xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” แนะ “สมชาย” อย่าก้าวร้าว ยกบทเรียน “หมัก” เตือนใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป.
หน.ปชป.เตือนว่าที่นายกฯ คนใหม่ให้ทำงานเพื่อส่วนรวม และใจกว้างรับฟังความคิดเห็นรอบด้าน ยกบทเรียนรัฐบาลหอกหักเป็นเครื่องเตือนใจ เรียกร้องให้แก้ปัญหาความขัดแย้ง ย้ำจะต้องถูกตรวจสอบอย่างหนักเพราะความเป็นนอมินีแม้ว

วันนี้ (17 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการการประชุมสภาฯ เห็นชอบให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีว่า หลังจากปิดประชุมสภาฯ นายสมชายกับตนได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งตนก็ได้แสดงความยินดี ส่วนนายสมชายระบุว่ายังต้องร่วมงานกันในฐานะเป็น ส.ส.ในสภาฯ กันต่อไป หากจะคลี่คลายวิกฤตได้ก็ต้องช่วยกัน ทั้งนี้ก็ต้องให้เวลานายสมชายได้สรรหาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ แต่ต้องชัดเจนว่าจะใช้แนวทางไหนในการบริหารบ้านเมืองให้ออกจากวิกฤต ซึ่งเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่สุด และอยากให้นายสมชายมีความตั้งใจมุ่งมั่นทำงานโจทย์สำคัญที่สุดคือทำให้บ้านเมืองพ้นความขัดแย้งให้ได้ และการจะทำได้ต้องมีสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงที่นายสมชายต้องตอบให้ชัดว่าสัญญาณนั้นคืออะไร และหากเป็นไปในทางที่ดีเชื่อว่าสังคมคงต้องช่วยกันหาทางออก ซึ่งฝ่ายค้านพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหากทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราร่วมมือแน่นอน

ส่วนหน้าตาของ ครม.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมาก แต่สิ่งสำคัญกว่า คือ การเปลี่ยนแปลงท่าทีต่อความขัดแย้งในสังคมว่าจะมีทางออกอย่างไร เพราะถ้าตรงนี้ยังแก้ไม่ได้ก็ยังมีความน่ากังวลว่าการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของไทยก็จะเหมือนอยู่กับที่ต่อไปอีก และสถานการณ์บ้านเมืองหลังจากนี้ไปคิดว่าอยู่ที่รัฐบาลใหม่ว่าจะสามารถประกาศความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนไม่เหมือนรัฐบาลที่เพิ่งพ้นไปว่ามีอะไรบ้าง เราก็มีความหวังแต่หากคิดในกรอบเดิมว่าสิ่งที่ทำมาจะทำต่อไป สภาพบ้านเมืองก็คงไม่เปลี่ยนแปลง

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ใหม่ควรจะเจรจากับแกนนำพันธมิตรฯ เพื่อให้ยุติการชุมนุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ควรให้เวลานายสมชายพิจารณาดูว่าจะใช้แนวทางใด และถ้าจะไปพูดคุยก็ต้องมีประเด็นว่าจะคุยกันอย่างไร ถ้าเห็นถึงปัญหาของสาเหตุการชุมนุมเรียกร้อง และนายสมชายแสดงออกอย่างไรว่าเห็นว่าสามารถแก้ไขปัญหาหรือลดเงื่อนไขเหล่านั้นได้ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี อย่างไรก็ตาม เราไปบอกไม่ได้ว่าคู่กรณีจะมีการเจรจาอย่างไรเพราะทั้ง 2 ฝ่ายต้องกำหนดท่าทีก่อน แต่สำหรับประชาชนทั่วไป หากสามารถคลี่คลายได้ก็เหมาะสมทั้งนั้น และการเจรจาก็เป็นทางเลือกหนึ่งแต่อาจทำได้ยาก

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่พรรครัฐบาลไม่สนใจต่อคดีเกี่ยวกับการทุจริตของ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยาของนายสมชาย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องต่างๆ ที่มีข้อติติงกันอยู่ก็อยากให้พรรคร่วมรัฐบาลรับฟัง และเป็นหน้าที่ของพวกตนในการตรวจสอบให้เข้มข้น และเราหวังว่าท่านจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ของรัฐบาลชุดที่แล้วว่า ถ้ารัฐบาลกร้าวและไม่รับฟัง หรือไม่สนใจต่อคำติติงเลยก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรง แต่หากรัฐบาลใช้แนวทางการรับฟังก็น่าจะช่วยได้พอสมควร

“สิ่งที่สังคมอยากเห็น คือ รัฐบาลชุดใหม่ได้ไปทบทวนที่มาของปัญหาในช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมาว่า สาเหตุของความขัดแย้งของวิกฤตมาถึงจุดไหน และต้องคลี่คลายไม่ให้ถึงจุดนั้น จึงอยากให้เวลาท่านไปดูว่าสิ่งที่เคยมีการพูดไว้ในสภานี้ หรือข้อท้วงติงต่างๆ ที่ปรากฏในสังคมมีอะไรบ้าง ถ้าสามารถจัดเป็นประเด็น และตอบคำถามของสังคมได้ว่าจะคลี่คลายอย่างไร ก็จะมีโอกาส แต่ถ้าท่านเมินเฉยก็น่าเป็นกังวลว่าสังคม การเมือง และเศรษฐกิจก็จะอยู่กับที่” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่นายสมชายเป็นน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า นายสมชายต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ ให้ได้ว่าจะไม่เป็นอย่างที่มีคนกังวล ซึ่งก็มีแบบทดสอบอยู่หลายเรื่อง เมื่อถามว่า การที่นายสมชายมาเป็นนายกฯ จะมีผลต่อคดีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า อยู่ที่ข้อเท็จจริงและการตรวจสอบต้องเดินไปตามขั้นตอนปกติ และก็ต้องมาพิสูจน์กันว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติ เข้าข้างใครหรือกลั่นแกล้งใคร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และสิ่งที่จะทำให้บ้านเมืองสงบลงได้คือ การรักษากฎหมายโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ และคำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม
กำลังโหลดความคิดเห็น