“สมเกียรติ” ย้ำ “ทักษิณและบริวาร” ตัวบ่อนทำลายสถาบันตุลาการ

ผู้จัดการออนไลน์ – “สมเกียรติ” เตือนความทรงจำอีก ระบุ “ทักษิณ-พจมาน-เจ๊แดง” มีพฤติกรรมบ่อนทำลายสถาบันตุลาการอย่างต่อเนื่อง เปิดคำให้การต่อศาลของ อุระ หวังอ้อมกลาง ในคดีล็อบบี้ “ซุกหุ้น 1” พร้อมกล่าวถึงคดีเซ็คเด้ง และ ถุงขนม 2 ล้านบาทที่ สองสามี-ภรรยา พยายามซื้อเจ้าหน้าที่ศาลหวังพ้นผิดแต่ไม่สำเร็จ จนคณะทนาย 3 คนถูกจำคุกเรียบ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

ช่วงเวลาประมาณ 23.30น. วานนี้ (21 ก.ย.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัย ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวว่า ปัจจุบันบริเวณตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล มีการตั้งครัวพันธมิตรฯ ทั่วไทยที่เปิดให้บริการอาหารจากทุกภาค โดยมีพ่อครัวจากทุกแห่งมาให้ทำอาหารให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมได้รับประทานฟรี โดยพ่อครัวต้องการผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคผักที่สามารถเก็บได้นานเช่น หน่อไม้ดอง ฟักทอง แตงกวา เป็นต้น โดยสามารถติดต่อได้ที่คุณเค้ก 089-652-2122

จากนั้น นายสมเกียรติได้ปราศรัยระบุว่า หลายปีที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รวมไปถึงญาติพี่น้องและบริวารบางคนได้กระทำการที่บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันตุลาการอันเป็นหนึ่งในสามสถาบันหลักในการปกครองของปกครองประเทศ ซึ่งปัจจุบันอาจถือได้ว่าเป็นที่พึ่งในความยุติธรรมแห่งสุดท้ายของประชาชน

ทั้งนี้แกนนำพันธมิตรฯ ได้กล่าวย้อนถึง “คดีซุกหุ้น 1” เมื่อปี 2544 ว่า มีข้อมูลที่ถูกขุดคุ้ยโดยสื่อมวลชนและเคยมีบันทึกในชั้นศาลว่า ก่อนการตัดสินคดีซุกหุ้น 1 นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ ภรรยา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้มีความพยายามล็อบบี้นายอุระ หวังอ้อมกลาง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในขณะนั้นให้ช่วย พ.ต.ท.ทักษิณให้รอดคดี โดยเสนอผลตอบแทนเป็นการแลกให้ลูกชายย้ายไปเป็นเลขาฯ ทูตประเทศใดก็ได้ หรือ ส.ส.ไทยรักไทย โดยสุดท้ายตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 8 ต่อ 7 ก็ลงความเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 295 และให้ยกคำร้อง

“นายอุระกล่าวในศาลว่า นางเยาวภา ไปพบนายอุระถึง 3 ครั้ง โดยเจ๊แดงพูดให้ฟังว่า ‘ขณะนี้มีตุลาการ 4 คนที่รับปากจะช่วย พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว... ’ บอกว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว นี่คือคำพูดเจ๊แดง” นายสมเกียรติกล่าว

นอกจากนี้เมื่อเร็วนี้ ในวันที่ 10 มิ.ย. ก็เกิดเหตุมีการนำถุงขนมใส่เงิน 2 ล้านบาทไปติดสินบนเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยผู้ที่นำถุงขนมดังกล่าวไปนั้นก็คือ คณะทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานชินวัตร อันประกอบไปด้วย นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายความ และนายธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดี ญาติสนิทคุณหญิงพจมาน ทว่าสุดท้ายเรื่องก็แดงขึ้นมา

“กรณีนี้ถือว่าละเมิดอำนาจศาล ... ในที่สุด 25 มิ.ย. 2551 ขณะที่เรากำลังชุมนุมอยู่ ศาลก็มีคำพิพากษาจำคุกทนายทั้ง 3 คน คนละ 6 เดือน” นายสมเกียรติกล่าว พร้อมกับกล่าวว่า จากคดีดังกล่าว นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา อดีตผู้พิพากษาและโฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัว กลับบอกว่าถุงขนม 2 ล้าน ไม่ใช่สินบน แต่เป็นค่าอำนวยความสะดวก

นอกจากนี้นายสมเกียรติยังกล่าวถึง พฤติกรรมการฉ้อโกงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในอดีตอีกหลายคดีเช่น คดีเช็คเด้ง ศาลฎีกาหมายเลขคดีที่ 149/2532 โดยคดีดังกล่าว ศาลชั้นต้น อุทธรณ์ ฎีกา พ.ต.ท.ทักษิณ แพ้คดีหมด ทว่า พฤติกรรมระหว่างการพิจารณาคดี พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมโกหกศาลหลายครั้ง มีความพยายามซื้อทนาย ซื้อโจทก์หลายต่อหลายครั้ง ทว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่สำเร็จ

“นี่คือพฤติกรรมถาวร หรือ สันดานชั่วของนักการเมืองครับ” นายสมเกียรติระบุ