xs
xsm
sm
md
lg

“สมพงษ์” เชื่อทหารไทยเหยียบระเบิด “เข้าใจผิด” - ป้องเขมรไม่ได้วาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมพงษ์ อมรวิวัฒน์
“สมพงษ์” เชื่อเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาด 2 นายที่ชายแดนด้านศรีสะเกษ ไม่ใช่กับระเบิดเขมร ชี้อาจเป็นเรื่องเข้าใจผิด อ้างเป็นระเบิดเก่า และอยู่ในพื้นที่พิพาท พร้อมติดตาม “สมชาย” เยือนกัมพูชา 13 ต.ค.นี้ โวจะคุยให้จบ

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว วานนี้ (6 ต.ค.) ถึงกรณีที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดบริเวณชายแดนด้านจังหวัดศรีสะเกษติดกัมพูชา จนขาขาด 2 นายว่า สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความเข้าใจผิดและเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก ล่าสุด ขณะนี้ต้องตรวจสอบดูว่าที่ทหารไทยเหยียบนั้นเป็นกับระเบิดอะไร เพราะมีการบอกว่าเป็นกับระเบิดเก่าไม่ใช่อันที่วางไว้ใหม่ อย่างไรก็ดี ตนไม่คิดว่า จะเป็นกับระเบิดที่วางไม่ให้ทหารไทยเข้าไปลาดตระเวน ทั้งสองประเทศจะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างถึงที่สุด

“ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้อาจเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะการปักปันเขตแดนยังไม่ได้ทำอย่างเป็นทางการ จึงมีพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ ดูแผนที่คนละอัน เลยยุ่งกันไปหมด แต่ก็ต้องคุยกันและผมเชื่อว่า การคุยกันจะทำให้มันจบและเข้าใจกันได้” นายสมพงษ์กล่าว

นายสมพงษ์ กล่าวว่า ในวันที่ 13 ต.ค.นี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและตนจะเดินทางไปเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะมีการพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าวด้วย พร้อมกันนั้นรัฐมนตรีต่างประเทศไทยและกัมพูชาก็จะหารือร่วมกัน ตนอยากคุยให้มันถ่องแท้ในเรื่องต่างๆ เอาให้จบ ให้เข้าใจกัน จากนั้นก็อาจจะมีการนัดหมายประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศกันอีกครั้ง และการประชุมของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) จะได้เริ่มกันเสียที รวมถึงการหารือเกี่ยวกับเรื่องการปรับลดกำลังทหารกันต่อไป

เมื่อถามว่า ได้วางตัวบุคคลที่จะเป็นประธานเจบีซีฝ่ายไทยหรือยัง นายสมพงษ์ กล่าวว่า กำลังดูกันอยู่ แต่คิดว่าผู้ที่จะมาทำงานตรงนี้ต้องมีตำแหน่ง เพราะต้องทำหน้าที่แทนรัฐมนตรีได้ พรรคเองก็กำลังหาบุคลากรที่มีความเก่งในเรื่องนี้มาเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีต่างประเทศ แต่ตนได้พูดกับนายกฯด้วยว่า บางกระทรวงก็จำเป็นที่จะต้องมีผู้ช่วยรัฐมนตรี จะได้ช่วยกันทำงาน ซึ่งคาดว่าหลังแถลงนโยบายรัฐบาลก็จะได้ตัวบุคคล ซึ่งในความเห็นของตนแล้ว ควรจะเป็นทั้งนักกฎหมายและนักการทูต เพราะเวลาคุยเรื่องต่างๆ จำเป็นต้องมีกรอบกฎหมาย ไม่เช่นนั้น น้ำหนักก็อาจไม่เห็นชัด
กำลังโหลดความคิดเห็น