้เพื่อเป็นหลักฐาน