xs
xsm
sm
md
lg

“พิภพ” เตือน “แม้ว” หยุดเคลื่อน-หวั่นยกระดับเป็นขบวนก่อการร้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิภพ ธงไชย
“พิภพ” เตือน “นช.แม้ว” รีบยอมรับคำตัดสิน หยุดเคลื่อนไหวทำลายกระบวนการยุติธรรมและสถาบันต่างๆ ก่อนบานปลายเป็นขบวนการก่อการร้ายแบบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยไม่รู้ตัว ยกสปิริตคู่ชิง ปธน.มะกันเป็นตัวอย่างการรู้จักยอมแพ้ เพื่อความขัดแย้งยุติ สวน “บิ๊กตุ้ย” กล่าวหาพันธมิตรฯ ทำธุรกิจรับเงินบริจาค ยันรับเท่าที่จำเป็นต้องใช้เพื่อการชุมนุมและช่วยผู้บาดเจ็บ ไม่เคยหากำไร

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย 

เวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 9 พ.ย. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้ก่อนขึ้นเวทีมีนักธุรกิจระดับผู้จัดการโรงงานอุตสาหกรรมมาพูดกับตนว่า ถึงตอนนี้อยากจะให้นักธุรกิจออกมาแสดงตัวว่าจะเอาอย่างไรกับบ้านเมืองดี ยิ่งตอนนี้ใกล้ชนะยิ่งต้องออกมา ไม่ต้องถามหรอกว่าสู้หรือไม่สู้ ชนะหรือไม่ชนะ เพราะยังไงเราก็ชนะอยู่แล้ว แต่นักธุรกิจควรจะออกมาเพื่อจะบอกว่าการเมืองใหม่ควรทำอย่างไร

การที่เราสู้มา 160 กว่าวันชัยชนะมันมาจริงๆ แต่ขณะที่ใกล้ชัยชนะ เศรษฐกิจของชาวบ้านแย่ลง คนว่างงานอาจจะเพิ่มขึ้น ราคาข้าวที่รัฐบาลนายสมัครบอกว่าจะขึ้นไปถึงเกวียนละ 3 หมื่น รัฐบาลมีหน้าที่ที่ควรจะเข้ามาแก้เรื่องนี้ กลับไม่สนใจพูดเลย สนใจแต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ สนใจเอา 111 ศพออกให้ได้ สนใจแก้ประกาศ คปค.ให้ได้ และสนใจสร้างความแตกแยกให้สังคม ทั้งที่ตัวเองกำลังจะแพ้แล้ว ยังประกาศตัวเองว่า แพ้ไม่เป็น ดังนั้น เราต้องทำให้เขารู้จักแพ้บ้าง เพราะถ้าการเมืองไม่รู้จักแพ้สังคมก็จะก้าวต่อไปไม่ได้

นายพิภพ กล่าวว่า ต้องดูตัวอย่างจากการเมืองในสหรัฐอเมริกาที่รู้จักแพ้ นายแมคเคนเมื่อแพ้แล้วก็บอกว่า วานเราแข่งกันแต่พรุ่งนี้เราจะทำงานร่วมกันเพื่อประเทศสหรัฐฯ ขณะที่นายโอบามาก็พูดคำสำคัญตอนหนึ่งว่า เมื่อผลเลือกตั้งออกมาแล้ว จะไม่มีแดงสีฟ้าอีกแล้วจะมีแต่ความเป็นหนึ่งเดียว เราก็จะทำเช่นกัน เพราะพวกสีแดงก็คือประชาชน เขาอาจจะได้ข้อมูลผิดๆ ก็แล้วแต่ แต่เมื่อเราเอา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลงได้แล้ว จะสีแดง สีเหลือง หรือสีฟ้า ก็ควรเป็นสีเดียวกัน พวกเรามี 20 ล้าน เขาอาจจะมี 10 ล้าน 5 ล้านเราไม่รู้ แต่หลังจากนั้นเราคนไทย 65 ล้านคน ถือว่ามีพระมหากษัตริย์องค์เดียวกัน และมีชาติที่จะต้องช่วยกันทำให้ดียิ่งขึ้น เราจะโกรธจะเกลียดยังไงก็แล้วแต่ในการต่อสู้ แต่ประเทศไทยมีหนึ่งเดียว ถึงจะมีหลายศาสนาแต่ก็เป็นหนึ่งเดียว เราต้องหยุดความแตกแยก แล้วมาเริ่มต้นใหม่

