ลิ่วล้อ “แม้ว” ราดน้ำมันลงกองไฟ “ประชา ประสพดี” ย่ำยีศพ “เจนกิจ กลัดสาคร” กล่าวหาระเบิดตัวเอง พร้อมตีปี๊บ “เหลี่ยมจัด” กลับเข้าไทย 25 ธ.ค.และให้จับตา 25 พ.ย.มี “หนึ่งหญิง” เดินทางกลับมาก่อน จุดชนวนสงครามประชาชน อ้างถูกการเมืองเล่นงานจนไม่มีที่ยืน ขู่ถ้าไม่อยากให้เกิดจลาจลต้องมีการเสนอกฎหมายปรองดองยกเลิกความผิดทั้งหมด แล้วทุกฝ่ายถอยกลับไปสู่ที่เดิม
วันนี้ (20 พ.ย.) นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯประกาศชุมนุมใหญ่หน้าสภาวันที่ 24 พ.ย.ซึ่งเป็นวันประชุมร่วมรัฐสภา ว่า ต้องไปถามประธานรัฐสภาว่าจะมีการเตรียมรับมืออย่างไร ความจริงกลุ่มพันธมิตรฯอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลก็ดีแล้ว อย่ามาสร้างให้เกิดความสับสน และอย่าทำให้คนไทยฆ่ากันเลย เพราะเหตุการณ์ในวันที่ 7 ต.ค.ก็รู้แล้วว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร น่าจะรอฟังที่ทำเนียบจะดีกว่า อย่ามาให้เหนื่อยเลย
เมื่อถามว่า จะมีการระดมประชาชนมาเพื่อป้องกันการประชุมสภาหรือไม่ นายประชา กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะเมื่อพันธมิตรฯประกาศชุมนุม กลุ่มประชาชนผู้สนับสนุนเขาก็รับทราบอยู่แล้ว ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ทันที ดังนั้น เมื่อรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น กลุ่มพันธมิตรฯก็ไม่ควรมาชุมนุม เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการร่วมกันหาทางออก ไม่ว่าจะเป็นเวทีสานเสวนา ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ แล้วจะมาก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองได้อย่างไร ซึ่งพรรคพลังประชาชน เห็นว่าแนวทาวที่จะสร้างความสมานฉันท์ได้ในขณะนี้ คือ แนวทางตาม พ.ร.บ.สร้างความปรองดองแห่งชาติ
ถามว่า จะให้เกิดความปรองดองได้อย่างไร ในเมื่อ พ.ร.บ.ดังกล่าวมีกลุ่มการเมืองได้ประโยชน์ นายประชา กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีบางกลุ่มบางพวกได้ประโยชน์อยู่แล้ว จึงทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม ไม่มีความเป็นนิติรัฐเกิดขึ้น จึงทำให้เกิดปัญหา เมื่อหาทางออกเพื่อให้กฎหมายได้เป็นธรรมกับทุกฝ่ายก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
“ขอให้จับตาดูวันที่ 25 พ.ย.และ 25 ธ.ค.จะเห็นได้ว่า 1 บวก 1 เป็น 2 หญิงหนึ่งชายหนึ่ง ซึ่งจะมีหญิงหรือชายมาหรือไม่ ขอให้รอการโฟนอินวันที่ 13 ธ.ค.แต่ก็ต้องติดตามดูว่าจะเป็นอย่างไร โดยในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ จะมีคนเดินทางมาจากสนามบินฮ่องกง สู่สนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 09.45 น.ด้วยเครื่องของการบินไทย เหตุการณ์วันนี้มีทางออกให้ 2 ทาง คือ ถ้าไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมก็จะต้องเกิดการนองเลือด เกิดปัญหาการจลาจลทั้งในเมืองและปริมณฑล เพราะเราโดนคดีการเมือง ทางออกที่เหมาะสม คือ ทุกคนต้องถอยกลับไปยืน และให้ประเทศชนะ เพราะหลักนิติรัฐไม่สามารถแก้ปัญหาบ้านเมืองได้” นายประชา กล่าว
ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน กล่าวอีกว่า คนไทยทุกคนไม่มีใครสามารถถอนสัญชาติความเป็นคนไทยได้ นับถือศาสนาพุทธ เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ทำไมจะกลับเมืองไทยไม่ได้ ดินแดนนี้เป็นของคนไทยที่ทุกคนมีสิทธิ วันที่ 25 ธ.ค.เป็นวันดี เป็นวันขึ้นปีใหม่ของฝรั่ง ซึ่งเหมือนกับวันขึ้นปีใหม่ของไทยจึงอยากให้จับตาดูให้ดี พันธมิตรฯยังขู่มาปิดล้อมสภาได้ ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ จะมาประเทศไทยวันที่ 25 ธ.ค.ไม่ได้ สนามบินสุวรรณภูมิจะมีที่ให้ยืนหรือเปล่า ยืนยันว่าการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เป็นการยั่วยุ
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาถึงเมืองไทยจะต้องถูกดำเนินคดีทันที จะเป็นการสร้างเงื่อนไขให้มีมวลชนมากดดันหรือไม่ นายประชา กล่าวว่า เมื่อผู้ที่ถูกคำพิพากษาต้องถูกจำคุก เมื่อเดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาจับกุมควบคุมตัวทันที ขนาดอยู่ต่างประเทศยังนอนเต็นท์ มาประเทศไทยทำไมจะนอนคุกไม่ได้ แต่การถูกจับกุมจะห้ามไม่ให้คนที่สนับสนุนมาคงไม่ได้ ดังนั้น ก่อนที่จะเกิดเหตุควรหาทางป้องกันเอาไว้ก่อน
ส.ส.สมุทรปราการ ผู้นี้ ยังกล่าวถึงเหตุระเบิดบริเวณการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่มีคนตายและบาดเจ็บ ว่า ระเบิดตัวเองหรือไม่เพราะอาจจะเป็นระเบิดที่เขาเก็บเอาไว้ในนั้น เรื่องนี้คงจะต้องไปถาม พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่า ทุกฝ่ายจะต้องหยุดทบทวนเพื่อที่จะได้ผลักดัน พ.ร.บ.สร้างความปรองดองสมานฉันท์แห่งชาติ ที่จะผลักดันเข้าสู่สภาภายในสมัยประชุมสามัญทั่วไป ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนมกราคมนี้ เพื่อที่จะได้สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น โดยขอร้องว่าอย่ามองเป็นเรื่องการทำเพื่อประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือผลประโยชน์ของใคร
“วันนี้ต้องถอยหลังทั้งหมด แล้วนับศูนย์ใหม่ รวมไปถึงคดีของกลุ่มพันธมิตรฯด้วย เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้ากลับเข้ามาปรองดองกัน ดีกว่าปล่อยไว้และมีเหตุการณ์นองเลือดเกิดขึ้น” นายประชา กล่าว