xs
xsm
sm
md
lg

เปิดผลศึกษา กมธ.วุฒิฯ มือปืน “7 ตุลา” ห้อยบัตรปลอมการ์ดพันธมิตรฯ!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ภาพบุคคลลึกลับแต่งกายคล้าย “การ์ดพันธมิตรฯ” เล็งปืนออกมาจากกำแพงสวนสัตว์ดุสิตและลั่นกระสุนเข้าใส่ฝูงชนและเจ้าหน้าที่บริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมนั้น ถูกฝ่ายรัฐบาลและตำรวจ นำไปอ้างอิงว่า นี่คือ หลักฐานการใช้อาวุธของฝ่ายพันธมิตรฯ และถูกนำไปขยายความต่อในวีซีดี “พันธมิตรฯฆ่าประชาชน” ที่ฝ่ายรัฐบาล-ตำรวจ ทำออกแจกจ่ายเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของพันธมิตรฯ
 
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษากรณีเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 ของวุฒิสภา กลับปรากฏว่า “มือปืน” คนนั้น มีหลักฐานหลายประการที่ส่อว่าเป็นการแอบอ้างเพื่อให้ร้ายพันธมิตรฯ ดังรายละเอียดผลการศึกษาในข้อที่ 9 ดังนี้

9.ผู้ต้องสงสัยที่ใช้อาวุธปืนทำร้ายตำรวจ

ในเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อวันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2551 ได้มีบุคคลนิรนามได้ปรากฏตัวขึ้นในสวนสัตว์ดุสิต และใช้ปืนสั้นไม่ทราบชนิด เล็งยิงเข้าใส่ฝูงชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ บนถนนอู่ทองในด้านหน้ารัฐสภาระหว่างเกิดเหตุชุลมุน จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจากการกระทำดังกล่าว โดยบุคคลดังกล่าว ถูกถ่ายภาพได้โดยช่างกล้องของ หนังสือพิมพ์มติชนประจำกองบัญชาการกองทัพไทย

บุคคลนิรนามดังกล่าว ได้แต่งกายโดยใส่หมวกแก๊ปสีดำไม่มีสัญลักษณ์ สวมแว่นตากันน้ำสีดำส่วนที่คาดเป็นสีเหลือง ใส่เสื้อยืดสีเหลือง และสวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำซึ่งคล้ายกับเสื้อแจ๊กเก็ตของการ์ดอาสาพันธมิตรฯ ซึ่งมีสัญลักษณ์ตรงหน้าอกด้านซ้ายของเสื้อ ซึ่งไม่สามารถระบุตราสัญลักษณ์ได้ ส่วนกางเกงของบุคคลนิรนามเป็นกางเกงยีนส์ และสวมถุงมือผ้าสีดำ-เทา ไว้ที่มือซ้ายมือเดียว และที่น่าสังเกต คือ มีการแขวนป้ายสัญลักษณ์ ของอาสาสมัครรักษาความปลอดภัย (การ์ดอาสา) ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่เป็นป้ายบัตรรุ่นที่ 3 ซึ่งถูกยกเลิกใช้ไปแล้วเมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ.2551 (ในวันสลายการชุมนุมไม่ได้มีการใช้บัตรรุ่นนี้แล้ว)



9.1 ลักษณะของผู้ต้องสงสัยเปรียบเทียบกับอาสาสมัครรักษาความปลอดภัย (การ์ดอาสา) ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ในรูปซึ่งบุคคลนิรนามได้แขวนบัตรของอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จากการให้การของ นายชนะ ผาสุกสกุล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในการดำเนินหน้าที่ในการออกบัตรประจำตัวให้แก่อาสาสมัครรักษาความปลอดภัย (การ์ดอาสา) ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ให้การว่า บัตรประจำตัวของการ์ดอาสาที่ปรากฏอยู่กับบุคคลนิรนามนั้นเป็นบัตรรุ่นที่ 3 ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้วเมื่อ วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551

สาเหตุของการยกเลิกดังกล่าวมีเหตุผลหลัก 2 ประการคือ

1.มีบันทึกของการแจ้งการโดนขโมยบัตร และมีบัตรสูญหายเป็นจำนวนมาก
2.บัตรรุ่นที่ 3 เป็นบัตรรุ่นที่สามารถปลอมแปลงได้ง่าย


