ผู้จัดการออนไลน์ – วิสัยทัศน์ คน “สมชาย 1” เริ่มปรากฏ รมว.วัฒนธรรม คุยพร้อม ดัน “พญานาค ควายธนู เสน่ห์ยาแฝด น้ำมนต์ ปลัดขิก” เป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น-ของที่ระลึก ก่อนที่จะนำมาสร้างหนัง โวไอเดียนี้ไม่เคยมีใครคิดได้ ระบุ จะใช้นโยบายเผยแพร่วัฒนธรรมเชิงรุกเทียบชั้น จีน เกาหลี
วันนี้ (30 ก.ย.) ในโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง สรุปผลการดำเนินงานกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2551 ที่โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพฯ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า นโยบายของกระทรวงวัฒนธรรม ปี 2552 จะเน้นการนำวัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าเริ่มตั้งแต่การสร้างบุคลากรที่เป็นทูตวัฒนธรรมซึ่งไม่ใช่คนที่เคยเจรจาผิวเผินแต่เป็นทูตที่คอยเจรจาระหว่างประเทศอย่างจริงจัง
โดย นายวรวัจน์ ได้กล่าวเปรียบเทียบว่า ประเทศจีน ประเทศเกาหลีใต้ มีทูตนำวัฒนธรรมเข้ามาในประเทศไทย ก่อนผ่านรูปแบบละครซีรีย์ ภาพยนตร์ ค่อยนำสินค้ามาขาย ทำให้ช่วงเวลาหนึ่งมีละครเรื่อง แดจังกึม ฟีเวอร์ในประเทศไทย ทำให้คนไทยหันไปแต่งตัวแบบเกาหลี ฟังเพลงเกาหลีหัดพูดภาษาเกาหลี และรับประทานอาหารเกาหลีกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นกระทรวงวัฒนธรรมต้องปรับสู่การทำงานเชิงรุก ต้องเป็นกระทรวงแห่งอนาคตสร้างทูตวัฒนธรรมนำการค้า การลงทุน นำรายได้เข้าประเทศ นอกจากนี้ ยังมีนโยบายในการส่งเสริมให้มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านอาหารรองรับนำอาหารไทยไประดับนานาชาติ
รมว.วัฒนธรรม กล่าวต่อด้วยว่า ทางกระทรวงวัฒนธรรม จะร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการจัดทำหลักสูตรการศึกษาท้องถิ่นที่สอนให้เด็กและเยาวชนเรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรท้องถิ่นวิถีชีวิตภูมิปัญญา ภูมิประเทศ สอนเด็กในทักษะที่เขาชอบไม่ต้องสอนทุกเรื่อง รวมทั้งจัดทำแผนที่ท่องเที่ยวในทุกจังหวัดดึงสิ่งที่โดดเด่นในจังหวัดตัวเองออกมาเป็นจุดขายทางวัฒนธรรม จับต้องได้ยกตัวอย่าง จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนสามารถนำเรื่องราวของนิทานพื้นบ้าน “ลิลิตพระลอ” มาเป็นจุดขาย สร้างให้เป็นความเชื่อให้จังหวัดแพร่กลายเป็นเมืองแห่งความรักใครที่มีความรักต้องมาเที่ยวจังหวัดแพร่ เป็นต้น
“ที่สำคัญ ขณะนี้ผมมีแนวความคิดที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน คือ จะพยายามสร้างสรรค์เรื่องราวเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและสินค้าวัฒนธรรมเกี่ยวเนื่องความเชื่อของชาวบ้าน เช่น พญานาค ควายธนูเสน่ห์ยาแฝด น้ำมนต์ ปลัดขิก นำมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ขายในรูปแบบพวกกุญแจของที่ระลึกกันไปเลย โดยเบื้องต้นจะต้องทำการศึกษาเรื่องราวที่มาที่ไปอย่างเป็นระบบเป็นองค์ความรู้ ไม่ใช่ปล่อยเป็นเรื่องงมงายเหมือนแต่ก่อนสินค้าทุกประเภทจะต้องมีใบรับรองว่าเป็นของจริง เช่น ใบรับรองว่าเป็นควายธนู เสน่ห์ยาแฝกของจริงของจังหวัดนั้นๆ จากนั้นจะพัฒนาเรื่องราวสินค้าเหล่านี้ไปเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น สร้างเป็นภาพยนตร์ เป็นต้น ความคิดเช่นนี้อาจไม่เคยมีใครคิดมาก่อนแต่เรื่องแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” รมว.วัฒนธรรม และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชาชน จังหวัดแพร่ เขตที่ 1 กล่าว