พันธมิตรฯ หยัน “สมชาย” พบ “ป๋า” แค่ซื้อเวลา-สร้างภาพ เป็นคนอ่อนน้อม รู้จักเข้าหาผู้ใหญ่ จวกไม่จริงใจ เข้าคารวะ ปธ.องคมนตรี แต่กลับตั้งหัวโจกม็อบด่าเป็นโฆษก ชี้ ไม่มีวันขึ้นเป็นรัฐบุรุษอย่างป๋าเปรมได้ เพราะต้องฟังคำสั่งจากลอนดอน จวก 2 มาตรฐาน ปากอ้างสมานฉันท์แค่หลอกให้ถอนจากทำเนียบ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "สภาท่าพระอาทิตย์"
รายการ “สภาท่าพระอาทิตย์” บนเวทีชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเช้าวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ในช่วงหนึ่งได้มีการหยิบยกกรณี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศน์เมื่อเย็นวันที่ 1 ต.ค.ขึ้นมาอภิปราย โดย นายวีระ สมความคิด ประธานอำนวยการคณะกรรมการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น ได้กล่าวว่า การเข้าพบ พล.อ.เปรม ของ นายสมชาย เป็นเพียงการซื้อเวลา เพื่อให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งต่อไปให้นานที่สุดเท่านั้น เพราะถึงอย่างไร พรรคพลังประชาชนก็จะถูกยุบอยู่แล้ว
นายวีระ กล่าวต่อว่า การเข้าพบ พล.อ.เปรม ของ นายสมชาย นั้น ควรจะเอาคนที่เคยด่า พล.อ.เปรม เข้าไปกราบขอขมาด้วย แต่ นายสมชาย กลับตั้งคนพวกนั้นเป็นโฆษก ดังนั้น คิดว่า การเข้าพบครั้งนี้คงไม่มีอะไร เป็นแค่การสร้างภาพเพื่อยื้อเวลา เพราะจะยุบพรรคอยู่แล้ว ขณะที่นายสมชายเองก็เอาตัวแทบไม่รอด ไปเชียงใหม่ถูกมือตบไล่ ถ้าโดนอย่างนี้แล้ว ต่อให้สร้างภาพก็สร้างไปเถอะ
“เป็นการสร้างภาพว่า เขามีความอ่อนน้อมถ่อมตน เข้าหาผู้ใหญ่ เพราะเห็นว่าจะไปเข้าพบอดีตนายกฯ คนอื่นๆ ด้วย แต่ที่ ป๋าให้เข้าพบ เพราะถือว่าเป็นนายกฯ ถ้าไม่เป็นนายกฯ คงไม่ให้เข้า แต่สิ่งที่ไปคุยไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ไม่ว่า ส.ส.ร.3 แก้ไข้รัฐธรรมนูญ ข้อเสนอสมานฉันท์ ให้เลิกหมายจับ 9 แกนนำ และให้เขาอยู่ครบ 4 ปี เป็นเรื่องที่พวกเราฟังข่าวไป อยากสร้างภาพสร้างไป แต่หน้าที่พันธมิตรฯ คือ ติดตามดูว่าพวกเขาทำอะไรเพื่อส่วนตัวเมื่อไหร่ ไม่ได้ทำเพื่อราชการ เราก็จะร่วมขบวนการมือตบขับไล่”
ด้าน นายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ไม่มีทางที่นายสมชายจะปฏิบัติตามกฎหมาย และเอาอย่าง พล.อ.เปรมเพื่อเป็นรัฐบุรุษ เพราะนายสมชายไม่มีความเป็นนายสมชาย แต่ต้องฟังคำสั่งจากลอนดอน ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น และไม่แน่ว่าการเข้าพบ พล.อ.เปรมอาจมีคนสั่ง และรายชื่อคนที่จะเข้าพบตามที่มีคนสั่งได้ถูกถอดออกไปก่อน
นายวีระ กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์วันที่ 22 กรกฎา 2550 กลุ่ม นปก.ได้จัดม็อบไปด่า พล.อ.เปรม อย่างหยาบคายมาก ทั้งที่ท่านเป็นถึงประธานองคมนตรี นอกจากนี้ คนพวกนี้ยังทำลายทรัพย์สินของราชการและเอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คนที่ทำความผิดเหล่านี้ คดีไม่ไปถึงไหน ได้ประกันตัวหมดแล้ว ขณะที่พี่น้องนักรบศรีวิชัยของเรายังไม่ได้ประกันตัวอีกหลายสิบคน ทั้งที่พวกเราที่ไปไม่ได้ไปทำลายทรัพย์สิน แต่เหตุการณ์ที่เอ็นบีทีวันนั้น เกิดความลับรั่ว ไปการส่งคนชุมดำสวมรอยเข้าไป ทำลายข้าวของเพราะต้องการเอาเรื่องพวกเรา แล้วตำรวจก็คัดค้านการประกันตัวพี่น้องเรา อย่างนี้ เราจะให้เขาอ้างสมานฉันท์กับเราได้ไหม ตราบใดที่มาตรฐานยังแตกต่างกัน ระหว่างเรากับ นปก.ป่วยการที่จะมาคุย หรืออ้างสมานฉันท์ให้เราออกจากทำเนียบ ชาติหน้าโน่นแหละ เพราฉะนั้นเรายึดแล้วยึดเลย