ดังนั้น นายชนะ ผาสุกสกุล จึงได้ทำการออกแบบบัตรรุ่นที่ 4 ขึ้นมาทดแทน โดยทุกครั้งในการเปลี่ยนบัตรของการ์ดอาสา จะมีการบันทึกสมาชิกเป็นระบบทะเบียนประวัติ เช่น รูปถ่าย ชื่อ นามสกุล รวมถึงบัตรประชาชนและพื้นที่รับผิดชอบของผู้ที่มาทำหน้าที่การ์ดอาสาในทำเนียบรัฐบาลและบริเวณต่างๆ โดยรอบ โดยจำเป็นต้องเป็นที่รับรู้ และมีการเซ็นกำกับโดยหัวหน้าการ์ดอาสา คือ นายกิตติชัย ใสสะอาด

9.1.1 หลักฐานเปรียบเทียบบัตรประจำตัวของผู้ต้องหาและการ์ดอาสาของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

1.บัตรการ์ดอาสารุ่นที่ 3 ซึ่งปรากฏอยู่กับบุคคลนิรนาม ซึ่งถูกยกเลิกไปในวันที่ 24 กันยายน พ.ศ.2551



ลักษณะบัตรการ์ดอาสารุ่นที่ 3 ตัวบัตรจะใส่ไว้ในซองพลาสติกใส โดยด้านบนจะมีคำว่า การ์ดเป็นภาษาอังกฤษพิมพ์ว่า GUARD ตัวอักษรเป็นสีเขียวอ่อน ตัดกับแถบสีเขียวเข้ม เป็นคำว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และมีตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ว่า People's Alliance for Democracy ถัดลงมาเป็นสัญลักษณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีลายคล้ายลายไม้เลื้อย นกบินจำนวน 4 ตัว ถัดลงมาเป็นตัวอักษรพิมพ์ว่า มัฆวาน' 51 เป็นตัวอักษรสีแดง และข้างล่างสุดเป็นแถบสีขาว ด้านซ้ายเป็นลายเซ็น ของ นายกิตติชัย ใสสะอาด หัวหน้าการ์ดอาสา รุ่นที่ 4 ที่เริ่มใช้ในวันที่ 24 กันยายน พ.ศ.2551

2.บัตรการ์ดอาสารุ่นที่ 4 ที่เริ่มใช้ในวันที่ 24 กันยายน พ.ศ.2551



รูปแบบของการ์ดอาสารุ่นที่ 4 ตัวบัตรจะถูกเคลือบด้วยแผ่นพลาสติกแข็ง ตัวพื้นบัตรจะเป็นสีน้ำเงิน ด้านบนสุดเขียนว่า การ์ดอาสา เป็นตัวอักษรสีน้ำเงินอ่อน ใต้ลงมาจะเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษสีแดงพิมพ์ใหญ่พิมพ์ว่า SECURITY STAFF ตรงกลางบัตรจะเป็นสัญลักษณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทางขวาล่างของสัญลักษณ์จะเป็นแทบสีส้มแล้วมีคำว่า ไทยคู่ฟ้า'๕๑ ด้านล่างจะเป็นรูปตึกทำเนียบรัฐบาลถัดลงมาจะพิมพ์ว่าประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และมีตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ว่า People's Alliance for Democracy แถบขาวสุดท้าย ด้านซ้ายจะเป็นรหัสของบัตร แล้วด้านขวาจะเป็นลายเซ็นของนายกิตติชัย ใสสะอาด หัวหน้าการ์ดอาสา ส่วนด้านหลังจะเป็นการประทับวันที่ว่าเริ่มใช้เมื่อ วันที่ 24 กันยายน พ.ศ.2551

ดังนั้น จึงเป็นไปได้ที่จะสันนิษฐานว่า บัตรของบุคคลนิรนามที่ยิงปืนใส่ตำรวจอาจจะไม่ใช่การ์ดอาสาของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะเป็นบัตรรุ่นที่ 3 ซึ่งถูกยกเลิกใช้ไปและมีการบันทึกถึงการหายไปของบัตรรุ่นดังกล่าว ซึ่งมีบันทึกไว้เป็นหลักฐานและมีพยานบุคคลว่ามีการจับคนที่ทำบัตรรุ่นที่ 3 ปลอมเพื่อเข้ามาในที่ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย




