“พล.ต.จำลอง” ย้ำเหตุปักหลักชุมนุมในทำเนียบ เพื่อดำรงจุดหมายเดิม ต้านแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไล่รัฐบาล “พลังแม้ว” ให้ลาออก ส่วนเวทีมัฆวานฯ ปิดยาว ยันค้านตั้ง ส.ส.ร.3 ที่มาจากมติฝ่ายเดียว แถมเสียเงิน เสียเวลา และสร้างปัญหาขัดแย้ง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
เมื่อเวลา 21.20 น. วันที่ 22 ต.ค. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ที่มทีการเปรียบเทียบการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ว่าเป็นการวิ่งแข่งมาถึง 100 เมตรสุดท้ายนั้น คงเป็น 100 เมตรที่ยาวมาก นั่นเพราะประเทศไทยโชคร้ายที่ต้องมาเจอรัฐบาลที่ยอดหน้าด้าน หรือหน้าไม่อายเอามากๆ ถ้าเป็นประเทศอื่น รัฐบาลลาออกไปนานแล้ว แต่เราก็ท้อไม่ได้ และในเดือน พ.ย.เราจะมีอะไรต่อมิอะไรออกมาอีก
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวได้ถามเรื่องเก่าๆ ว่าการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ชุดที่ 3 นั้น แกนนำพันธมิตรฯ คิดว่าอย่างไร ซึ่งก็ตอบได้อย่างสบายๆ ว่า เสียเวลา เสียเงินเปล่าๆ ไม่เข้าท่าที่จะตั้ง และไม่เข้าท่าตั้งแต่เริ่มแล้ว ทีแรกคุยว่าจะประชุม 4 ฝ่าย เอาเข้าจริงๆ เหลือฝ่ายเดียว เพราะถ้า 4 ฝ่ายต้องมีสภาผู้แทนราษฎร โดยประธานสภาฯ หัวหน้ารัฐบาลคือนายกรัฐมนตรี หัวหน้าฝ่ายค้าน และประธานวุฒิสภา ปรากฏว่า มาจริงๆ แค่หัวหน้ารัฐบาลกับประธานสภา ซึ่งจริงๆ คือฝ่ายเดียว เพราะมาจากพรรคพลังประชาชนเหมือนกัน พอเราท้วงติงว่าเสียเวลา ตอนนั้นจะใช้เวลา 8 เดือน โดยสมาชิกได้เงินเดือน คนละ 100,000 บาท ก็เลยลดลงมาเหลือ 4 เดือน แต่ก็ยังเสียเงินเปล่าๆ อยู่นั่นเอง เพราะไม่แก้ปัญหา นอกจากจะสร้างความขัดแย้ง นั่นคือการแก้ มาตรา 291 นั้น หลายคนบอกว่าจะมีการแก้มาตรา 237 มาตรา 309 มาตรา 190 เพื่อไม่ให้มีการยุบพรรค และล้มองค์กรอิสระที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม นี่คือความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้น จึงเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลทำเป็นการซื้อเวลาและไม่เกิดประโยชน์
ส่วนประเด็นที่นักข่าวถามว่า เมื่อมีคำพิพากษาคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรแล้ว พันธมิตรจะทำอะไร เราก็บอกว่าเราจะหารือกันที่บ้านพระอาทิตย์ก่อนและเปิดแถลงข่าวตอนเที่ยงครึ่ง โดยมีมติว่า เราจะหยุดเวทีที่สะพานมัฆวาน เหลือไว้ที่ทำเนียบรัฐบาลแห่งเดียว โดยที่สะพานมัฆวานนั้นเมื่อรื้อเวทีแล้ว จะยังไม่กลับไปตั้งใหม่เพราะว่าเดือนตุลานี้มีงานสำคัญๆ ต่อเนื่องกันหลายงาน ถ้ากลับไปตั้งใหม่แล้วรื้อออก มันไม่สนุก เลิกไปเลยดีกว่า
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ผู้สื่อข่าวได้ถามพวกเราว่าทำไมไม่เลิกการชุมนุมทั้งที่สะพานมัฆวานฯ และที่ทำเนียบด้วย ก็อยากจะบอกว่าการชุมนุมไม่ใช่เรื่องสบายเลย แต่เนื่องจากมันจำเป็น เราจึงทิ้งไปไม่ได้ ถ้าหมดความจำเป็น แล้วเราจะเลิกไปเองโดยไม่ต้องมีใครชวน ขณะนี้เรายังคงความหมายเดิมในการคัดค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 และให้รัฐบาลพรรคพลังประชาชนลาออก เราสู้ในประเด็นนี้มาตลอด จนรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช แพ้มาแล้ว เราจะให้นายสมชายแพ้อีก ทั้งที่เราลำบากกกว่ารัฐบาล แต่รัฐบาลทำเพื่อตัวเองและพรรคพวก ขณะที่เราทำเพื่อสังคมประเทศชาติ เมื่อเราชี้แจงอย่างนี้ เขาก็เข้าใจความจำเป็นที่จะต้องชุมนุมต่อ
พล.ต.จำลองกล่าว ตบท้ายว่า เมื่อถึงเวลาที่เราเลิกชุมนุม วันนั้นคือวันที่เราจะได้บอกกับตัวเองว่าในฐานะชาวบ้านธรรมดาๆ ถือว่าเราเก่งกว่าชาวบ้านของประเทศไหนในโลก ที่เราชุมนุมต่อเนื่องได้นานขนาดนี้ และอยากฝากให้พี่น้องชุมนุมด้วยความคึกคัก ยิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนเมื่อวาน วันนี้ และวันต่อๆ ไป
