กมธ.แฉ รร.คลิป “โฟร์-มด” แหล่งมั่วสุม ดัดแปลงอาคาร-ผิด พ.ร.บ.โรงแรม

กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค แฉ รร.รื่นรมย์ ขอนแก่น ต้นตอคลิป “โฟร์-มด” แหล่งมั่วสุมอบายมุข วัยรุ่นรู้ดี แต่ผู้ว่าฯ-นายกเล็ก เมินเฉย แถมยังติด ร.ร.อนุบาล และดัดแปลงอาคารผิด พ.ร.บ.โรงแรม พร้อมชงมหาดไทย ตั้งทีมตรวจสอบต่อเติมอาคาร หลังพบความไม่ปลอดภัยผู้ใช้บริการ แค่ใช้มืดงัด ก็สามารถเข้าห้องได้

ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (2 ต.ค.) กรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคสภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ ได้แถลงผลการลงพื้นที่ตรวจสอบโรงแรมรื่นรมย์ จ. ขอนแก่น ต้นเหตุคลิปวิดีโอนักร้องคู่ดูโอ โฟร์-มด เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ว่า หลังจากได้ลงพื้นที่ พบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเทศบาลนครขอนแก่น และผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ได้เอาใจใส่ในการดูแลคุ้มครองผู้บริโภค เพราะผู้ที่เข้ามาพักอาศัย และใช้บริการในโรงแรมต้องได้รับความคุ้มครองทั้งด้านร่างกายและจิตใจ แต่หลังจากเกิดเหตุกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอนักร้องดูโอโฟร์-มด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไม่ได้สนใจที่จะเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และยังปล่อยให้โรงแรมดังกล่าวเปิดให้บริการตามปกติ โดยเฉพาะห้องเกิดเหตุ

ส่วนพนักงานโรงแรมทั้ง 3 คน ที่ออกมายอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุก็ยังทำงานตามปกติ และไม่มีการไล่ออกแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน เทศบาลนครขอนแก่นยังได้ออกมาให้ข่าวในลักษณะที่ไม่ปกป้องผู้บริโภคแต่กลับเป็นห่วงในเรื่องของการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการโรงแรม รวมทั้งกล่าวหาว่ากรรมาธิการ ไปสั่งปิดโรงแรมทั้งๆ ที่คณะกรรมาธิการไม่มีอำนาจ เพราะถือเป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯขอนแก่นโดยตรง ในฐานะนายทะเบียนโรงแรม นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการ ยังได้เชิญเทศบาล และผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่มาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมาธิการ โดยได้กำชับให้มีการตรวจสอบผังของโรงแรม โดยให้รายงานกลับมาภายใน 3 วัน หากยังไม่เร่งดำเนินการภายในสัปดาห์หน้ากรรมาธิการจะลงพื้นที่อีกครั้งพร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านอาคาร

นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบสภาพของโรงแรมดังกล่าว พบว่า มีการดัดแปลงจากอาคารหอพักอพาร์ตเมนต์ เป็นประเภทโรงแรมที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะห้องชั้นล่างสุดที่เป็นห้องพักของนักร้องดูโอ ปรากฏว่า มีเพียงกระจกและอะลูมิเนียมที่สามารถใช้มีด หรืออุปกรณ์งัดเข้าไปถึงตัวผู้พักอาศัยได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัย ขณะเดียวกัน ยังพบว่า บันไดหนีไฟ ก็ไม่ได้มาตรฐานมีเพียงกระจกและอะลูมิเนียม เช่นกัน ส่วนอุปกรณ์ดับเพลิงมีทั้งหมด 6 เครื่อง แต่ปรากฏว่าใช้ไม่ได้กว่าครึ่งหนึ่ง เนื่องจากสารเคมีหมดอายุ ถือว่าการต่อเติมอาคารดังกล่าวเข้าข่ายกระทำผิดขัดต่อ พ.ร.บ.โรงแรม เพราะการก่อสร้างโรงแรมอย่างน้อยต้องมีบริเวณที่ว่างด้านหลังไม่น้อยกว่า 2 เมตร และไม่มีสิ่งปกคลุม แต่ปรากฏว่าโรงแรมดังกล่าวไม่มีพื้นที่ว่างและเต็มไปด้วยสิ่งปกคลุม

นายธนา กล่าวด้วยว่า ทางคณะกรรมาธิการ เห็นตรงกันว่า จะยื่นเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้มีการสั่งการไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง ให้มีการตั้งคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบตัวอาคารดังกล่าว ร่วมกับทางจังหวัดและเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อตรวจสอบผังของโรงแรมว่าถูกต้องตาม พ.ร.บ.โรงแรมหรือไม่ นอกจากนี้ ยังพบว่า โรงแรมดังกล่าวได้รับการยกเว้นโดยอนุญาตให้ตั้งใกล้กับโรงเรียนอนุบาล ซึ่งตามกฎหมายสถานประกอบการประเภทโรงแรมต้องมีระยะห่างจากโรงเรียน 200 เมตร ทั้งนี้ ยังได้รับรายงานจากนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ว่า โรงแรมดังกล่าวในเวลาค่ำคืนได้ใช้เป็นแหล่งมั่วสุมรวมถึงอบายมุขของกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งชาว จ.ขอนแก่น รู้ดี และเป็นที่จับตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงอยากให้ทางจังหวัดเร่งตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย โดยผู้ว่าฯ และนายกเทศบาลนครขอนแก่น ต้องเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง

นายธนา กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความอับอายแก่ผู้ใช้บริการ และกลายเป็นตราบาปไปตลอดชีวิต แต่กฎหมายไม่สามารถที่จะเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ เนื่องจากอายุความมีระยะเวลาหนึ่งปี ดังนั้น ทางคณะกรรมาธิการจึงเห็นตรงกันที่จะมีการยกร่างกฎหมายมาบังคับใช้ใหม่ เพื่อขยายอายุความให้เกินระยะเวลา 1 ปี เพราะเกรงว่าผู้กระทำผิดอาจจะมีการทิ้งให้กฎหมายหมดอายุความก่อนที่จะนำมาเผยแพร่ รวมทั้งมีการกำหนดบทลงโทษให้รุนแรงเทียบเท่ากับความผิดอาญาที่เกี่ยวกับความเสียหายต่อจิตใจและร่างกาย เพื่อเตรียมเสนอให้สภาได้พิจารณาต่อไป