“เทพไท” แฉ “พลังแม้ว” ใช้เอ็นบีทีกรอกข้อมูลด้านเดียวปั่นหัวคนอีสาน ขณะข้อมูลอีกด้านอย่างเอเอสทีวีไม่มีโอกาสเข้าถึง แถมใช้รายการ “ความจริงวันนี้” เป็นเครื่องมือทางการเมืองช่วยนายใหญ่ให้พ้นคุก ไม่สนใจความแตกแยก ดันโคตรเหง้าชินวัตรนั่ง “พรรคเพื่อไทย” ต่อ หวังเป็นแหล่งผลประโยชน์
วันนี้ (20 พ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการที่ตนได้ลงพื้นที่ภาคอีสาน 2-3 จังหวัดได้พบปะประชาชนและได้สอบถามปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศ ซึ่งพี่น้องภาคอีสานได้รับข้อมูลด้านเดียวจากสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีซึ่งเป็นสื่อของรัฐ ในขณะที่ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง คือ เอเอสทีวี คนส่วนใหญ่ไม่ได้รับรู้เพราะมีข้อจำกัดในการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมไปที่การรับ แต่เอ็นบีทีเป็นสื่อเสรีของรัฐ จึงรับได้ตลอดเวลาทั่วทุกครัวเรือน และเมื่อรัฐบาลยังใช้รายการความจริงวันนี้ปลุกระดมให้ประชาชนรับข้อมูลเพียงฝ่ายเดียวก็คงจะไม่สามารถสร้างความสมานฉันท์ทางการเมืองได้
วันนี้รายการดังกล่าวพัฒนาจากการปลุกระดมมวลชนก็ยังมีการทำมาหากินโดยใช้สื่อของรัฐประกวดภาพระดมทุนจัดเลี้ยงโต๊ะจีน ขายอุปกรณ์การชุมนุม และเปิดบัญชีให้ประชาชนบริจาค ซึ่งไม่ใช่เป็นการให้ข้อมูลที่เป็นธรรมหรือถูกต้องเพราะให้ข้อมูลเพียงฝ่ายเดียวผสมกับการหาประโยชน์บนสื่อของรัฐด้วย ตนจึงอยากให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่รับผิดชอบ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และผอ.สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เข้ามาดำเนินการ เพราะตนได้เรียกร้องมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่าจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้โดยเร็ว ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในประเทศได้
นายเทพไท กล่าวว่า เรื่องการสมานฉันท์ที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศตลอดเวลาว่ารัฐบาลจะยึดแนวสมานฉันท์ แต่ในทางปฏิบัติยังไม่เห็นสัญญาณใดสนองตอบนโยบายรัฐบาลได้เลย แม้แต่ลูกพรรคพลังประชาชนเองยังได้ประกาศว่าถ้าหากประเทศชาติจะต้องแบ่งแยกประเทศก็ยอมเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ตนคิดว่าการที่ลูกพรรคออกมาเคลื่อนไหวสร้างความขัดแย้งเป็นการสวนทางกับนโยบายของรัฐบาล นายกฯ จะต้องมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างชัดเจนและต้องรู้ว่าความขัดแย้งในสังคมวันนี้เป็นความขัดแย้งระหว่างกลุ่มของ พ.ต.ท.ทักษิณกับการเมืองภาคประชาชน แต่เมื่อมีข่าวว่าพรรคพลังประชาชนจะถูกยุบก็มีการตั้งพรรคเพื่อไทยขึ้นมารองรับและจะเห็นได้ว่าการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยเป็นการท้าทายสังคม พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความขัดแย้งในสังคม ตั้งแต่การที่นายสุชาติ ธาดาดำรงเวช รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทยลาออกก็ได้มีการเปิดชื่อหัวหน้าพรรคขึ้นมาคนแล้วคนเล่า ส่วนใหญ่เป็นในตระกูลชินวัตร ตั้งแต่นายพายัพ ชินวัตร พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และล่าสุดคือคุณหญิงพจมาน ชินวัตร
“คนในพรรคพลังประชาชนไม่รู้เลยหรือว่าคนในตระกูลชินวัตรเป็นสายล่อฟ้าของการเมืองภาคประชาชน หรือคนเหล่านี้ไม่สนใจ เพียงแต่ขอให้มีคนในตระกูลชินวัตรเป็นคนถือธงต่อสู้กับกลุ่มการเมืองที่เห็นแตกต่าง โดยไม่คำนึงถึงความหายนะของประเทศ ผมคิดว่าคนเหล่านี้เคลื่อนไหวเพื่อให้คนในตระกูลชินวัตรมาเป็นหัวหน้าพรรค มีวาระซ่อนเร้นต้องการให้กลุ่มชินวัตรเป็นนายทุนสนับสนุนทางการเมือง คนเหล่านี้มีสัญชาติญาณเพียงแค่ปลิงที่คอยสูบเลือด ผมคิดว่าเมื่อเลือดจางไปพวกปลิงเหล่านี้ก็หนีหายไป ดังนั้น อยากจะให้คนเหล่านี้นึกถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตัวเอง อะไรที่เป็นเงื่อนไขความขัดแย้งก็น่าจะทำให้ลดลง” นายเทพไท กล่าว