นายกฯ ตีสองหน้า กลอกกลิ้งยุติฎีกาหมายจับข้อหากบฏ

“สมชาย” ใช้ที่ประชุม ครม.สุมหัวนั่งตีสองหน้า ลั่นจะยึดสันติวิธี ประกาศยุติปัญหาไม่ฎีกาขออนุมัติหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ หลังศาลฎีกาเพิกถอนข้อหากบฏ หวังแค่บ้านเมืองกลับสู่ความสงบ

วันนี้ (9 ต.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม.ว่า นายกรัฐมนตรี และครม.มีความห่วงใยเรื่องสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะระดมความคิดนำพาประเทศชาติไปสู่ความรุ่งเรือง ทั้งนี้ นายสมศักด์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เป็นตัวแทน ครม.กล่าวในที่ประชุมว่าทุกคนพร้อมร่วมคิดร่วมหารือต่อการดำเนินการในกรณีดังกล่าวร่วมกับนายกฯ ในทุกเวลา เพราะถือเป็นการแสดงความร่วมมือกันของ ครม.ทั้งหมด ทั้งนี้ นายกฯ ได้บอกว่าเป็นความตั้งใจอยู่แล้ว และจะมีการหารือกับ ครม.ทุกคนเพื่อร่วมคิดร่วมคลี่คลายสถานการณ์ไปด้วยกัน

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้นายกฯ ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด โดย 1.คณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเสนอต่อสังคม 2.คณะกรรมการเยียวยาความเสียหายให้กับทุกฝ่าย ซึ่งนายกฯ บอกว่าจะติดต่อกับคนที่สังคมให้ความน่าเชื่อถือ และมีความเป็นกลางอย่างแท้จริง ให้ช่วยเข้ามาเป็นคณะกรรมการทั้งสองชุด โดยคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้น่าจะได้รายชื่อที่เป็นข้อสรุป

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุม ครม.ได้มีข่าวสารกรณีที่ศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยเพิกถอนหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งเมื่อนายกฯได้ทราบข่าวว่าศาลอุทธรณ์ได้เพิกถอนหมายจับข้อหากบฏ สำหรับแกนนำพันธมิตรฯ แล้ว ทางนายกฯ ได้มอบหมายให้ตนชี้แจงว่าการดำเนินการ ทั้งเรื่องการดำเนินการเรื่องขออนุมัติของหมายจับและการอนุมัติออกหมายจับทั้ง 8 คนเป็นการดำเนินการตามกระบวนยุติธรรม การรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลและดำเนินการตามระเบียบของราชการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งการออกหมายจับในคดีกบฏเป็นการวินิจฉัยของศาลอาญาในกระบวนยุติธรรม

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แต่เมื่อวันนี้ศาลอุทธรณ์ได้เพิกถอนหมายจับคดีกบฏ รัฐบาลเคารพคำวินิจฉัยของศาลและไม่มีความเห็นเป็นอย่างอื่น และเพื่อดำรงความมุ่งหมายและสันติวิธีเพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง นายกฯ ในฐานะกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีนโยบายในการยื่นฎีกาเพื่อขออนุมัติคดีหมายจับกบฏทั้ง 9 คน ซึ่งถือว่าในส่วนของรัฐบาลก็จะยุติกรณีนี้เพียงเท่านี้

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลคาดหวังคือกระบวนการดำเนินการเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงเพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้ นี่คือความมุ่งหมายของนายกฯ ต่อสถานการณ์ต่างๆ