“พล.ต.จำลอง” ย้ำเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่การ์ดพันธมิตรฯ เป็นความผิดตำรวจ ที่ไม่ทำหน้าที่ เคยตั้งแนวรักษาการห่างจุดชุมนุม 50 เมตร เลิกไปเฉย แถมปัดความรับผิดชอบ อ้างเพราะเข้ามาในที่ชุมนุมไม่ได้ ยันไม่ร่วมเสวนา 4 ฝ่าย เหตุพันธมิตรฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝ่ายค้าน และ นปก.
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
เมื่อเวลา 20.45 น. วันที่ 31 ต.ค. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยได้กล่าวถึงการตอบคำถามผู้สื่อข่าวในช่วงเช้าว่า เรื่องที่ตำรวจอ้างว่าการเกิดเหตุร้าย (คนร้ายโยนระเบิดใส่การ์ดพันธมิตร) เมื่อเช้ามืดวันที่ 30 ต.ค.เพราะว่าตำรวจไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่ชุมนุมได้นั้น ไม่จริง ตำรวจไม่จำเป็นต้องเข้ามาข้างใน เพราะเหตุเกิดข้างนอก เดิมทีตำรวจเคยตั้งแถวเป็นแนวป้องกันอยู่ห่างข้างหน้าเรา 50-100 เมตร แต่ต่อมาตำรวจก็ไม่ทำหน้าที่อีกเลย จึงเป็นความผิดของตำรวจต่างหาก อย่ามาอ้างว่าเข้ามาไมได้
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามคำถามเดิมๆ ซึ่งที่จริงถามพี่น้องประชาชนที่มาชุมนุมก็ตอบได้ ไม่จำเป็นต้องมาถามตนหรือนายพิภพ ธงไชย ที่ว่าการสานเสวนา 4 ฝ่าย พันธมิตรฯ จะไปร่วมเสวนาด้วยหรือไม่นั้น บอกได้ทันทีว่าไม่ไป เพราะไม่เกี่ยวกับอีก 2 ฝ่ายเลย 4 ฝ่ายที่จะให้มาเจรจานั้นมี พันธมิตรฯ รัฐบาล ฝ่ายค้าน และนรกป่วนกรุง(นปก.) ซึ่งเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝ่ายค้าน หรือกับนรกป่วนกรุง เรื่องอะไรจะไปเสวนา เราไม่ไป
“เขายังถามว่าเราจัดกิจกรรมดาวกระจายเป็นอย่างไร เราบอกว่า เมื่อวานนี้ที่เราไปสถานทูตอังกฤษคนมากเกินคาด แล้วพี่น้องที่อยู่ทำเนียบก็ไมได้ไปเพิ่มเติม คนก็ยังไปกันมากมาย แสดงให้เห็นว่า ตอนเช้ามืดที่เกิดเรื่องที่ทำให้พวกเราบาดเจ็บนั้น พวกเราไม่กลัว เป็นสิ่งยืนยัน”
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า เมื่อวานตนได้พบกับ พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ นายทหารรุ่นน้องโรงเรียนนายร้อย จปร. ได้เล่าให้ฟังถึงนายทหารรุ่นพี่คนหนึ่งที่จบ จปร.รุ่น 4 ซึ่งมีชื่อเล่นว่าพี่บ้วน และขณะนี้กำลังนอนป่วย ได้บอกกับพล.อ.ปานเทพว่า ไม่อยากมาตายในลักษณะนี้คือตายด้วยโรคอยู่บนเตียง แต่อยากตายอย่างมีธงชาติคลุม ตายด้วยการปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ แต่ตอนนี้คงไม่มีโอกาสแล้ว ซึ่งแสดงว่าคนเรานั้น แม้จะต้องตายทุกคนแต่ก็เลือกวิธีการที่จะตายไมได้