เปรียบเทียบบัตรการ์ดอาสารุ่นที่ 3 กับรุ่นที่ 4

9.1.2 หลักฐานเปรียบเทียบการแต่งกายระหว่างผู้ต้องสังสัยและการ์ดอาสา
ผู้ต้องสงสัยได้สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำ คลุมเสื้อยืดสีเหลือง โดยถ้าหากเปรียบเทียบอย่างละเอียดกับเสื้อเแจ๊กเก็ตของอาสาสมัครรักษาความปลอดภัย (การ์ดอาสา) ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะเห็นได้ว่ามีจุดที่แตกต่างกันชัดเจน 2 จุด คือ 1.สัญลักษณ์เสื้อตรงหน้าอกด้านซ้าย ซึ่งเสื้อของการ์ดอาสาจะเป็นสัญลักษณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ส่วนบุคคลนิรนามไม่ใช่รูปสัญลักษณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย



จากภาพจะสังเกตได้ว่าเครื่องหมายตรงหน้าอกจะเป็นเครื่องหมายที่แตกต่างกันแต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเครื่องหมายของบุคคลนิรนามคือเครื่องหมายอะไร เพราะภาพไม่มีความละเอียดเพียงพอ แต่ก็สามารถดูออกได้ว่าไม่ใช่เครื่องหมายของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่การ์ดอาสาใช้เป็นสัญลักษณ์




ประเด็นต่อมา คือ หลังเสื้อของการ์ดอาสาจะมีสัญลักษณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งจะมีคำว่า STAFF เขียนอยู่เรียงจากบนลงล่าง ส่วนคำที่อยู่ข้างล่างสัญลักษณ์ จะเป็นประโยคว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือไม่ก็จะเป็นคำว่านักรบประชาชน เป็นต้น แต่เสื้อที่บุคคลนินามใส่นั้นไม่ปรากฏประโยคใด หรือสัญลักษณ์ใดที่บ่งบอกว่าตนเองเป็นการ์ดอาสา

แต่ในเรื่องของเครื่องแต่งกายนั้น เป็นการยากที่จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นการ์ดอาสาจริงหรือเป็นบุคคลที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อสร้างความวุ่นวายให้แก่การชุมนุม เพราะเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายทั้งของตำรวจหรือของพันธมิตรฯ แต่ยกประเด็นนี้ขึ้นมาเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างเพื่อให้เข้าใจถึงการแต่งกายของการ์ดอาสาพันธมิตรฯ มากยิ่งขึ้น

9.1.3 ลักษณะและกฎระเบียบของอาสาสมัครรักษาความปลอดภัย (การ์ดอาสา)ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ภายใต้คำสาบานต่อธงชาติไทย อาสาสมัครพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกคนต้องพยายามกระทำหน้าที่เพื่อปกป้องรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน จะยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ดูแลมิให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ทำร้ายกัน และจะประพฤติตนตามที่ให้สัตย์สาบานไว้โดยเคร่งครัด

1.ต้องเตรียมตัวที่จะปกป้องรักษาชีวิตประชาชน และไม่ต่อสู้โดยใช้อาวุธกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ

2.ต้ององอาจ อดทน อดกลั้น กล้าหาญเสมอ

3.ต้องฟังคำบังคับบัญชาในทางที่ชอบของหัวหน้าอาสาสมัครพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

4.ต้องไม่เกียจคร้าน และบิดพลิ้วต่อหน้าที่ เมื่อทำการสิ่งใดต้องกระทำโดยน้ำใจสุจริต และกระทำไปโดยเต็มความสามารถของตน ไม่หน้าไหว้หลังหลอก และต้องไม่เห็นแก่ญาติมิตร หรือนึกถึงประโยชน์ของตนยิ่งเสียไปกว่าประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

5.ต้องซื่อตรงต่อเพื่อน รักษาความสามัคคี และมีความโอบอ้อมอารี แก่เพื่อนอาสาสมัครด้วยกัน

6.ประพฤติตนเป็นคนดี ทั้งในเวลาทำหน้าที่อาสาสมัครและนอกเวลา ไม่ทำความเสียหายให้เกิดขึ้นแก่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

