รายการถามจริง-ตอบตรง ของ “จอม เพ็ชรประดับ” ออกอากาศเป็นวันสุดท้าย หลังถูกเด้งฟ้าผ่าจากช่อง NBT เหตุไม่สนองนโยบายเชิญผู้ร่วมรายการไม่ถูกใจฝ่ายการเมือง-เชิญ “บวรศักดิ์ อุวรรณโณ” เหน็บสื่อรัฐส่งท้าย ควรเสนอข่าวให้เป็นกลาง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความแตกแยกเพิ่มขึ้นในบ้านเมือง
หลังจากที่มีรายงานข่าวว่า มาตั้งแต่วานนี้ (30 ต.ค.) ว่า สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กรมประชาสัมพันธ์ โดยบริษัท ดิจิตอล มีเดีย โฮลดิ้ง จำกัด ผู้รับสัมปทานบริหารเวลาสถานีได้ยกเลิกการออกอากาศรายการ “ถามจริง ตอบตรง” ซึ่งมี นายจอม เพ็ชรประดับ เป็นผู้ดำเนินรายการแล้ว ส่วนเหตุผลในการยกเลิกสัญญาว่าจ้างนั้น รายงานข่าวระบุว่า เป็นเพราะรายการดังกล่าวไม่สนองตอบนโยบายในการเชิญบุคคล หรือกลุ่มบุคคล ที่ฝ่ายการเมืองต้องการให้สัมภาษณ์มาออกรายการนั่นเอง
สำหรับการออกอากาศนั้น ทางสถานีได้อนุญาตให้มีการจัดรายการครั้งสุดท้ายในวันที่ 31 ต.ค. ซึ่งก่อนจะเข้ารายการผู้ประกาศข่าวภาคค่ำของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที คือ นางสาวตวงพร อัศววิไล และ นายอดิศักดิ์ ศรีสม ได้นำก่อนเข้าช่วงเวลาของรายการว่า สำหรับแฟนรายการถามจริง-ตอบตรง จะมีการงดออกอากาศตั้งแต่วันที่ 3-16 พ.ย.นี้ เพื่อนำช่วงเวลาดังกล่าว เสนอสารคดีเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และหลังจากนั้น ท่านผู้ชมก็จะกลับมาพบกับรายการในรูปแบบใหม่ของสถานี
ทั้งนี้ ผู้ประกาศข่าวทั้ง 2 ไม่ได้กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องมีการยกเลิกรายการดังกล่าวแต่อย่างใด และหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึงเหตุผลในการยุติการออกอากาศ โดยกล่าวเพียงว่า หลังจากวันที่ 16 พ.ย. จะพบกับรายการรูปแบบใหม่ของสถานีเท่านั้น
สำหรับเนื้อหารายการในวันสุดท้ายของการออกอากาศ ทางรายการได้พูดคุยกับ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และ ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ ผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันพระปกเกล้า ในประเด็นของแนวคิดการจัดงานสานเสวนา ของเครือข่ายสานสันติธรรม เพื่อหาทางออกให้กับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน โดยผู้ร่วมรายการทั้งสอง ได้กล่าวถึงเครือข่ายสานสันติ ว่า เครือข่ายดังกล่าวเป็นเครือข่ายที่เป็นกลาง อาสาเข้ามาช่วยคลี่คลายปัญหาทางด้านการเมือง
ส่วนแนวทางที่จะดำเนินการนั้นจะมีการรวมรวมความคิด ความต้องการของทุกฝ่ายมาพิจารณา เพื่อหาทางให้ทุกฝ่ายเข้าใจกัน ซึ่งทางเครือข่ายไม่สามารถบังคับให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมาคุยกันได้ ดังนั้น หากสถานการณ์วันนี้ ฝ่ายใดยังไม่พร้อมจะมาคุย ก็ยังไม่ต้องมาคุย รอให้พร้อมแล้วค่อยมาก็ได้ ดังนั้นเครือข่ายนี้จะไม่เร่งรัดใคร เพียงแต่คาดหวังว่าวันหนึ่งเวทีสานเสวนาแห่งนี้จะเป็นอีกสนามหนึ่งให้ทุกฝ่ายได้มีทางลง อย่างที่ทุกฝ่ายพอใจและยอมรับได้
นอกจากนี้ ดร.บวรศักดิ์ ได้กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในวันที่ 1 พ.ย. ด้วยว่า ก็ยังถือว่ามีความน่าเป็นห่วงว่า 2 ฝ่าย คือ นปช.และพันธมิตรฯ จะออกมาปะทะกันหรือไม่ ดังนั้น จึงต้องรอดูท่าทีของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้ นั่นคือรัฐบาลจะมีมาตรการที่จะเตรียมพร้อมและดูแลความสงบเรียบร้อยกับผู้ชุมนุมอย่างไร ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลเพราะไม่ว่ารัฐบาลใดๆ ในโลก ตั้งแต่โบราณมาจนถึงปัจจุบันนี้จะต้องมีหน้าที่หลักในการที่จะรักษาความสงบให้กับบ้านเมือง ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไรรัฐบาลก็ต้องมีหน้าที่ดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในวันดังกล่าวให้ได้
ด้าน นพ.วันชัย กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วตนไม่รู้สึกหนักใจกับเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากได้รับทราบข่าวการเตรียมพร้อมป้องกันสถานการณ์ความรุนแรงของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีการเตรียมการเป็นอย่างดีแล้ว ดังนั้น ตนจึงเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นเช่นเดียวกับเมื่อวันที่ 7 ต.ค.อีก
ในช่วงท้ายรายการ ผู้ดำเนินรายการถามถึงกรณีการเสนอข่าวของสื่อสารมวลชนในปัจจุบัน ว่าส่งผลอย่างไรต่อสถานการณ์การเมืองหรือไม่อย่างไร ดร.บวรศักดิ์ กล่าวตอบว่า มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ตนจึงอยากเตือนสื่อมวลชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สื่อของรัฐด้วยว่า การสื่อสารทุกอย่างต้องระมัดระวังให้มาก และควรเสนออย่างเป็นกลาง ให้ครบทุกด้านเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้นในสังคมและบางครั้งเรื่องบางเรื่องแม้จะเป็นข้อเท็จจริง แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้หากนำเสนอไปแล้ว สถานการณ์บ้านเมืองอาจจะเกิดความขัดแย้งและรุนแรงมากขึ้นก็ไม่ควรจะนำเสนอ และตนก็ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่เสนอข่าวดีๆ ที่จะสนับสนุนการหาทางออก หรือสร้างสันติให้กับบ้านเมือง เช่น รายการถามจริง ตอบตรง นี้ด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของรายการ นายจอม เพ็ชรประดับ ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวด้วยสีหน้าค่อนข้างเศร้าว่า รายการถามจริง-ตอบตรง ในวันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายที่รายการได้ออกอากาศ ตนต้องขอขอบคุณผู้ชมรายการทุกท่านที่ติดตามชม ขอบคุณแขกรับเชิญทุกท่านที่เคยให้เกียรติมาออกอากาศ รวมไปถึงขอบคุณทีมงานทุกคนและตนก็หวังว่าจะมีโอกาสได้พบกับผู้ชมใหม่ในโอกาสหน้า ส่วนจะเป็นที่ไหนอย่างไรก็คงต้องติดตามกันต่อไป