“ทักษิณใกล้ถึงจุดที่เขาต้องคิดใหม่ ถ้าเขาสู้ต่อไป เขาจะถูกสาปแช่งจากคนไทย ว่าสร้างความแตกแยก เขาเป็นนายกฯ ที่ใช้นโยบายประชานิยม จนได้รับความนิยมจากประชาชนมาก แต่ถ้าเขาไม่หยุด อะไรจะเกิด คน 19 ล้านเสียง หรือ 16 ล้านเสียงที่เคยเลือกเขานั้น จะเกลียดเขาไปตลอด” นายพิภพกล่าว

นายพิภพ กล่าวว่า ในการหาเสียงเลือกตั้งของนายโอบามานั้น ได้ใช้เงินบริจาคจากประชาชนถึง 600 ล้านเหรียญ แต่ส่วนใหญ่จะเป้นการบริจาคคนละ 10 เหรียญ 20 เหรียญ หรือ 100 เหรียญ ไม่ได้เงินก้อนใหญ่มาจากนายทุน เช่นเดียวกับพันธมิตรฯ ที่ได้เงินบริจาคจากประชาชนระดับพันบาท เป็นส่วนใหญ่

นายพิภพ กล่าวต่อว่า ตามที่มีฝ่าย นปก.(พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ลุงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) กล่าวหาว่า แกนนำพันธมิตรฯ เชิญชวนให้คนบริจาคเงิน เป็นการทำธุรกิจนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะในการประกาศรับบริจาคในแต่ละครั้งถ้าได้จำนวนมากพอเราก็บอกให้หยุด เช่นการบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ นอกจากนี้ที่พี่น้องมาบริจาคให้ส่วนหนึ่งเพราะต้องการให้การชุมนุมอยู่ได้ และเอเอสทีวีต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งการรับบริจาคตรงนี้ไม่ได้มีกำไร นายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็เป็นหนี้อยู่นับสิบล้านบาท ส่วนการบริจาคให้กองทัพธรรมก็นำไปซื้ออาหาร ส่วนการบริจาคมาที่ตนก็นำไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ

นายพิภพ ได้กล่าวถึงการรักษาตัวของผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.และเหตุการณ์ต่อเนื่องว่า ตอนนี้เมื่อการรักษามาถึงจุดหนึ่งได้มีการย้ายโรงพยาบาลกันหมดทุกคนแล้ว หลายคนมีอาการดีขึ้น เช่น นางรุ่งทิวา ธาตุนิยม ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ รพ.จุฬาฯ เริ่มรับอาหารได้มากขึ้น ส่วนนายเสถียร การ์ดอาสาที่ถูกระเบิดที่สะพานมัฆวานได้ย้ายไปอยู่ที่ รพ.ศิริราช อาการยังหนักอยู่จึงขอให้พวกเราให้กำลังใจ ส่วนนายเมธี อู่ทอง ที่ถูกระเบิด ได้ย้ายไปอยู่ที่ รพ.จุฬาฯ แพทย์ได้นำเลือดที่คั่งในสมองออกแล้ว และเตรียมผ่าตัดอีกครั้ง

