ผู้ช่วยเลขา ปชป.เตรียมคัดสรรขุนพลฝีปากกล้าชำแหละนโยบาย “สมชาย” เรียกน้ำย่อยลอกเลียนแบบ “หอกหัก” มาทั้งดุ้น คาด รัฐบาลเตรียมสรรพกำลังจัดองครักษ์พิทักษ์น้องเขยนายใหญ่เต็มอัตราศึก หวั่นสภาเละเป็นโจ๊ก
วันนี้ (3 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 7-9 ตุลาคมนี้ ว่า สำหรับการอภิปรายนโยบายรัฐบาล เท่าที่ได้ดูรายละเอียดของคำแถลงนโยบายของรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กับคำแถลงนโยบายของ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธุ์ 2551 ตนได้เปิดหน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย โดยเฉพาะหน้าแรกเหมือนกันทุกตัวอักษร จะเปลี่ยนก็แต่เฉพาะเดือน และมีเพียงการสลับหัวข้อต่างๆ เท่านั้น ทั้งนี้ การอภิปรายคงจะอภิปรายในแนวนโยบายที่นายสมัครเคยทำไว้ และเชื่อมโยงแนวนโยบายปัจจุบัน โดยจะพูดถึงความล้มเหลวนายสมัครเชื่อมโยงมายังรัฐบาลนายสมชายได้
นายเทพไท กล่าวว่า เมื่อวาน (2 ต.ค.) ทาง นายวิทยา บูรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล ได้มีการติดต่อมายังวิปฝ่ายค้าน โดยจะให้ฝ่ายค้านใช้เวลาในการอภิปราย 9 ชั่วโมง แต่การอภิปรายครั้งที่ผ่านมาฝ่ายค้านได้เวลา 13 ชั่วโมง ดังนั้น อยากเรียกร้องให้กำหนดเวลาเท่าเดิม และแบ่งเวลาการอภิปรายออกเป็น 3 ส่วน คือ ฝ่ายค้าน ส.ว.และฝ่ายรัฐบาล แต่วิปรัฐบาลต้องการแบ่งเป็น 4 ส่วน คือฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ส.ว. และคณะรัฐมนตรี ซึ่งเห็นว่าเราไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้ ฝ่ายค้านได้เตรียมผู้อภิปราย จะเตรียมผู้อภิปรายไว้ 50 คน จากเดิมที่มีผู้แสดงความจำนงจะอภิปราย 85 คน โดยจะมีคณะกรรมการตรวจสอบประเด็น 4 คน ได้แก่ นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.สัดส่วน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคฝ่ายค้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ และ นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค เพื่อคัดประเด็นและเตรียมผู้อภิปราย นอกจากนี้ ยังได้เตรียมผู้อภิปรายหลักไว้ 13 ท่าน โดยจะไม่กำหนดเวลาการอภิปราย อย่างไรก็ตาม จะมีการประชุมผู้อภิปรายอีกครั้งในช่วงบ่ายของวันที่ 5 ตุลาคมนี้
“ผมอยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลและประธานสภาผู้แทนราษฎร การที่จะให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดขึ้นมาเป็นประธานสภา เพื่อควบคุมการประชุม ผมคิดว่าจะต้องเคร่งครัดและเอาจริงเอาจัง เพราะเชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้ จะมีการจัดองครักษ์พิทักษ์นายกฯ มากกว่าสมัยที่ นายสมัครเป็นนายกฯ เพราะนายสมชายเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีนายกรัฐมนโทคอยกำกับอยู่ ดังนั้น คงไม่ยอมให้ใครมาพาดพิงหรือกล่าวเสียดสีอะไรได้มากนัก ผมอยากเรียกร้องผู้ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมควบคุมและรักษาบรรยากาศการอภิปราย เพราะไม่เช่นนั้นหากมีการประท้วงแบบบัตรเติมเงินเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้นายกฯ มีตู้เอทีเอ็มใหญ่อยู่เบื้องหลังอยู่แล้ว เรื่องบัตรเดิมเงินจึงน่าจะมีมากกว่ายุคนายสมัครหากประธานไม่ควบคุมให้อยู่ในระเบียบก็อาจจะวุ่นวายได้ จึงอยากเรียกร้องให้บรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี และใช้เวลา 3 วันให้เป็นประโยชน์ที่สุด และไม่อยากให้การอภิปรายยื้อข้ามวัน เพราะจะไม่เป็นประโยชน์ ต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง รวมทั้งประชาชนที่ติดตามด้วย” นายเทพไท กล่าว