ผู้จัดการออนไลน์ – “สมพงษ์” ทำไขสือ ไม่รู้เรื่อง “ทักษิณ-เมีย” ขอลี้ภัยในอังกฤษ กล้าพูดเป็นสิทธิส่วนตัว และสิทธิของรัฐบาลอังกฤษ ดังนั้น จะไม่ทำการคัดค้าน ไม่สนทักษิณกล่าวหาระบบยุติธรรมไทย ระบุ ถ้ามีก็ชี้แจงไป พาซื่อไม่มีความเห็นเรื่องถอนพาสปอร์ตแดง
จากกรณีที่หนังสือพิมพ์ซันเดย์มิร์เรอร์ ฉบับวันอาทิตย์ (5) ที่ผ่านมา ได้ออกมายืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ภรรยา ได้ยื่นหนังสือขอลี้ภัยทางการเมืองในสหราชอาณาจักรแล้ว โดยข้อมูลดังกล่าวได้รับการยืนยันจากกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษ
วันนี้ (6 ต.ค.) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการขอลี้ภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า กล่าวถึงการขอลี้ภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน ซึ่งส่วนตัวคงไม่ดำเนินการคัดค้าน และเป็นสิทธิของทางการอังกฤษที่จะพิจารณา
“ทางอังกฤษคงไม่ใจดีส่งแฟกซ์ หรือ โทรเลขมาแจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศทราบก่อน เป็นเรื่องของเขาเราเองไม่รู้” นายสมพงษ์ กล่าว พร้อมว่าตนขอตรวจสอบก่อนว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร ส่วนคำถามที่ว่าในทางนโยบายกระทรวงจะดำเนินการคัดค้านหรือไม่นั้น รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล และเป็นสิทธิของประเทศอังกฤษที่จะเป็นผู้รับพิจารณาให้สถานะลี้ภัยทางการเมือง โดยกระทรวงจะไปคัดค้านไม่ได้ เพราะหากตอนหลังเราโดนบ้างจะว่าอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะ นายสมพงษ์ เป็นอดีต รมว.ยุติธรรม มองเรื่องการขอลี้ภัยทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร นายสมพงษ์ กล่าวว่า พูดไม่ได้ เดี๋ยวจะหาว่าก้าวก่ายหน้าที่ รมต.ยุติธรรม ซึ่งความจริงกระทรวงยุติธรรมไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องนี้ ซึ่งเรามองเรื่องสิทธิมนุษยชนและสิทธิประชาชนไทยมากกว่า
ต่อข้อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะนำเรื่องไม่ได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมของไทยไปอ้างขอสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองในอังกฤษ ซึ่งในฐานะรัฐบาลจะปกป้องกระบวนการยุติธรรมของไทยอย่างไร นายสมพงษ์ กล่าวว่า ในลักษณะเช่นนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องร้องขอสถานะผู้ลี้ภัยเอง คนอื่นจะร้องขอแทนได้อย่างไร เราไม่ใช่ตัวเขา ในเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ร้องขอสถานะแล้วจะมาถามตนไม่ได้ เพราะตนไม่ได้อยู่ในรองเท้าของเขา ส่วนเรื่องความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ตนพูดอยู่เสมอในฐานะเป็นอดีตรัฐมนตรียุติธรรม ซึ่งกระบวนการยุติธรรมของไทยได้รับการชื่นชมในหลายเรื่อง ถ้าประเทศอังกฤษหรือประเทศอื่นๆ สงสัย ทางกระทรวงก็พร้อมจะชี้แจงย้ำเพื่อสร้างความมั่นใจ
ส่วนการพิจารณาถอนหนังสือเดินทางพิเศษทางการทูตของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายสมพงษ์กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องตั้งแต่สมัยที่ นายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศส่งเรื่องไปยัง นายสมัคร สุนทรเวช และเรื่องก็คาราคาซังอยู่ ไม่ใช่เงียบหายไปไหน หรือผลักกันไปมา ถ้าส่งมาตนจะดูเอง เป็นหน้าที่รับผิดชอบอยู่ ถ้าไม่ใช่หน้าที่เราคงไม่ไปหาเหาใส่หัว ขอปล่อยให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ส่งเรื่องมาตนดำเนินการเอง ซึ่งขณะนี้ เรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล เลขานุการนายกฯเป็นผู้ดูแล เมื่อใดที่ส่งเรื่องมายังกระทรวงการต่างประเทศ ตนจะดูถึงความถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง แต่ต้องขอเวลาหน่อย ส่วนความเห็นส่วนตัวว่าควรถอนพาสปอร์ตของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ตนไม่มีความเห็นเพราะเพิ่งเข้ามาทำงาน ต้องให้เวลาหน่อย แต่ถ้าความเห็นในฐานะพันธมิตรฯตนสามารถตอบได้ทันที
ทั้งนี้ นับเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้วที่ นายสมพงษ์ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ในฐานะเลขาฯ นายกฯ ต่างพยายามโยนความรับผิดชอบเรื่องการถอนพาสปอร์ตแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ต้องหาอาชญากรแผ่นดินที่มีหมายจับถึง 5 ใบ ไปๆ มาๆ แต่ก็ไม่มีคำตอบอะไรให้ประชาชน
นอกจากนี้ นายสมพงษ์ ยังกล่าวถึงเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ว่า ในวันที่ 13 ตุลาคมนี้ นายกรัฐมนตรี และตน จะเดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อพูดคุยในเรื่องนี้ และไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก โดยเชื่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจะสามารถพูดคุยกันได้ และจะมีการฟื้นฟูแนวทางการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) และการประชุมเพื่อปรับลดกำลังทหารขึ้นมาอีกด้วย