“สมศักดิ์” จวกยับ “รัฐบาลนอมินี” สุดด้าน เตรียมใช้ “เอ็นบีที” ยิงสด “แม้ว” โชว์ปาหี่จากต่างประเทศ อัดซ้ำ “สมชาย” ปากบอกรักษาประชาธิปไตย แต่กลับใช้ “สื่อทรราช” ที่เป็นของ ปชช.มาใช้เป็นเครื่องมือช่วย “พี่เมีย” เย้ย “รัฐบาลทักษิณ” ฉิบหายตามคำสาปแช่ง หลังโกงกิน-ขาย “รัฐวิสาหกิจ” ที่เกิดจากปณิธานของ “พระปิยมหาราช”
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย
วานนี้ (23 ต.ค.) นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงกรณีที่จะมีการระดมแนวร่วมพันธมิตรฯ เพื่อป้องกัน กลุ่ม นปก.ที่ออกมาประกาศว่าจะยึดทำเนียบฯ จากพันธมิตรฯ ว่า ในช่วงนี้เราจะเห็นว่ากลุ่ม นปก. ระดมพลบุคลคลจำนวนมากไปชุมนุมกันที่สนามกีฬาราชมังคลาสถาน โดยจะมีการนำเอาจอโปรเจกต์เตอร์ถ่ายทอด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกศาลพิพากษาจำคุก ออกทีวีผ่านสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ทั้งๆ ที่เอ็นบีทีเป็นสื่อของประชาชน ถามว่าวันนี้เอ็นบีซีเป็นถือมวลชน หรือสื่อทรราช ฉะนั้น คนที่บริหารบ้านเมืองในขณะนี้จึงไม่ใช่รัฐบาล แล้วยังหน้าด้านมาบอกว่าจะรักษาประชาธิปไตย
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ เตรียมที่จะย้ายนายกิติ วสีนนท์ ทูตประจำประเทศอังกฤษ โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ต่างประเทศ แล้วจะหาทูตซึ่งเป็นคนของเขาไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษแทน เห็นหรือไม่ว่าเขามีความชั่วช้าสามานแค่ไหน เพราะเขาพยายามที่จะไปช่วยเหลือพี่เมีย
ส่วนกรณีที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ทีออกมาระบุว่า รับไม่ได้ที่สหภาพวิสาหกิจโทรศัพท์ไปไล่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ดูเหมือนนายบรรหารเป็นผู้ดีมาก แต่ทำไมถึงเข้าไปเป็นสมันของนายสมชาย แล้วบอกว่าการที่ตำรวจไล่ยิงคนนั้นเหมาะสมแล้ว เพราะลูกของเขาได้เป็นรัฐมนตรี ฉะนั้นถ้าเราว่างๆ เราจะไปไล่ทั้งพ่อ และลูกที่กระทรวงคมนาคม เพราะประเทศนี้ถูกผูกขาดโดยพวกหลงจู๊ แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าเรารักษาประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว ประชาธิปไตยคืออะไร ดังนั้นคนพวกนี้จึงเปรียบเสมือนสิ่งปฏิกูลที่เหม็นมาก เพราะเขาไม่รู้จักตัวเอง
“วันนี้ เป็นวันปิยมหาราช ซึ่งประชาชนชาวไทยให้ความเคารพรัชกาลที่ 5 เป็นอย่างยิ่ง และในวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา พี่น้องรัฐวิสาหกิจได้ประกาศให้วันที่ 20 ก.ย.ของทุกปี เป็นวันรัฐวิสาหกิจไทย สำหรับพระบรมราชานุสรณ์ของพระองค์จะครบรอบ 100 ปี ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ในส่วนพระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระองค์ คือ ได้ออกพระราชบัญญัติเลิกทาสเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2448 แสดงว่าพระอง๕ประกาศเลิกทาสอย่างเป็นทางการมาแล้วกว่า 103 ปี ดังนั้นสังคมไทยจึงเป็นสังคมทาสมาก่อน โดยจะซื้อหากันเหมือนวัว เหมือนควาย แต่เพราะพระราชกรณียกิจของพระองค์ ทำให้มีการเลิกทาส ถือเป็นพระราชกรณียกิจที่สำคัญ และยิ่งใหญ่” แกนนำพันธมิตรฯ ระบุ
