เลขาฯสถาบันพระปกเกล้า เมินฝ่ายค้าน-รัฐบาล ไม่พอใจกรรมการศึกษารับฟังความคิดเห็นของสถาบันพระปกเกล้าก็ไปหาเวทีอื่นในการปฏิรูปการเมือง ย้ำทำหน้าที่แค่คนกลางเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ไม่หวังเป็นผู้กำหนดการเมืองการปกครอง
วันนี้ (16 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงกรณีที่สถาบันพระปกเกล้ารับหน้าที่เป็นตัวกลางในการปฏิรูปการเมือง ว่า สิ่งที่สภาสถาบันพระปกเกล้าได้เสนอไปยังรัฐบาลและฝ่ายค้าน สถาบันพระปกเกล้าไม่ได้ เป็นคนทำการพัฒนาประชาธิปไตยหรือการเมืองการปกครองเอง เราเป็นเพียงเวทีและชื่อกรรมการก็บอกอยู่แล้ว คือ คณะกรรมการศึกษารับฟังความคิดเห็นและทำข้อเสนอเกี่ยวกับการพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองการปกครอง ซึ่งก็แปลว่าทุกภาคส่วนต้องมากำหนดกันเอง ว่า จะพัฒนาอย่างไร คงไม่ใช่เรื่องรัฐธรรมนูญเรื่องเดียว จะร่วมไปถึงการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสถาบันพระปกกล้า เป็นเพียงฝ่ายเลขานุการให้ เพราะถ้าไม่เป็นเพียงเลขานุการ ก็ไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการทั้ง 50 คน มีที่มาทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ทั้งเสื้อเหลือง ทั้งเสื้อแดง ต้องเข้าใจตรงนี้ว่าเป็นเวทีให้เท่านั้น
ทั้งนี้ สิ่งที่สถาบันพระปกเกล้า ทำอยู่ คือ กำลังทำวิจัยร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ในเรื่องโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ว่า มันจะต้องจัดสรรทรัพยากรและความมั่งคั่งใหม่ จะให้คน 10-20% ของประเทศเป็นเจ้าของรายได้ประชาชาติเกินครึ่งอย่างนี้ และคนจนที่สุดเป็นเจ้าของรายได้ประชาชาติแค่ 4% ไม่ได้ พีดีอาร์ไอ ก็จะทำส่วนนั้น และสถาบันพระปกเกล้า จะทำในเรื่องบทบาทของรัฐ ว่า รัฐควรจะทำอะไรไม่ควรจะทำอะไร ร่วมกับ สถาบันคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) แต่ทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องทางวิชาการ
ส่วนที่มาของการตั้งคณะกรรมการจะเป็นเวทีให้ทุกฝ่ายมาหาทางออกร่วมกัน เราไม่มีธงหรือข้อเสนอไว้ ต้องการให้เข้ามาหารือร่วมกัน ว่า ต้องการให้สังคมไทย เป็นสังคมที่สงบ สันติ และมีประชาธิปไตย อย่างไร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ 50 ท่านจะมาพูดกัน พูดง่ายง่ายว่าสถาบันพระปกเกล้าเป็นคนกลางจัดเทวีให้เท่านั้น เราไมได้ทำอะไรและไม่ได้มีธงอะไรทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะถูกลากเข้าไปในเกมการเมือง นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้กังวลอะไรเลย เพราะเราเป็นเพียงเวที ที่ให้ทุกกลุ่มทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการเมืองไทย มาร่วมกันคิด ร่วมกันทำ และไปฟังความคิดเห็น ไม่ใช่เป็นตัวชงเรื่อง
เมื่อถามว่า ส่วนตัวคิดว่าการปฏิรูปจะเดินหน้าไปได้หรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากเรียกว่าปฏิรูป เพราะปฏิรูปมาหลายครั้ง และเหนื่อยกับการปฎิรูป เพราะฉะนั้นกรรมการชุดนี้จึงชื่อว่า คณะกรรมการเพื่อศึกษารับฟังความคิดเห็นและทำข้อเสนอเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองการปกครอง ซึ่งจะกว้างกว่าการปฎิรูปการเมือง ในความหมายของการจัดทำรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่จะต้องดูในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและความเลื่อมล้ำกันอย่างสูงในเวลานี้
เมื่อถามว่า จะมีการชี้แจงให้กับผู้ที่ออกมาคัดค้านหรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ก็ชี้แจงอย่างนี้ ถ้ารัฐบาลกับฝ่ายค้านไม่รับก็ไม่เป็นไร ก็ไปหาเวทีใหม่ ตนไม่ได้เดือดร้อน สถาบันพระปกเกล้าไม่เดือดร้อน ถ้าไม่อยากมีเวทีที่จะมาแปลกเปลี่ยนหาทางออกร่วมกัน ก็ไม่เป็นไร หาเวทีใหม่
เมื่อถามว่า เรื่องสัดส่วนของคณะกรรมการจะมีความเท่าเทียมกันหรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ต้องปรึกษา กันระหว่าง ประธานคณะกรรมการ คือ นายสุจิต บุญบงการและฝ่ายเลขาฯ ต้องไปปรึกษาประธานสภาทั้งสอง แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีทุกภาคส่วนมาร่วม ส่วนจะเป็นรูปธรรม ในเวลาช้าหรือเร็วนั้น นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า คงจะได้ เพราะมีเวลา 8 เดือน ถ้าไม่ออกมา คงถูกสังคมเล่นงาน ซึ่งอาจจะออกมาเป็นรูปที่กว้างขวางกว่าจะออกมาในรูปแก้รัฐธรรมนูญ