พล.ต.จำลองเล่าว่า นักเรียนนายร้อย จปร.รุ่น 7 รุ่นของตนนั้นจบเมื่อปี 2503 ขณะที่มีศึกเหนือเสือใต้มากมาย ในประเทศมีสงครามกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ต่างประเทศมีสงครามในลาว ในเวียดนาม เมื่อจบมาต่างคนต่างแยกย้ายไปตามที่ต่างๆ จนปัจจุบันเพื่อในรุ่นเสียชีวิตไปแล้ว 72 คน แต่ที่ตายในสนามรบมีเพียงคนเดียว ส่วนอีก 71 คน ถ้ารู้ตัวก่อนตายคงพูดแบบพี่บ้วน ที่บอกว่าว่าอยากตายในหน้าที่ ดังนั้นเมื่อนึกถึงพวกเราที่เสียชีวิตไปทั้ง 2 คน คือสารวัตรจ๊าบ และน้องโบว์ ถือว่าตายในหน้าที่ขณะทำเพื่อประเทศชาติ ถือว่ามีโอกาสดีกว่าเพื่อนของตนที่จบโรงเรียนนาย 71 คน ที่ไม่มีโอกาส
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงการขอสารวัตรทหารมาดูแลผู้ชุมนุมอีกครั้งว่า ได้ขอมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม แต่ก็ยังไม่มา สาเหตุที่ขอเนื่องจากการชุมนุมของเรามีจุดอ่อน เพราะเราป้องกันตัวเองโดยไม่สะสมอาวุธ ไม่ว่ามีด ปืน ระเบิด มีแต่พวกนรกป่วนปรุง(นปก.)ที่ใช้ทุกอย่าง ในฐานะที่พวกเราหลายคนในพันธมิตรฯ ก็เป็นทหาร เช่น พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ตน พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ จึงเห็นว่าน่าจะขอ แต่ไม่ขอในนามส่วนตัว ในฐานะเป็นรุ่นพี่ จปร. แต่ขอในนามประชาชนทั่วไป
“งานเล็กๆ ที่มีผู้ใหญ่ไปเขายังขอสารวัตรทหารได้เลย แต่งานนี้คนเป็นแสนเป็นล้าน ทำไมจะไม่ได้ พอขอไปเดือนสิงหาก็ยังไม่มา พอวันที่ 16 ตุลา น้องๆ ของผมไปประกาศศักดาว่าถ้าเป็นนายกฯ ลาออกแล้ว และบอกว่าทหารจะอยู่เคียงข้างประชาชน เราก็เลยนึกได้ว่าเขายืนยันว่าอยู่เคียงข้างเรา จึงทำหนังสือไปขอสารวัตรทหารอีกครั้ง แต่เขาก็ยังไม่มา
ไม่เป็นไร ไม่มา ก็ไม่มา เราอยู่มาได้จนวันนี้วันที่ 160 แล้ว ทหารไม่เห็นต้องมาช่วย เมื่อไม่มา ก็ไม่มา เราไม่ไปกราบกรานงอนง้อขอ เราเป็นนักสู้เสียอย่าง แม้ในสนามรบก็ไม่เคยงอนง้อ อยู่ก็อยู่ มาก็มา พวกเราที่มาก็ไม่เคยไปขอร้อง หรืองอนง้อให้มา แต่เราก็จะรอดู รอดูน้ำใจเขาอีกสักหน่อยว่าจะโหดแค่ไหน ใครที่ขึ้นมาบนเวทีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นทหาร จะต้องคิดเป็นว่า อะไรกัน ชาวบ้านอยู่ถึงบางสะพาน อยู่เพชรบุรี ชลบุรี ก็มากันเอง เป็นชาวบ้านธรรมดาแท้ๆ ไม่มียศศักดิ์ เงินเดือน ทำไมถึงมา ทำไมถึงมา ทำให้นึกถึงน้องๆ เราในกองทัพทำไมไม่มา ทำไมไม่มาๆๆๆ รู้สึกอาย อายจริงๆ เด็กสี่ขวบยังมาเลย”
หลังจากนั้น พล.ต.จำลอง ได้หันไปถามน้องบอลที่ยืนอยู่ข้างๆ ว่า น้องบอล เรามาทำไม น้องบอลได้ตอบว่า “มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญครับ”
พล.ต.จำลอง กล่าวเสริมว่า ลุงๆ ทั้งหลาย ที่เป็นรุ่นน้องของตาจำลอง ตาปรีชา ตาปานเทพ เด็กๆ ยังรู้เลย และได้สอนลุงๆ แล้ว ได้ยืนไหมทหาร ถ้าไม่ได้ยิน ก็โปรดรอฟังต่อไป