xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ยัดข้อหาหนัก “สมชาย” โทษประหาร เซ่นเข่นฆ่า ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คณะทำงานด้านกฎหมาย ปชป.ร้อง ผบ.ตร.ดำเนินดคีอาญา “สมชาย” ฐานไตร่ตรองและสั่งการให้ใช้กำลังสลายฝูงชน โทษถึงขั้นประหารชีวิต ดักคออัยการอย่าลูบหน้าปะจมูกคดีนี้

วันนี้ (8 ต.ค.) นายถาวร เสนเนียม คณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นอกเหนือจาก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่เป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรี จะต้องรับผิดชอบทางการเมืองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายกฯ ยังเป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการทั้งหมด เราตรวจพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า นายกฯ ยังไม่ได้มอบหมายการกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้แก่รองนายกฯ คนใด ซึ่งสรุปได้ว่า นายกฯ เป็นผู้กำกับการบริหาร การสั่งราชการ สตช.การสลายฝูงชนที่เกิดขึ้นในช่วงเช้า ถือเป็นกรรมแรกของนายสมชาย ในฐานะที่กำกับ สตช. ได้สั่งการให้เคลื่อนย้ายกำลังพล และทำการสลายฝูงชนโดยใช้อาวุธ โดยเล็งเห็นผลเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตร่างกายของประชาชน ด้วยการใช้อาวุธที่ไม่สมควรใช้ ส่งผลให้ประชาชนบางคนขาขาด ซึ่งถือว่าเป็นการบาดเจ็บสาหัส เป็นการทำผลตามกฎหมายอาญา มาตรา 297 และการเกิดบาดเจ็บธรรมดา มาตรา 295

นายถาวร กล่าวว่า บทเรียนในช่วงเช้านายกฯ ที่เป็นนักกฎหมาย อดีตผู้พิพากษา และอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ย่อมรู้ว่าการกระทำที่เกิดขึ้นแล้ว และเห็นผลแล้วนั้น ควรมีการเปลี่ยนคำสั่งหรือเปลี่ยนวิธีการในการสลายฝูงชน แต่กับใช้วิธีการเดิมและอาวุธแบบเดิม และสั่งการให้ใช้กองตำรวจมากขึ้น และใช้อาวุธหนักขึ้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตบริเวณแยกการเรือน ถือเป็นการทำความผิดครั้งที่ 2 จึงสามารถกล่าวได้ว่า นายกฯ ไตร่ตรองไว้ก่อนในการสั่งการเพื่อให้สลายฝูงชน เป็นการทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 289 มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต

ส่วนกรรมที่ 3 เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงกลางคืน ที่ยังคงสั่งการเหมือนเดิม เป็นเหตุให้ประชาชนขาขาด และบาดเจ็บสาหัส ดังนั้น นายกฯ จะแก้ตัวให้พ้นผิดโดยบอกว่าไม่รู้ ไม่ทราบ ไม่สามารถเล็งเห็นผลของการสั่งการให้ปฏิบัติหน้าที่ของ สตช.หรือทำเกินคำสั่ง หรือนอกเหนือคำสั่ง ไม่ได้

“พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถปล่อยให้นายกฯ คนนี้บริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้ เราไม่สามารถอภิปรายไม่ไว้วางในสมัยการประชุมนี้ จึงจำเป็นต้องใช้กระบวนการยุติธรรมไปกล่าวโทษต่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ในเวลา 14.00 น. ส่วนผลการปฏิบัติหน้าที่ของ สตช.ที่ส่งตำรวจมาปฏิบัติหน้าที่นั้น ผมเข้าใจดีว่าเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บัญชาการสูงสุด คือ นายกฯ และตำรวจชั้นผู้น้อยอาจไม่เชี่ยวชาญต่อการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ในการปราบปรามครั้งนี้ แต่ผู้ที่สั่งจะปฏิเสธคำสั่งของตัวเองไม่ได้ หากเล็งเห็นได้ว่ามีการทำเกินกว่าเหตุในช่วงเช้า ทำไมในช่วงบ่ายจึงไม่ยอมเปลี่ยนวิธีการ แต่กลับทำผิดซ้ำอย่างให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด

ที่สำคัญ สตช.เป็นหน่วยงานที่อิสระ แม้จะอยู่ภายใต้กำกับนายกฯ แต่การทำงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาอาญาถือว่าเป็นเจ้าพนักงานตามกระบวนการยุติธรรม ถือว่ามีอิสระในการสืบสวน สอบสวน ผมขอเตือนไปยังสำนักงานอัยการ เมื่อได้รับสำนวนคดีนี้แล้วอย่าลูบหน้าปะจมูก ดังนั้น เราจำเป็นต้องใช้กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤตความขัดแย้งในประเทศ” นายถาวร กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น