ที่ประชุม ครม.เห็นชอบอนุมัติร่างกฎหมาย 6 ฉบับ ตามข้อเสนอของ อสส.ที่บัญญัติให้อัยการเป็นองค์กรอิสระ บริหารงานบุคคลและงบประมาณตาม รธน.ใหม่ นอกจากนี้ยังเซ็นตามน้ำอนุมัติงบก่อหนี้ผูกพันข้ามปี สร้างโรงเรียนอีก 4 แห่ง
วันนี้ (16 ก.ย.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอร่างกฎหมายตามแผนพัฒนากฎหมายของอัยการสูงสุด 6 ฉบับ ประจำปี 2551 เสนอ ครม.เพื่อพิจารณา สืบเนื่องจากเดิมสำนักงานอัยการสูงสุดมีฐานะเป็นกรม สังกัดกระทรวงยุติธรรม แต่รัฐธรรมนูญปัจจุบันบัญญัติให้องค์กรอัยการ เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่มีหน่วยธุรการเป็นอิสระในการบริหารงานบุคคล การงบประมาณ และการดำเนินงานอื่น โดยมีอัยการสูงสุดเป็นผู้บังคับบัญชา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเสนอยกร่างกฎหมายขึ้นใหม่ และแก้ไขเพิ่มเติม ที่บังคับใช้อยู่ให้สอดคล้องตามบทบัญยัติแห่งรัฐธรรมนูญ ดังนี้ 1.ร่างพระราชบัญญัติองค์กรอัยการ พ.ศ... 2.ร่างพระบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.... 3.ร่างพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ...4.ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งข้าราชการอัยการ (ฉบับที่...) พ.ศ... 5.ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่...) พ.ศ... 6.ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่...) พ.ศ... ซึ่ง ครม.มีมติเห็นชอบส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาขั้นต่อๆ ไป
น.ส.วีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เรื่องที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ขออนุมัติงบฯเพิ่มวงเงินก่อสร้างอาคารชุดรวมอาศัยระดับ 3-4 สาระสำคัญของเรื่องนี้ คือ สถาบันพลศึกษา ได้รับจัดสรรงบประมาณประจำปี 2551 เพื่อที่จะนำไปสร้างอาคาร จำนวน 4 แห่ง แห่งละ 16,524000 บาท ซึ่งได้มีการดำเนินการไปแล้ว แต่ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้เนื่องจากราคาวัสดุ จึงได้มีการขออนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณให้แก่โรงเรียน 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนจังหวัดขอนแก่น 19,060,000 บาท โรงเรียนจังหวัดนครสวรรค์ 18,400,000 บาท โรงเรียนกีฬาลำปาง 19,2006,000 บาท และโรงเรียนจังหวัดอุบลธานี จำนวน 19,066,000 บาท ซึ่งเป็นการอนุมัติขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ 2551-2553 ซึ่งเรื่องนี้สำนักงบประมาณเห็นชอบในหลักการแล้ว
วันนี้ (16 ก.ย.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอร่างกฎหมายตามแผนพัฒนากฎหมายของอัยการสูงสุด 6 ฉบับ ประจำปี 2551 เสนอ ครม.เพื่อพิจารณา สืบเนื่องจากเดิมสำนักงานอัยการสูงสุดมีฐานะเป็นกรม สังกัดกระทรวงยุติธรรม แต่รัฐธรรมนูญปัจจุบันบัญญัติให้องค์กรอัยการ เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่มีหน่วยธุรการเป็นอิสระในการบริหารงานบุคคล การงบประมาณ และการดำเนินงานอื่น โดยมีอัยการสูงสุดเป็นผู้บังคับบัญชา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเสนอยกร่างกฎหมายขึ้นใหม่ และแก้ไขเพิ่มเติม ที่บังคับใช้อยู่ให้สอดคล้องตามบทบัญยัติแห่งรัฐธรรมนูญ ดังนี้ 1.ร่างพระราชบัญญัติองค์กรอัยการ พ.ศ... 2.ร่างพระบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.... 3.ร่างพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ...4.ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งข้าราชการอัยการ (ฉบับที่...) พ.ศ... 5.ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่...) พ.ศ... 6.ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่...) พ.ศ... ซึ่ง ครม.มีมติเห็นชอบส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาขั้นต่อๆ ไป
น.ส.วีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เรื่องที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ขออนุมัติงบฯเพิ่มวงเงินก่อสร้างอาคารชุดรวมอาศัยระดับ 3-4 สาระสำคัญของเรื่องนี้ คือ สถาบันพลศึกษา ได้รับจัดสรรงบประมาณประจำปี 2551 เพื่อที่จะนำไปสร้างอาคาร จำนวน 4 แห่ง แห่งละ 16,524000 บาท ซึ่งได้มีการดำเนินการไปแล้ว แต่ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้เนื่องจากราคาวัสดุ จึงได้มีการขออนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณให้แก่โรงเรียน 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนจังหวัดขอนแก่น 19,060,000 บาท โรงเรียนจังหวัดนครสวรรค์ 18,400,000 บาท โรงเรียนกีฬาลำปาง 19,2006,000 บาท และโรงเรียนจังหวัดอุบลธานี จำนวน 19,066,000 บาท ซึ่งเป็นการอนุมัติขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ 2551-2553 ซึ่งเรื่องนี้สำนักงบประมาณเห็นชอบในหลักการแล้ว