นายพิภพ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของทักษิณว่า ถ้าไม่ระวังความเคลื่อนไหวของตัวเอง มันจะไม่ใช่เพื่อตัวเองพ้นผิดเท่านั้น แต่จะนำไปสู่ความแตกแยก ทำให้สถาบันต่างๆ ขาดความน่าเชื่อถือ กระทบต่อความมั่นคงของชาติ เทียบกันกับคนไทยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเรื่องนี้ เริ่มต้นด้วยความไม่ยุติธรรมของระบบราชการมาหลายสิบปี มีการจับฆ่าถ่วงน้ำ แล้วไม่สามารถจับใครได้ แล้วเรามักย้ายข้าราชการไม่ดีไปชายแดนหมดทั่วประเทศ ผลก็คือ พวกนั้นไม่เปลี่ยนนิสัย ใช้นิสัยเดิม กระทำเลวกับชาวบ้านที่อยู่ไกลปืนเที่ยง ความไม่ยุติธรรมก็เกิดขึ้น เมื่อแก้ไม่ได้ความรุนแรงก็เกิด

จนบัดนี้เกิดความรุนแรงทำลายโครงสร้างระบบ และมีการพูดไปถึงขั้นว่า ปัตตานีที่เป็นรัฐอิสระในอดีตนั้น ถือเป็นรัฐอิสลามหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นก็จะถือว่าถูกรุกรานโดยคนต่างศาสนา สามารถประกาศสงครามศาสนาได้ และถูกผู้ก่อการร้ายพยายามยกประเด็นขึ้นมา เพื่อเปลี่ยนความรุนแรงเป็นสงครามศาสนา แต่โชคดีที่ไม่สามารถตีความเช่นนั้นได้ และโชคดีที่มีพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์ทุกศาสนา ซึ่งเราไม่เคยระบุเลยว่าศาสนาใดเป็นศาสนาประจำชาติ ระบุเพียงว่าพระมหากษัตริย์เป็นพุทธมามกะ และทรงดูแลทำนุบำรุงทุกศาสนา ด้วยการปฏิบัติเช่นนี้มา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จึงไม่ก่อให้เกิดสงครามทางศาสนาได้ ชาวพุทธชาวมุสลิมรักกันได้ เมื่อมีงานของแต่ละศาสนาก็ไปร่วมได้ เพียงแต่ไม่ทำพิธีของต่างศาสนาเท่านั้น และความเป็นพี่น้องคนไทยไม่มีขีดคั่นทางศาสนา

นายพิภพ กล่าวว่า เมื่อเดือนที่ผ่านมา กลุ่มสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามชูเรื่องเชียงใหม่ที่มีกษัตริย์เป็นของตัวเองขึ้นมา ซึ่งพวกนี้กำลังล้ำเขตแดนไปสู่การแบ่งแยกภาค เหมือนที่นักประวัติศาสตร์ในปัตตานีพยายามทำ

“เมื่อเราขจัดทักษิณได้ เอาผิดเขาได้ ถือแม้เขาไม่ได้มารับโทษ ก็จะถูกปฏิเสธจากประเทศต่างๆ ไม่ให้อยู่ แต่เราคนไทยต้องอยู่ร่วมกันได้ หลังทักษิณไม่อยู่ พวกเสื้อแดงต้องอย่าเคลื่อนไหวเกินเลย แม้คุณคิดว่า ทักษิณไม่ผิด แต่คุณต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรม เพราะถ้าไม่ยอมรับเรื่องจะไม่จบ”

นายพิภพ กล่าวต่อว่า ในสหรัฐอเมริกานั้น ตอนเลือกตั้งประธานธิบดีที่นายจอร์จ ดับเบิลยู. บุช แข่งกับอัล กอร์ มีปัญหาในฟลอริดา ซึ่งน้องชายนายบุช เป็นผู้ว่าการรัฐ มีข้อสงสัยว่าจะช่วยให้นายบุชได้คะแนน นายกอร์จึงให้ส่งเรื่องขึ้นสู่ศาลสูงสุด เมื่อศาลพิพากษาให้นายบุชชนะ แม้จะยังมีข้อสงสัย แต่นายกอร์ก็ให้หยุด โดยเขาพูดว่า ถ้าเราไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาลสูง เรื่องมันก็ไม่จบ

