“สมศักดิ์” ย้ำ “พันธมิตรฯ” ยึดคุณธรรม-จริยธรรม ช่วยบรรลุผลสู่ “การเมืองใหม่” เหตุเพราะจะทำให้ “สังคม” ไม่ยอมรับ “คนเลว” เข้าไปบริหารประเทศ พร้อมยกคำสอน “คนไม่ดี” หมายถึงคนสกปรก” พร้อมชี้ทางร่วม “ทำความดี” ด้วยการไม่เบียดเบียนผู้อื่น ถือเป็นกุศลเพื่อประเทศชาติ-ปชช.
วานนี้ (14 พ.ย.) นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมกันเพื่อการเมืองใหม่ว่า คนส่วนใหญ่ที่มาร่วมชุมนุมกันที่ทำเนียบฯ ทุกวันนี้นั้นเพราะต้องการสังคมอารยะ และต้องการสังคมที่เป็นประชาธิปไตย ฉะนั้นเราต้องช่วยกันทำให้ถูกต้อง อีกทั้งเราจะต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองสะอาด เหมือนที่นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ อีกคนหนึ่ง ซึ่งเน้นย้ำให้เราร่วมกันรักษาความสะอาดรอบๆ บริเวณทำเนียบฯ และบริเวณรอบถนนราชดำเนิน
“ขอให้พ่อแม่พี่น้องที่มาร่วมชุมนุมอย่าทิ้งเศษกระดาษ หรือก้นบุหรี่ เพราะจะทำให้เกิดความไม่สะอาด โดยเราจะต้องสะอาดทั้งภายนอก และภายในจิตใจ เพื่อการเมืองใหม่ ที่สำคัญการถ่ายปัสสาวะของผู้ชุมนุม จะต้องไม่มักง่าย เพราะจะทำให้เกิดกลิ่น และเกิดเชื้อโรค ซึ่งจะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมา ฉะนั้นเราต้องเห็นแก่ตัวให้น้อยลง โดยผมได้ขอร้องให้คนที่ค้าขายทั้งด้านหลังเวทีพันธมิตรฯ และบริเวณ ถ.พิษณุโลก ย้ายไปขายยังฝั่งคลอง เพราะไม่เช่นนั้นแล้วคนส่วนรวมก็จะไปออกันเพื่อที่จะซื้อของ” นายสมศักดิ์ กล่าว
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า เราต้องช่วยกันดูแลทรัพย์สินของทั้งพี่น้องที่มาชุมนุม และต้องรักษาทรัพย์สินของทางราชการ ดังนั้นโดยคุณธรรมแล้ว แม้เข็มล่มเดียวเราก็ไม่ควรไปหยิบเอามา ถ้าไม่ใช่ของๆ เรา นั่นคือคุณธรรม และจริยธรรมในทางการเมือง เพราะถ้าเมื่อใดสังคมมีความตระหนักในคุณธรรม และจริยธรรม เมื่อนั้น สังคมก็จะไม่ยอมรับคนที่ไร้คุณธรรม และไร้จริยธรรมเข้าไปบริหารประเทศ และเราก็ไม่ต้องเหนื่อยที่จะต้องไปขับไล่คนไม่ดี
“ตอลดเวลาที่พันธมิตรฯ ชุมนุมกัน แสดงให้เห็นว่าเราทำได้ และต่อไปจะขยายเป็นวงกว้างออกไปสู่การเมืองใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสมอภาคกันทุกคน ที่สำคัญคนที่มาร่วมชุมนุมนั้น มาด้วยความเข้าใจ และมีสติปัญญา รวมทั้งมีคุณธรรม และมีจริยธรรมสูง ส่วนมติของแกนนำพันธมิตรฯ ที่จะมีการจัดลำดับกรรมการดูแลการชุมนุมเพื่อให้เกิดความปลอดภัย โดยจะมีการพูดแบบคนที่เจริญแล้ว เพราะจะไม่มีพฤติกรรมการข่มขู่ หรือตะคอก เพื่อสังคมที่เราใฝ่ฝันจนถึงวินาทีสุดท้ายที่เราได้รับชัยชนะ” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวกรณีที่ผู้ชุมนุมนำของมาบริจาคเป็นจำนวนมากว่า เมื่อผู้ชุมนุมเอาของมาบริจาคให้แล้ว เราไม่ควรเอาไปทิ้งขว้าง เพราะนั่นหมายถึงความไม่มีอารยะต่อการเมืองใหม่ รวมทั้งกรณีที่มีของหายเกิดขึ้นในที่ชุมนุม ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะสถานที่ที่เรากำลังเรียกหาการเมืองใหม่คือสถานที่ที่เจริญแล้ว ฉะนั้นเราจึงไม่ควรเอาเปรียบกัน ไม่เห็นแก่ตัว เพราะความเห็นแก่ตัวทางศาสนาพุทธนั้น หมายถึงคนสกปกปรก ตรงกันข้ามคือ คนเสียสละ ก็คือคนที่สะอาด เพราะไม่เบียดเบียนคนอื่นทั้งทางตรง และทางอ้อม นี่คือสิ่งที่เราต้องบำเพ็ญกุศล
“พี่น้องที่มาชุมนุมทุกส่วน ควรจะเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นภารดรภาพ ซึ่งจะต้องช่วยกันบำเพ็ญประโยชน์โดยไม่ได้นัดหมาย โดยไม่เบียดเบียนคนอื่น ก็จะอิ่มบุญที่ได้ทำความดี ชีวิตก็จะมีค่า ซึ่งทุกๆ ศาสนาพูดเหมือนกันหมดว่า ควรทำความดี ละเว้นความชั่ว ฉะนั้นการที่เรามาบำเพ็ญกุศลเพื่อส่วนรวมนั้น ก็หมายถึงเราทำเพื่อทุกคน และเมื่อแปลเป็นภาษาการเมืองก็คือ ความเป็นประชาธิปไตยโดยเนื้อแท้ เพราะจะต้องมีธรรมาธิปไตย เพราะผมฝันที่จะเห็นพ่อแม่พี่น้องมีความสุข ซึ่งจะขยายไปทั่วประเทศ และต่อไปนี้ใครจะเป็นใหญ่เป็นโตก็ไม่สำคัญแล้ว” นายสมศักดิ์ กล่าว
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า การที่เรามาร่วมกันชุมนุมนั้น เราไม่ได้อาฆาตมาดร้าย หรือโกรธแค้นใครเป็นการส่วนตัว แต่ที่เราอธิบายมาโดยตลอด เพราะเราต้องการแกะเปลือกให้สังคมเปรียบเทียบระหว่างคนดี กับคนไม่ดี แล้วเราจะได้ขับเคลื่อนสังคมใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยจริยธรรม และคุณธรรม หรือที่เราเรียกว่าอารยะประชาธิปไตยขนานแท้ ซึ่งจะเป็นจริงได้หรือไม่ ไม่มีใครรู้ แต่ทุกคนมีสิทธิที่จะฝัน และสามารถเป็นจริงได้ถ้าทุกคนเห็นพ้องต้องกัน ก็จะทำให้คนชั่วอยู่ไม่ได้ ดังนั้นจึงขอฝากความฝันเล็กๆ นี้ ไปกับพี่น้องที่มาร่วมชุมนุม เพราะถ้าทำแล้วเกิดประโยชน์ต่อสังคมไทยแล้ว ก็จะกลายเป็นบุญกุศลของประเทศชาติ และประชาชนของเรา
