xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ แอบอ้าง ศก.พอเพียงตรงกับนโยบายเปื้อนเลือด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมชาย วงศ์สวัสดิ์
“สมชาย” โอดครวญต่อหน้าข้าราชการสูง ปัญหาความแตกแยกในบ้านเมือง ลำพังรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียวคงแก้ไม่ได้ เดินหน้าโครงการเมกะโปรเจกต์ ฟุ้งข้อดีหวยบนดินส่งเสียนักเรียนทุน แอบอ้างเศรษฐกิจพอเพียงตรงกับนโยบายรัฐบาล

วันนี้ (16 ต.ค.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงนโยบายของรัฐบาลและแนวทางการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมี ครม. ผบ.เหล่าทัพ ข้าราชการระดับสูงร่วมประชุมกว่า 1,000 คนว่า เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทุกรัฐบาลเมื่อเข้ารับหน้าที่ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐบาลต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยนโยบายนี้จะสัมฤทธิผลในทางปฏิบัติหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่ข้าราชการทุกคนทุกกระทรวงในที่นี้ว่าจะให้ความสำคัญและร่วมมือกับรัฐบาลนำนโยบายไปปฏิบัติได้อย่างไร เพราะนโยบายจะเขียนไว้ดีอย่างไรหากไม่ได้รับความร่วมมือในทางปฏิบัติจะเป็นไปได้ยาก

ตนขออภัยที่ปีนี้ต้องมาฟังนโยบายรัฐบาลกันหลายครั้ง และอาจจะมีอีกกี่ครั้งไม่รู้ แต่การพบกันบ่อยๆ นั้นก็เป็นการดีจะได้สนิทสนมกัน เพราะพระท่านว่าสนิทกันก็เหมือนเป็นญาติ นายสมชาย กล่าวว่า ที่ผ่านมาบ้านเมืองมีปัญหาเรื่องความขัดแย้ง แต่เราไม่ถือว่าเป็นปัญหาของคนใดคนหนึ่งเพราะการแก้ไขปัญหาและการรักชาตินั้นจะทำเพียงคนเดียวไม่ได้ ตอนนี้บ้านเมืองมีปัญหาหลายอย่าง วิธีการทำนโยบายจึงมุ่งขจัดปัญหา แก้ไขและพัฒนาไปพร้อมๆ กัน

รัฐบาลให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งแน่ใจว่าเกือบทุกคนคงเคยได้ยิน แต่อาจไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่หลายพื้นที่นำเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้อย่างเข้าใจและประสบความสำเร็จ เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่มีเล็กน้อยแบบพออยู่ได้ ตนเคยได้ฟังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าเศรษฐกิจพอเพียงนั้นจะทำให้ตัวเองก็ได้ ทำขายก็ได้ ตนเคยไปดูแนวทางนี้ในบางจังหวัด ก็ตรงกับนโยบายที่รัฐบาลจะส่งเสริม คือเริ่มต้นทำให้พอกิน อย่าเดือดร้อน เมื่ออยู่ได้แล้วก็ต้องทำให้กินดีอยู่ดี รัฐบาลก็จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องนี้ เมื่อมั่นคงแล้วก็จะพัฒนาไปสู่ความมั่งมีศรีสุข เพราะความมั่นคงต้องค่อยๆ เสริมสร้างทีละขั้น ไม่ใช่จนอยู่แล้วจะรวยเลยนั้นมันทำไม่ได้

นายสมชายกล่าวว่าปัญหาเศรษฐกิจนั้นก็มีความสำคัญ ที่ผ่านมาเราเสียเวลาไปมาก การลงทุน การท่องเที่ยวหยุดชะงัก แต่ขอไม่เท้าความว่ามันเกิดจากอะไร แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องช่วยกันแก้ไข บังเอิญโชคไม่ดีที่เศรษฐกิจโลกมากระทบเศรษฐกิจไทย แต่มันต้องสร้างความสมดุลและภูมิคุ้มกันเศรษฐกิจของประเทศ ไม่อย่างนั้นอาจจะเจอสภาพที่ร้ายแรงกว่าปี 2540 เรื่องนี้รัฐบาลจะทำเพียงคนเดียวไม่ได้ มันต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะการดึงเอกชนมาช่วยสร้างความเข้มแข็ง ที่ผ่านมาเราอยู่ได้เพราะเอกชนสร้างความเข้มแข็ง รัฐบาลมีหน้าที่อำนวยความสะดวก ตนกำชับให้มีการหมุนเวียนงบประมาณให้ลงไปสู่พื้นฐานและคล่องตัวในการใช้จ่าย ตนตั้งกรรมการไว้ 4 ชุดแล้ว และรัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนและนโยบาย 3 ปีที่แยกกันไว้ชัดเจน โดยปีแรกนั้นจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเร่งด่วน 16 ข้อ โดยรวมเรื่องภาคใต้ และความปรองดองในชาติที่ประสบปัญหานี้มานาน

นายสมชาย กล่าวว่า ได้หารือกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.แล้วและได้รับคำตอบว่า ผบ.ทบ.จะช่วยนำนโยบายไปดูแล 3 จังหวัดภาคใต้ เพราะทหารร่วมมือกับพลเรือนและตำรวจได้ผล คนที่มุ่งร้ายกับประชาชน เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายและพยายามกันอยู่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประเทศให้กลับคืนมา รัฐบาลต้องเยียวยาปัญหานี้ให้ได้และพัฒนาต่อไป

ส่วนระบบชลประทาน ระบบสุขภาพ ระบบการศึกษาก็เน้นเป็นพิเศษ การทำงานของภาครัฐและองค์กรอิสระเช่น ป.ป.ช.นั้น ตนแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้ใหญ่ว่า หากการศึกษาลงลึกแล้วเด็กๆ จะไม่มีปัญหาการคิดนอกกรอบในทางเสื่อมเสีย