7.เป็นผู้ยึดมั่นศรัทธาแนวทางการต่อสู้แบบสันติ สงบ อหิงสา

หน่วยรักษาความปลอดภัยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ข้อปฏิบัติ
1.ต้องใช้กริยาวาจาที่สุภาพ เรียบร้อยต่อผู้ชุมนุมและผู้ร่วมงานด้วยกัน
2.ต้องเคารพและปฏิบัติตามคำสั่งที่ถูกต้องของหัวหหน้า และตามมติที่ประชุม
3.ต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
4.ต้องตั้งใจปกป้องรักษาชีวิตและทรัพย์สินประชาชน
5.ต้องซื่อสัตย์ สุจริต ปลอดจากการแสวงหาผลประโยชน์ทั้งปวง
6.ต้องกล้าหาญ อดทน อดกลั้น ทนต่อการยั่วยุเสมอ
7.ต้องเป็นผู้ยึดมั่นศรัทธาแนวทางการต่อสู้แบบสันติ สงบ อหิงสา
8.ต้องใช้ท่วงทำนองที่สุภาพในการตรวจค้น โดยเฉพาะผู้ชายต้องไม่ถูกเนื้อต้องตัวสตรี
9.ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลทรัพย์สินของทางราชการไม่ให้สูญหายและเสียหาย
10.ต้องมุ่งมั่นสร้างความสามัคคี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการชุมนุม (คือ การกู้ชาติ)

ข้อห้าม
1.ห้ามก่อการทะเลาะวิวาท ทั้งต่อผู้ร่วมงานด้วยกัน หรือต่อพันธมิตร
2.ห้ามผู้ที่มึนเมาเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม
3.ห้ามลักขโมยสิ่งของทุกชนิด
4.ห้ามดื่มสุรา เบียร์ หรือเสพติ่งเสพติดทุกชนิดในที่ชุมนุม
5.ห้ามนำอาวุธหรือส่วนประกอบของอาวุธทุกชนิดเข้าที่ชุมนุม
6.ห้ามนำยาเสพติดทุกชนิดเข้ามาเสพหรือจำหน่ายในที่ชุมนุม

ดังนั้น ถ้าหากบุคคลนิรนามเป็นการ์ดอาสา ก็จะต้องถือว่าผิดกฎที่ไม่ยึดหลัก ต้องเป็นผู้ยึดมั่นศรัทธาแนวทางการต่อสู้แบบสันติ สงบ อหิงสา และต้องเคารพปฏิบัติตามคำสั่งที่ถูกต้องของหัวหน้า และตามมติที่ประชุม เพราะนายกิตติชัย ใสสะอาด ซึ่งเห็นหัวหน้าการ์ดได้ย้ำอยู่ตลอดเวลาว่าให้ใช้หลัก สงบ อหิงสา และ ห้ามใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากจำเป็นก็สามารถป้องกันตัวเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่การใช้ปืนสั้นเล็งยิงแบบบุคคลนิรนามคนนั้น

9.2 ลักษณะของอาวุธที่ใช้ทำร้ายตำรวจ
ปืนสั้น

9.3 เจ้าหน้าที่ตำรวจที่บาดเจ็บจาการใช้อาวุธปืนจากผู้ต้องสงสัย
ในเหตุการณ์สลายการชุมนุม มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บจากกระสุนปืน จำนวน 3 นายจากข้อมูล CD พันธมิตรฯฆ่าประชาชน ได้แก่

1.ส.ต.อ.จักรา จันทชัย บก.ตปท.ถูกยิงที่คอด้านขวา กระสุนทะลุหลอดลมแตก หลอดอาหารทะลุ กระสุนฝังใน



2.รัฐนนท์ ศุภมงคลเจริญ สังกัด กก.2 บก.ตปพ.ถูกยิงจากด้านหลังตรงคอ กระสุนไปโดนเข้าที่ไหล่ขวา กระดูกแตก



3.ด.ต.เสก ตราเงิน กก.2 บก.ตปพ.ถูกอาวุธยิงราวนมขวาทะลุปอด



ซึ่งสันนิษฐานได้ว่า น่าจะเป็นตำรวจที่ถูกทำร้ายจากกระสุนปืนสั้นของบุคคลนิรนามคนดังกล่าว แต่ตอนนี้ไม่มีพยานหลักฐานทางวัตถุและหลักฐานทางบุคคลมากพอที่จะตัดสินได้ว่า กระสุนเหล่านั้นมาจากใคร และหลักฐานที่สำคัญ คือ กระสุนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจโดนยิงนั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น