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า วันนี้พวกนักการเมืองไทยก็ยังคงเอาคนไปเป็นทาส โดยกดขี่คนจน แล้วบังคับให้ไปเลือกตั้ง นี่คือทาสยุคใหม่ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ รัชการที่ 5 ยังทรงปฏิรูประบบราชการ โดยในสมัยก่อนมีอยู่เพียง 6 กระทรวง ซึ่งมีกระทรวงใหม่ที่ตั้งขึ้นมาคือ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงโยธาธิการ กระทรวงธรรมการ หรือกระทรวงศึกษาธิการ โดยในสมัยก่อนนี้การศึกษาต้องคู่กับศาสนา แต่ในสมัยนี้กลับยกเลิกไป จนทำให้คนเห็นแก่ตัว
“พระองค์ได้ทรงสร้างรัฐวิสาหกิจด้วยเจตนารมณ์ให้รัฐวิสาหกิจทั้งหลายเป็นประโยชน์เพื่อชาติ และประชาชน ไม่ใช่เอาไปขายอย่างกรณีของ ปตท. โดยให้นายทุนไปขึ้นราคาขูดรีด จะเห็นได้จากราคาน้ำมันลดราคาลงแล้ว แต่ราคาสินค้าไม่ได้ลดลงตามไปด้วย แต่สินค้าของเกษตรกรนั้น ราคาผลผลิตกลับลดลงตลอดเวลา” นายสมศักดิ์ กล่าว
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า รัฐวิสาหกิจที่พระปิยมหาราช ทรงสถาปนาสร้างขึ้น โดยเฉพาะการรถไฟ ซึ่งสร้างครั้งแรกจากกรุงเทพฯ ไป จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2439 รวมเวลาแล้ว 112 ปี การรถไฟยังไปไม่ถึงไหน นั่นเป็นเพราะลูกหลานจัญไรมันไม่พัฒนา มั่นชั่ว มันโกงกิน โดยในสมัยก่อนรางรถไฟสร้างครั้งแรกมีความกว้างเท่ากับในยุโรป คือ 1.435 เมตร แต่ในปัจจุบันเหลือเพียง 1.35 เมตร
“พระองค์ทรงเสียดินแดนในสมัยขึ้นครองราชย์เมื่ออายุได้เพียง 16 พรรษา ซึ่งในขณะนั้นฝรั่งเศสเข้ามาล่าอาณานิคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนทำให้ไทยต้องยอมสูญเสียดินแดนบางส่วนเพื่อแลกกับเอกราชของชาติไทย แต่วันนี้รัฐบาลล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะรัฐบาลทักษิณ เอารัฐวิสาหกิจต่างๆ ของพระปิยมหาราช ไปขาย ทำให้ประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ทั้งไฟฟ้า ประปา และไปรษณีย์ วันนี้รัฐวิสาหกิจมีทั้งสิ้น 59 แห่ง โดยมีมูลค่ากว่า 6 ล้านล้านบาท ทำให้บริษัททุนข้ามชาติจ้างธนาคารโลกนำวิธีการมาล้างสมองนักวิชาการ แล้วบอกว่าประเทศไทยต้องเปิดอย่างล่อนจ้อน โดยให้ทุนต่างชาติเข้ามาซื้อได้ มหาวิทยาลัยก็ขายได้ รวมทั้งแปลงทรัพย์สินให้เป็นทุน โดยที่ดินก็ขายให้หมด โดยออก พ.ร.บ.