พปช.ส่งลูกหาบยื่นสอบจริธรรม “รสนา” พร้อมยัดเยียดข้อหาทำตัวลำเอียง ด้าน “ประสพสุข” ไม่บ้าจี้ชี้ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล เคารพวุฒิภาวะซึ่งกันและกัน วางเฉยรัฐบาลหั่นเวลาตั้ง ส.ส.ร. แต่ไม่เชื่อจะแก้วิกฤตการเมืองได้
วันนี้ (22 ต.ค.) ที่รัฐสภา กลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชาชน จำนวน 7 คน นำโดย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ในฐานะรักษาการประธานรัฐสภา ขอให้สอบสวน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กรณีนำผู้ติดตามเข้าห้องประชุมรัฐสภา โดยนายสุรพงษ์ กล่าวว่า ในฐานะสมาชิกรัฐสภา ส.ส.ของพรรคได้ร่วมลงชื่อ 45 คน ขอให้ประธานวุฒิสภาในฐานะรองประธานรัฐสภาดำเนินการตรวจสอบจริยธรรมของผู้ติดตามของ น.ส.รสนา ในฐานะสมาชิกรัฐสภา ได้ทำผิดวินัยร้ายแรง เมื่อคราวประชุมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ได้นำผู้ติดตามเข้าไปในห้องประชุม ขณะที่สมาชิกรัฐสภากำลังประชุมอยู่ ซึ่งมีวีซีดีบันทึกภาพเหตุการณ์ในวันนั้นด้วย พบว่าผู้ติดตามคนดังกล่าวพยายามเอามือปิดที่หน้าออกเพื่อไม่ให้เห็นบัตรประจำตัวผู้ติดตาม ส.ว. ขอให้ประธานวุฒิสภาช่วยตรวจสอบด้วยว่าพฤติกรรมดังกล่าวสมควรไล่ออกจากการเป็นผู้ติดตาม ส.ว. หรือไม่ เพราะรัฐสภาต้องจ่ายเงินเดือนให้
ขณะที่ ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวเสริมว่า ได้รับข้อมูลจาก ส.ว.ส่วนหนึ่ง ยืนยันว่าสมาชิกรัฐสภาคนดังกล่าวได้พาผู้ติดตามของตนเองเข้าร่วมประชุมวุฒิสภาด้วยหลายครั้ง ทั้งที่ไม่ได้เป็น ส.ว.หรือเป็นสมาชิกรัฐสภา ทั้งนี้ มี ส.ส.บางส่วนสะท้อนความเห็นต่อนายประสพสุขว่าสังคมกำลังจับตามองวุฒิสภาว่ามีหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินคนอื่น แต่ขณะนี้กลับมาเล่นเองแล้วตัดสินเอง ขอให้ประธานวุฒิสภาช่วยดูแลด้วย เพราะส.ว.ควรจะวางตัวเป็นกลางที่สุด โดยนายประสพสุข บุญเดช กล่าวว่า ขณะนี้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ ตนจะรับเรื่องไว้ดำเนินการตรวจสอบอย่างรวดเร็วต่อไป ขอยืนยันว่าตนพยายามวางตัวเป็นกลางมากที่สุด
จากนั้น นายประสพสุขให้สัมภาษณ์ถึงมติ ครม.ที่ให้ลดระยะเวลาการทำงานของ ส.ส.ร.ลงจากเดิมที่วางไว้ 240 วัน เหลือเพียง 120 วันว่า ไม่ดีหรือ รัฐบาลคงอยากเคลียร์ทุกสิ่งทุกอย่างโดยเร็ว ส่วนที่ตนแสดงความเห็นไปเมื่อวันที่ 21 ต.ค.นั้น ไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับการมี ส.ส.ร.3 เพียงแต่ไม่คิดว่าการมี ส.ส.ร.นั้นจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และขอยืนยันว่าตนพยายามวางตัวเป็นกลางที่สุด เมื่อถามว่าภาพของ ส.ว.ขณะนี้มีความขัดแย้งกัน เพราะล่าสุดมี ส.ว.บางส่วนล่าชื่อเพื่อสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายประสพสุข ตอบว่า บอกแล้วว่า ส.ว.ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง ความคิดเห็นที่แตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่ความขัดแย้งกัน ทุกคนก็มีวุฒิภาวะ ซึ่ง ส.ว.ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง และตนก็ต้องทำให้ประจักษ์ว่าเป็นกลางจริงๆ เพื่อประคับประคองให้ประเทศชาติบ้านเมืองไปได้