ดังนั้น ทุกอย่างที่เกิดข้อสงสัย มันต้องมีที่จบ ประเทศที่มีอารยะ เขาจะใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่จบของปัญหาทั้งมวล แต่ไทยเรา พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมจบ นี่เป็นปัญหา เพราะเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว เขาให้คุณมาต่อสู้ ให้ใช้ทนายได้ แต่เมื่อคุณหญิงพจมานแพ้คดีหลีเลี่ยงภาษี ก็ไม่ยื่นอุทธรณ์แล้วหนีคดี กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ศาลก็เปิดโอกาสให้ใช้ทนาย ก็ไม่ยอมมา หนีไปแล้วบอกจะไม่ยอมรับศาล ขณะที่ศาลก็ใจดี เมื่อถึงวันแล้วยังไม่มา ก็รออีก 30 วัน ให้ไตร่ตรองอีกทีว่าจะมาหรือไม่ เมื่อไม่มาจึงอ่านคำพิพากษา ผลออกมาคือผิด สั่งให้ติดคุก 2 ปี

“แต่คุณทักษิณก็ไม่หยุด ทั้งที่ศาลพิพากษาในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อไม่หยุด เรื่องก็ไม่จบ จนอังกฤษต้องตัดสินใจว่าต้องหยุดนักการเมืองคนนี้ที่มาใช้พื้นที่อังกฤษก่อกวนระบบศาลไทยและลามปามไปสถาบันชั้นสูงอีก” นายพิภพ กล่าว

“เมื่อเราขจัดทักษิณได้ เอาผิดเขาได้ ถือแม้เขาไม่ได้มารับโทษ ก็จะถูกปฏิเสธจากประเทศต่างๆ ไม่ให้อยู่ แต่เราคนไทยต้องอยู่ร่วมกันได้ หลังทักษิณไม่อยู่ พวกเสื้อแดงต้องอย่าเคลื่อนไหวเกินเลย แม้คุณคิดว่า ทักษิณไม่ผิด แต่คุณต้องยอมรับ เพราะถ้าไม่ยอมรับเรื่องจะไม่จบ”

นายพิภพ กล่าวต่อว่า ในสหรัฐอเมริกานั้น ตอนเลือกตั้งประธานธิบดีที่นายจอร์จ ดับเบิลยู. บุช แข่งกับอัล กอร์ มีปัญหาในฟลอริดา ซึ่งน้องชายนายบุช เป็นผู้ว่าการรัฐ มีข้อสงสัยว่าจะช่วยให้นายบุชได้คะแนน นายกอร์จึงให้ส่งเรื่องขึ้นสู่ศาลสูงสุด เมื่อศาลพิพากษาให้นายบุชชนะ แม้จะยังมีข้อสงสัย แต่นายกอร์ก็ให้หยุด โดยเขาพูดว่า ถ้าเราไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาลสูง เรื่องมันก็ไม่จบ

ดังนั้น ทุกอย่างที่เกิดข้อสงสัย มันต้องมีที่จบ ประเทศที่มีอารยะ เขาจะใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่จบของปัญหาทั้งมวล แต่ไทยเรา พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมจบ นี่เป็นปัญหา เพราะเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว เขาให้คุณมาต่อสู้ ให้ใช้ทนายได้ แต่เมื่อคุณหญิงพจมานแพ้คดีหลีเลี่ยงภาษี ก็ไม่ยื่นอุทธรณ์แล้วหนีคดี กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ศาลก็เปิดโอกาสให้ใช้ทนาย ก็ไม่ยอมมา หนีไปแล้วบอกจะไม่ยอมรับศาล ขณะที่ศาลก็ใจดี เมื่อถึงวันแล้วยังไม่มา ก็รออีก 30 วัน ให้ไตร่ตรองอีกทีว่าจะมาหรือไม่ เมื่อไม่มาจึงอ่านคำพิพากษา ผลออกมาคือผิด สั่งให้ติดคุก 2 ปี

“แต่คุณทักษิณก็ไม่หยุด ทั้งที่ศาลพิพากษาในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อไม่หยุด เรื่องก็ไม่จบ จนอังกฤษต้องตัดสินใจว่าต้องหยุดนักการเมืองคนนี้ที่มาใช้พื้นที่อังกฤษก่อกวนระบบศาลไทยและลามปามไปสถาบันชั้นสูงอีก” นายพิภพ กล่าว

นายพิภพ ได้กล่าวเตือน พ.ต.ท.ทักษิณว่า กำลังดำเนินการคล้ายกับขบวนการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยไม่รู้ตัว คือพยายามทำลายสถาบันต่างๆ มีการเคลื่อนไหวโดยใช้มวลชน ใช้คนกลุ่มหนึ่ง คือ นปก. ปาระเบิดที่จุดโน้นจุดนี้ ซึ่งการใช้มวลชนมี 2 แบบ คือส่วนหนึ่งเป็นมวลชนให้มานิยมตัวเอง ส่วนหนึ่งมวลชนเพื่อสร้างความรุนแรงแบบภาคใต้ โดยกล่าวหาว่า ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม

อีกด้านหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามยึดอำนาจรัฐโดยใช้การเลือกตั้ง เข้ามายึดสภา แล้วทำลายกระบวนการยุติธรรม ยึดสื่อ ทำสงครามข่าว ลดทอน โจมตีสถาบันต่างๆ ขณะที่ตนเองอยู่เมืองนอกก็ส่งเงินมาสนับสนุนการเคลื่อนไหว ใช้ความรุนแรง กระบวนการของทักษิณ จะถูกยกระดับ ทั้งการต่อสู้ทางการเมือง และการต่อสู้ด้วยข้ออ้างที่ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม การเคลื่อนไหวของฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณจะยกระดับคล้ายผู้ก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

“คุณเริ่มแบ่งสี แบ่งภาค ใช้สื่อ ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทย จึงขอเตือนให้ทบทวน ในการเคลื่อนไหวสนับสนุนทักษิณ ว่าถึงเวลาหรือยังที่ต้องยุติ เพราะศาลได้ตัดสินคดีความของคุณแล้ว ถ้าไม่ยุติ การเคลื่อนไหวสร้างความรุนแรง แบ่งภาคเหนือใต้ จะนำไปสู่ทฤษฎีการแบ่งแยกดินแดนในที่สุด โดยคุณไม่รู้ตัว

หยุด วันนี้ดีที่สุด ตอนนี้ทหารเริ่มรู้แล้ว จากเดิมคิดว่าทีแรกเป็นแค่ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ก็แค่เอาขึ้นศาล ตั้ง คตส.ขึ้นมารับผิดชอบ แต่ทักษิณอ้างว่าไม่เป็นธรรม เพราะ คตส.มาจากการแต่งตั้งของทหาร แต่พอเลือกตั้งเสร็จ ฝ่ายของคุณทักษิณได้เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจ พอศาลตัดสินออกมา คุณก็ยังตั้งคำถามอีก ทั้งที่เมื่อคำพิพากษาออกมาถึงที่สุด ก็ควรจะยุติได้แล้ว ทหารจึงเริ่มคิดว่าการเคลื่อนไหวของทักษิณ เป็นปัญหาความมั่นคง และจะนำไปสู่ความแตกแยกครั้งใหญ่

“คุณทักษิณต้องทบทวน จะได้ชื่อว่าเป็นคนไทยที่รักชาติ ไม่ต้องเร่ร่อนไปประเทศต่างๆ เพราะเขาจะไม่ยอมให้คุณเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความแตกแยกให้คนไทยอีก ถึงเวลาแล้วหรือยังที่สังคมไทย ต้องตัดคุณทักษิณออกจาประเทศไทยให้เด็ดขาด มิฉะนั้นประเทศไทยจะไม่มีวันอยู่อย่างสงบสุข” นายพิภพ กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น