“เสธ.แดง” เสนอตัวขอเป็นผู้ช่วย ผอ.รมน.หลัง “พัลลภ” วืด อ้างจะใช้อำนาจตามกฎหมายจัดการกับแกนนำพันธมิตรฯ พร้อมกับมือที่มือไม่เห็น ชื่อย่อ P S และ CH ทำให้ชาติปั่นป่วน ทำเก่งเชิญ ครม.ประชุมที่บ้าน แต่ขากลับอาจต้องแหวกศพพันธมิตรฯ ออกมา ขู่อีกยิงเอ็ม 79 ถล่มเอเอสทีวี คราวนี้ไม่พลาดแน่
วานนี้ (25 พ.ย.) พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวว่า หลังจากที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองรักษาความมันคงภายใน ( กอ.รมน.) ขาดคุณสมบัติเป็นผู้ช่วย ผอ.รมน. ตาม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เนื่องจากต้องแต่งตั้งจากเจ้าหน้าที่รัฐอายุไม่เกิน 60 ปี ซึ่ง พล.อ.พัลลภ เป็นนายทหารนอกราชการนั้น ตนจึงขอเสนอตัวต่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้แต่งตั้งตนเป็น ผู้ช่วย ผอ.รมน.เพื่อจะได้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาตรา 15 โดย ครม.มีมติแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ รมน.เป็นผู้ช่วย ผอ.รมน.ในการเข้าไปป้องกันและปราบปรามเพื่อให้ภารกิจบรรลุผล เมื่อมีการแต่งตั้งแล้วจะได้ยืมตัวนายทหารมาช่วยงานโดยเฉพาะใน กอ.รมน. มีนักรบเก่งๆ ที่สามารถทำภารกิจให้บรรลุผล ไม่ว่าจะเป็น “เสธ.ยาว” หรือ “เสธ.ป๊อด”
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า เมื่อตนมีอำนาจตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงในการป้องกันและปราบปรามตามมาตรา 15 จะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยการเปิดเจรจากับแกนนำพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยก่อน หากไม่มาก็จะใช้กองกำลังเข้าไปเชิญตัว แต่ถ้าไม่มาอีก แล้วมีการใช้นักรบศรีวิชัยขัดขวาง ก็จำเป็นต้องตัดสินใจใช้กำลังเข้าตอบโต้
“ถ้านายกฯ แต่งตั้ง เสธ.แดง จะทำให้ผมถูกเลื่อนจากข้อกล่าวหามือที่ 3 ขึ้นมาเป็นมือที่ 2 ในการใช้อำนาจตามกฎหมายเข้าปฏิบัติการกลุ่มพันธมิตรฯ โดยตรง และจะทำให้มีอำนาจในการรบกับมือที่มองไม่เห็นที่ทำให้ประเทศชาติปั่นป่วนที่ขึ้นต้นด้วยอักษร P, S และตัว CH ได้” พล.ต.ขัตติยะ กล่าว
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ปิดล้อมอาคารวีไอพีระหว่างประเทศ ดอนเมืองหรือ กองบัญชาการกองทัพไทยทำให้ไม่สามารถประชุม ครม.ได้ จึงเสนอให้ ครม.มาประชุมที่บ้านตนเอง เพราะจะมีความปลอดภัยยิ่งกว่าสถานที่อื่น เพียงแต่หลังเลิกประชุม อาจจะเดินทางออกลำบากเล็กน้อย เนื่องจากต้องแหวกศพพันธมิตรฯ เหมือนภาพยนตร์สงครามนักรบซูลูที่มีคนตายทับถมนอกฐานจำนวนมาก
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวด้วยว่า ขอแจ้งเตือนพนักงานภายในตึกเอเอสทีวีอีกครั้ง ให้รีบออกจากอาคารเร็วที่สุด เพราะจากเหตุการณ์ถูกเครื่องยิงลูกระเบิด M-79 ครั้งแรกนั้น ถือว่าเป็นการสอบระยะเท่านั้น วิถียิงมีการวิ่งชนขอบตึก แสดงว่าการปรับมุมทิศตรงแล้ว ครั้งต่อไปก็เป็นเพียงแค่เพิ่มระยะมุมสูงสัก 3-5 เมตร จะถึงเป้าหมาย ซึ่งต่อไปอาจเป็นการใช้ ค.60 อานุภาพจะร้ายแรงกว่า
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ขอเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมในทำเนียบฯเป็นครั้งสุดท้าย ให้ออกจากทำเนียบฯ ออกจากถนนราชดำเนิน สะพานมัฆวาน สนามบินดอนเมือง ก่อนงานราตรีสโมสร ซึ่งราชวงศ์จะเสด็จทุกปี ไม่เช่นนั้นจะเกิดสงครามยืดเยื้อ ไม่ว่าจะมาจากกองกำลังไม่ทราบฝ่ายจะยืดเยื้อลามปามถึงเรื่องส่วนตัว
ทั้งนี้ พล.ต.ขัตติยะได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในเชิงข่มขู่จะใช้อาวุธสงครามทำร้ายพันธมิตรฯ มาอย่างต่อเนื่องนับเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และหลังจากการให้สัมภาษณ์ก็มักจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม เจ่าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมายกับพล.ต.ขัตติยะแต่อย่างใด ส่วนการต้องกรรมการสอบสวนโดยกองทัพบกนั้น แม้โฆษก ทบ.จะระบุว่า มีพฤติกรรมที่ผิดทั้งทางวินัยและอาญาทหาร แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าการลงโทษ พล.ต.ขัตติยะเช่นกัน