ให้ที่ดินขายได้ เดี๋ยวนี้แก้กฎหมายหมด หรือกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ และด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ตนจึงลึกขึ้นมาสู้เพื่อต่อต้านการขายรัฐวิสาหกิจ เพราะในประเทศที่เจริญแล้ว เขาไม่มีการขาย” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ปรัชญาของรัฐวิสาหกิจ คือ ไม่ได้แสวงกำไร โดยหน่วยงานไหนที่มีกำไร ก็จะเอาไปช่วยด้านการศึกษา และเอาไปช่วยรัฐวิสาหกิจที่ไม่ต้องการกำไร เพื่อให้ประชาชนจ่ายค่าขนส่ง ค่าพาหะนะในต้นทุนที่ไม่แพง คือ ทั้งน้ำ ทั้งไฟ ราคาไม่แพง รวมทั้งสถานประการการที่ต้องใช้น้ำใช้ไฟ ในราคาต้นทุนไม่สูง ก็จะทำให้เป็นการช่วยเพิ่มผลผลิต และช่วยผู้ใช้แรงงานให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อคนไทยทุกๆ คน นี่คือพระราชปณิธานของพระปิยะมหาราชเจ้า
“แต่เรามีนักการเมืองเลว 15 สกุล ซึ่งขาย ปตท. 1 นาที 17 วินาที มันซื้อกันหมดเลย ทั้งตระกูลชินวัตร จึงรุ่งเรืองกิจ เทพกาญจนา และอีกหลายๆ สกุลที่ล้วนแล้วแต่อยู่ในแวดวงของรัฐบาลทักษิณ ทั้งสิน แล้วพวกมันก็ร่ำรวยกัน โดยไปแบ่งโบนัสกับบอร์ดผู้บริหารประมาณ 109 ล้านบาท แถมเงินเดือนยังสูงถึง 7-8 แสนบาท ซึ่งเทียบไม่ได้กับแรงงานขั้นต่ำตามที่รัฐบาลกำหนดเลยแม้แต่น้อย ฉะนั้นการปฏิรูปการเมืองใหม่ เราต้องเอารัฐวิสาหกิจกลับมาเป็นของประชาชน เพราะถ้าผู้นำไม่โกง ผู้ตามมันก็ไม่กล้าโกง” นายสมศักดิ์ ระบุ
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ดูอย่างกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น โคตรโกง สมุนก็เลยโกงกินชาติบ้านเมืองตามนายไปด้วย แล้วยังหน้าด้านประกาศว่าจะต่อสู้กับคอร์รัปชัน ฉะนั้นพวกเราจะปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ เพราะรัฐวิสาหกิจมาจากเงินภาษีของประชาชนทุกคน โดยเราจะช่วยกันพัฒนาให้เป็นไปตามพระราชปณิธานของพระปิยะมหาราชให้จงได้ ส่วนตนเคยสาปแช่งรัฐบาลทักษิณ ว่า หากรัฐบาลทักษิณ โกงกินรัฐวิสาหกิจของพระปิยมหาราช ขอให้พวกมันฉิบหายๆ แล้ววันนี้พวกมันก็ฉิบหายจริงๆ ฉะนั้นรัฐบาลนี้จึงไร้ความชอบธรรม จึงขอให้พวกเราเด็ดขาด และเด็ดเดี่ยว โดยในระยะเวลาอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะเราจะตัดขั้ว เด็ดยอดให้จงได้
“วันนี้ข้อมูลต่างๆ ตอกย้ำว่ารัฐบาลนี้ไม่มีความชอบธรรม ซึ่งขึ้นสูงสุดของความไม่ชอบธรรมในประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดยทำครบวงจรคือ จาบจ้วงสถาบัน โกงกิน ฆ่าตัดตอนในสมัยปราบยาเสพติด และปัญหาภาคใต้ ที่สำคัญยังไล่เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา แล้วยังเอาพี่เมียให้มาออกอากาศที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที การกระทำเช่นนี้ถือว่าคนที่โดนคำพิพากษานั้นเลวยิ่งกว่านักโทษเสียอีก และที่เรายอมไม่ได้คือ การที่เขาจะแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อช่วยเหลือพี่เมีย ดังนั้นพวกเราต้องออกมาช่วยกัน เพื่อทำให้คนชั่วที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน ติดคุกให้หมดทุกคน” นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย