หน.ปชป.ย้ำอีก “รัฐบาลเขยแม้ว” กำลังซ้ำเติมบ้านเมืองให้ลุกเป็นไฟ สนองคุณ “นายใหญ่” เดินหน้าแก้ รธน.ตั้ง ส.ส.ร.-นิรโทษกรรม เพื่อประโยชน์เพื่อพวกพ้อง ไม่เกี่ยวปัญหาบ้านเมือง หวั่นประเทศเสี่ยงเหตุรุนแรงรายวัน
วันนี้ (6 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลมีมติเดินหน้าแก้ไขมาตรา 291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.3 ว่า ตนไม่เข้าใจว่ารัฐบาลต้องการจะสร้างความขัดแย้งเพิ่มในสังคมได้อย่างไร ไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนต้องการเห็นในขณะนี้ เพราะปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ถือว่าสำคัญที่สุด ไม่ว่าราคาพืชผลทางการเกษตร หรือการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยงบประมาณกลางปี สิ่งนี้รัฐบาลควรเร่งจะทำ แต่รัฐบาลกลับมาทำในเรื่องที่สังคมเกิดความตึงเครียดขึ้น ตนไม่เห็นด้วย ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อทบทวนเรื่องนี้ และช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบจะดีกว่า
เมื่อถามว่า นายกฯ ระบุว่าเงื่อนเวลาที่เหมาะสมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ หลังพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในชั้นนี้ยังไม่มีความเหมาะสมเรื่องเก่ายังสะสางไม่เสร็จในเรื่องการสอบสวนเหตุการณ์ต่างๆ แต่กลับไปทำเรื่องใหม่ ดีไม่ดีก็ก่อเหตุใหม่ขึ้นมาอีก แล้วจะทำเพื่ออะไร ในขณะที่ทุกคนต้องการเห็นความสงบบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ส่วนที่นายกรัฐมนตรียืนยันว่า มติเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องถามนายกฯ ว่าตกลงแล้วมาทำงานให้ประชาชน หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
“ผมอยากย้ำว่า อยากให้รัฐบาลคิดถึงปัญหาของประเทศ เศรษฐกิจ และประชาชน ที่พูดอยู่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องนิรโทษกรรม หรือจะยกเลิกคำสั่ง คปค. มันเป็นปัญหาของตัวเองทั้งหมด ขอเรียกร้องว่าวันนี้ปัญหาของตัวเองพักไว้ก่อนได้หรือไม่ เอาปัญหาของบ้านเมือง แล้วให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้เสียก่อน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ต่อข้อถามว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชน ยื่นหนังสือให้ให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นคนกลางในการเจรจากับทุกฝ่ายเพื่อแก้วิกฤตชาติ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้กระบวนการที่สานเสวนา หรือที่จะหาแนวทางในการคลี่คลายปัญหาก็ควรจะทดลองและพยายามกันไป ซึ่งการสานเสวนานั้นตนอยากให้เดินหน้า แต่ก็เป็นห่วงว่าจะเดินหน้าแล้วประสบความสำเร็จหรือไม่ และสิ่งที่ตนคิดว่าจะช่วยได้คือต่างฝ่ายต้องลดเงื่อนไขของตัวเองลงมา รัฐบาลก็ควรจะพักเรื่อง ส.ส.ร. เรื่องนิรโทษกรรม ส่วนพันธมิตรฯ ก็ไม่ควรจะยืนยันอย่างเดียวว่ารัฐบาลจะต้องลาออก
เมื่อถามว่า การสานเสวนาจะต้องใช้ระยะเวลาอาจไม่ทันกับการแก้วิกฤตได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า งานสานเสวนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้าเขาเดินพลาดแล้วล้มไป ทุกอย่างก็ล้มเหลว ซึ่งก็เห็นใจเขา ซึ่งตนได้ฝากข้อสังเกตไปว่าทำงานช้าไม่ได้ เพราะความเสี่ยงมีทุกวัน