นายสมชาย กล่าวอีกว่า ส่วนระบบขนส่งมวลชน เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า ถนนวงแหวน ก็จะดำเนินการต่อไป ปีนี้ตนคิดว่าปัญหาราคาพลังงานสูงขึ้น และต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แต่สิ่งที่อยากจะทำ คือ รณรงค์การใช้สินค้าไทย แม้จะเป็นนโยบายเก่าแต่ก็น่ารณรงค์ เช่น นำสินค้าโอทอปไปมอบให้กันเนื่องในโอกาสปีใหม่ จะได้ไม่เสียดุลการค้า และตอนนี้ประเทศไทยก็ขาดความเชื่อมั่นจากต่างชาติและขาดเงินทุนจากวิกฤตการเงินโลก ฉะนั้น ต้องเร่งการหมุนเวียนการลงทุนในประเทศให้มากขึ้น มันก็ช่วยหยุดวิกฤตการเงินได้ระดับหนึ่ง โครงการเอสเอ็มแอล และเอสเอ็มอีก็ต้องทำไปเพื่อขยายโอกาสให้คนที่จำเป็นใช้เงินลงทุนให้เกิดความคล่องตัวได้

นายสมชาย ยังได้กล่าวถึงมาตรการเร่งด่วน 6 เดือน 6 มาตรการเพื่อช่วยผู้ด้อยโอกาสว่า ทำได้ระดับหนึ่ง ต้องทำต่อไป การให้ทุนการศึกษาก็มีความสำคัญ ช่วงที่ตนเป็น รมว.ศึกษาธิการก็ให้ข้าราชการไปดูแลเรื่องการให้ทุนกับนักเรียน เพราะที่ผ่านมาเคยให้ทุนแก่นักเรียนไปเรียนต่อต่างประเทศจากหวยบนดิน แต่บางส่วนมันดำเนินการไม่ถูกต้อง ก็ต้องให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการ แต่มันต้องแก้ไขปัญหานี้ให้ถูกต้อง เรื่องหวยนั้นสิ่งใดที่เป็นปัญหาก็ต้องทำให้มันจบ ไม่ใช่พูดเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เรื่องนี้ต้องเอามาทำให้ถูกต้อง ใต้ดินเอาขึ้นมาบนดิน ถ้าทำแล้วไม่สร้างความเสียหายก็น่าจะทำ

นายสมชาย กล่าวต่อว่า วันนี้สังคมต้องหาทางออกร่วมกัน แม้จะรักจะเกลียดแต่ต้องอยู่ด้วยกันให้ได้อย่างสันติ ต้องไม่สิ้นความพยายามในการขจัดปัญหาความขัดแย้ง ความเดือดร้อน ความยากจน หลายคนถามว่ารัฐบาลจะอยู่ได้อย่างไรต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่รัฐบาลจำเป็นที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนทั้งหมดและระบอบการปกครอง อะไรที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นงานของรัฐบาล ความขัดแย้งรัฐบาลต้องดูแล ความยากจนรัฐบาลก็ต้องทำ ตรงนี้ปฏิเสธไม่ได้ แต่ทุกคนต้องร่วมกันขจัดปัญหา

หนทางหนึ่งที่จะแก้ไขและขจัดปัญหา คือ การปรับปรุงรูปแบบทางการเมือง 2-3 วันนี้หลายคนพูดว่าการเมืองมันทำให้เกิดปัญหาและคนทะเลาะกันจนการลงทุนเสียหาย ตนเคยบอกว่าอย่าพูดการเมืองมากไป ขอให้พูดเรื่องบ้านเมืองดีกว่า เราต้องรับฟังทุกคนทุกฝ่าย ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง รัชกาลที่ 7 เคยตรัสว่าพระองค์ทรงสละราชอำนาจให้ประชาชนทั้งหมด ไม่ใช่ให้กลุ่มใดกลุ่มใดหนึ่ง

ฉะนั้นป ระชาชนทั้งหมดต้องมีส่วนร่วม ตนก็เลยคิดกับฝ่ายการเมืองเมื่อหลายวันก่อนตนไปประชุมกับทุกพรรคการเมืองที่มี ส.ส.ในสภาว่า จะหันไปหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะออกมาในรูปของ ส.ส.ร.3 แต่จะมีการทำประชามติหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ประธานสภาหรือประชาชนทุกคนจะเห็นสมควร ตรงนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีทางหนึ่ง และเมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วจะมีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ก็ขอให้ว่ากันอีกทีหนึ่ง

นายสมชาย กล่าวว่า ระยะเวลาอันใกล้นี้เราจะมีงาน 3-4 งานที่ต้องร่วมใจของคนในชาติทั้งหมดคือวันที่ 17-19 พ.ย. คือ งานถวายพระเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยเริ่มในวันที่ 20 ต.ค.นี้จะมีพระราชพิธีการยกฉัตรพระเมรุ จากนั้นจึงเริ่มกระบวนการ พี่น้องประชาชน 3 จังหวัดภาคใต้จะมีโอกาสถวายดอกไม้จันในสถานที่ที่จัดให้ และประชาชนทั่วประเทศก็มีการถวายความอาลัยตามสถานที่ที่จัดให้ จากนั้นจะมีวันเฉลิมพระชนมพรรษา และการจัดประชุมอาเซียนในเดือน ธ.ค. ฉะนั้นเราจะต้องคลี่คลายปัญหาในขณะนี้เพื่อจัดงานสำคัญเหล่านี้ สุดท้ายนี้ตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาลยืนยันว่าจะทำงานด้วยความทุ่มเท เสียสละ ซื่อสัตย์สุจริต
กำลังโหลดความคิดเห็น