“โกวิท” ประชุมผู้บริหารมหาดไทย อ้างรับตำแหน่ง มท.1 เพราะ “หมัก-สมชาย”ชวนมาช่วยงาน โวอีกเป็นคนกลางไม่เกี่ยวกับพรรค พร้อมให้ความเป็นธรรมการโยกย้าย แม้มีการเมืองแทรก พูดอีก ไม่เห็นด้วย-ไม่ได้ร่วมมือ “19 ก.ย.” โบ้ย รธน.ใหม่ข้อจำกัดเยอะ ต้องรอแถลงนโยบายก่อนทำงาน แนะ ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ ศึกษากฎหมาย ให้ดี เหตุ ปชช.มีสิทธิมากขึ้น
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (26 ก.ย.) ที่โรงแรมรามาการ์เด้น พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาเป็นประธานในการประชุมผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยประจำปี 2551 โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม
พล.ต.อ.โกวิท กล่าวตอนหนึ่งว่า เป็นตำรวจในสังกัดกระทรวงมหาดไทยมานาน 30 ตั้งแต่เป็นผู้บังคับหมวด จนถึง พล.ต.ท.แล้วจึงแยกไปสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งพ่อตนก็เป็นปลัดอำเภอ ดังนั้นตนจึงเป็นลูกมหาดไทย เพราะชีวิตเกิดมาก็เป็นลูกมหาดไทย ซึ่งวันนี้ก็กลับมาทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และที่ตนมารับตำแหน่งนี้ก็เพราะนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 คน คือนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ก็มาชวนตนให้ช่วยทำงาน เป็นคนกลางไม่ต้องเกี่ยวกับพรรค ขอเรียนว่าตนจะพยายามทำในสิ่งที่ดีและถูกต้อง ให้ความเป็นธรรมในการโยกย้ายข้าราชการ แต่ทั้งนี้เราไม่สามารถปฏิเสธการเมืองได้ ซึ่งการเมืองก็ต้องมีการต่อสู้ แย่งชิงอำนาจรัฐ เพื่อเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งเสียงของประชาชนก็มาประกอบ แต่เราก็จะนำหลักการทำงาน และเหตุผลรวมถึงหลักเกณฑ์ของราชการมาใช้โดยยึดตามหลักอาวุโส ซึ่งการแต่งตั้งอาจล่าช้าไปบ้าง แต่ก็จะมีขึ้นในเดือนหน้า
“ขอเรียนยืนยันว่า ชีวิตจิตใจของผมต้องการเห็นพวกท่านได้ทำงานอย่างมีความสุข และสบายใจที่ผู้บังคับบัญชาไม่มีเบียดเบียน จะได้ไม่ต้องมาวิ่งเต้น เพราะไม่ต้องการให้วิ่งเต้นเสียเงินเสียทองกับใครทั้งนั้น หากมีใครทำอะไรกับท่านขอให้มาบอกผม ชีวิตผมเป็นตำรวจตระเวนชายแดนมาตลอด และตอนที่คณะปฏิวัติไม่เห็นด้วย ผมก็ไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งวันที่ 19 ก.ย. ผมก็ไม่ได้ร่วมมือกับเขา” พล.ต.อ.โกวิท กล่าว โดยที่ไม่ได้อธิบายว่า เมื่อไม่เห็นด้วยและไม่ให้ความร่วมมือ ทำไมจึงไปเป็นสมาชิก คมช.ด้วย
พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า ขณะนี้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้กำหนดข้อจำกัดมากมาย เช่น รัฐบาลต้องแถลงนโยบายต่อสภาฯ ก่อนจึงจะปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งการทำเช่นนี้ทำให้เมืองไทยเป็นเมืองที่ทำให้ทุกคนเป็นนักกฎหมาย ซึ่งข้าราชการกระทรวงมหาดไทยก็ต้องปรับตัวเองให้เป็นนักกฎหมายให้ครบทุกฉบับ เพราะกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานรักษากฎหมายเป็นร้อยฉบับ
พล.ต.อ.โกวิท ยังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีบอกว่าถ้ากระทรวงมหาดไทยขยันกระทรวงเดียวก็แก้ได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความยากจน ปัญหายาเสพติด ปัญหาผู้มีอิทธิพล เพราะกระทรวงนี้เกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วน อย่างไรก็ตาม การประชุมกระทรวงมหาดไทยซึ่งจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 29 ก.ย. ก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะต้องรอรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาฯ ในวันที่ 8-10 ต.ค.ซึ่งหลังจากนั้นหากมีอะไรเพิ่มเติมก็สามารถเรียกประชุมได้ อย่างไรก็ตาม ตนจะเดินทางลงพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อรับฟังและช่วยเหลือประชาชน
ต่อมาที่ห้องแกรนด์ฮอลล์ 2 โรงแรมเดียวกัน พล.ต.อ.โกวิท ได้กล่าวภายหลังการเป็นประธานพิธีปิดการอบรมหลักสูตรนายอำเภอ หลักสูตรผู้บริหารระดับกลางของกระทรวงมหาดไทย และหลักสูตรการบริหารสำนักงานจังหวัด ตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีกับนายอำเภอ ซึ่งเป็นสายเลือดใหม่ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งการอบรมถือว่าเป็นการพัฒนาบุคลากรของกระทรวงให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งที่ผ่านมามีการฝึกอบรมทั้งหมด 8 รุ่น แต่ก็ยังต้องรอให้มีการบรรจุ ซึ่งถือเป็นความทุกข์ของการรอคอย แต่ก็ต้องถือว่าการฝึกอบรมทำให้เราพัฒนาหลายอย่าง
พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า สำหรับนักบริหารทั้ง 2 หลักสูตรนั้น การทำงานก็ต้องปรับไปตามการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศ เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน กำหนดสิทธิของประชาชนไว้มาก เพราะหากมีการทำผิดประชาชนก็สามารถฟ้องร้องต่อศาลได้ ดังนั้น นายอำเภอต้องศึกษากฎหมายให้ดี อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกเห็นใจคนที่ทำอาชีพนี้ เพราะชีวิตข้าราชการในปัจจุบันนั้น กว่าจะบรรจุได้ก็ยาก ขณะเดียวกันเวลาออกจากการเป็นข้าราชการก็ง่ายยิ่งขึ้นด้วย เพราะมีกระบวนการตรวจสอบเข้มข้นขึ้น
“ขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว อะไรที่คาดหวังในชีวิตข้าราชการเป็นเรื่องสมมติ แต่การทำดี ประพฤติดีจะติดตัวไปตลอด ซึ่งตำแหน่งในราชการอาจต้องอาศัยบุญเก่าบ้าง แต่ถ้าได้ยศได้ตำแหน่งด้วยการหลอกลวงผู้บังคับบัญชาว่าตนเองเก่ง มีความสามารถ ตำแหน่งนั้นก็อาจจะไม่ทน ไม่เหมือนกับของแท้” พล.ต.อ.โกวิท กล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังที่ พล.ต.อ.โกวิทถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับนายอำเภอเสร็จสิ้นแล้ว ได้ปฏิเสธการตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุว่าพร้อมเจรจากับแกนนำรัฐบาลที่มีอำนาจตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 27 ก.ย. นี้ เวลา 08.00 น. พล.ต.อ.โกวิท มีกำหนดการลงพื้นที่ดูแลสถานการณ์น้ำท่วม ที่ จ.จันทบรี และ จ.ปราจีนบุรี โดยเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจ ท่าแร้ง ถ.รามอินทรา