xs
xsm
sm
md
lg

เปิดยุทธศาสตร์ชาติฉบับ วปอ.ชี้สังคมแบ่งฝ่ายสะเทือนความมั่นคง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี
เปิดยุทธศาสตร์ชาติ ฉบับ วปอ.ระบุสังคมไทยแตก 2 ฝ่าย คุกคามความมั่นคง รัฐบาลถูกมองเป็นนอมินี ขณะ รธน.50 ถูกโจมตีว่าเป็นอุปสรรคการบริหาร ทำให้ตองแก้ไข รธน. การใช้สื่อเป็นเครื่องมือโหมกระพือความขัดแย้ง ซ้ำพฤติกรรม “แม้ว” ทั้งในและต่างประเทศกระตุ้นอีกฝ่ายไม่พอใจ แนะทางแก้ ต้องเทิดทูนสถาบันกษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจ รวมถึงการใช้คำวินิจฉัยของศาลหาข้อยุติ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 ก.ย. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเป็นประธานการแถลงยุทธศาสตร์ชาติ ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นปี 2550 ซึ่งประกอบด้วย หลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 50 และหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร ภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.) รุ่นที่ 20 ทั้งนี้การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการจัดการศึกษาแต่ละปี โดยหลังจากนักศึกษาได้รับฟังการบรรยายในวิชาการต่างๆ ตามหลักสูตรและเดินทางไปตรวจสอบสภาวะแวดล้อมทั้งภายในภายนอกแล้ว ซึ่งยุทธศาสตร์ชาติจะกำหนดนโยบายความมั่นคงแห่งชาติในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ตั้งแต่ปี 2552-2556

รายงานข่าวเปิดเผยว่า สำหรับเอกสารยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2552-2556 ได้กล่าวถึงสถานการณ์ภายในประเทศว่า ขณะนี้มีความปัญหาความแตกแยกแบ่งเป็น 2 ฝ่าย และมีผู้สนับสนุนแต่และฝ่ายจำนวนมาก ซึ่งยังไม่มีแนวโน้มที่จะสมานฉันท์ในเวลาอันสั้น ซึ่งรัฐบาลมีปัญหา เพราะสังคมมองว่าคณะรัฐมนตรีไม่มีความเป็นตัวของตัวเองเนื่องจากเป็นตัวแทนรัฐบาลในอดีต นอกจากนี้รัฐธรรมนูญที่ใช้เวลาในการร่างที่จำกัด และได้รับอิทธิพลโครงสร้างรัฐธรรมนูญจากต่างประเทศโดยไม่ได้คำนึงถึงสังคมไทย และวัฒนธรรมทางการเมืองอย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีความหวาดระแวงอำนาจเดิมทำให้มีจุดอ่อน และข้อขัดแย้ง ทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ฝ่ายนิติบัญญัติต้องให้ความเห็นชอบในหนังสือสัญญาที่ทำโดยฝ่ายบริหาร ส่งผลกระทบต่อความเสียเปรียบในเวทีโลก ซึ่งประเด็นดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการเมือง และการบริหารราชการแผ่นดิน จึงมีแนวโน้มที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้ง นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบจากภาคประชาชนอย่างเข้มข้น ซึ่งจะทำให้การเมืองโปร่งใส

สำหรับปัญหาภัยคุกคามเกิดจากปัญหาความขัดแย้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายของประชาชนและขยายตัวไปยังคนไทยในต่างประเทศโดยการตั้งสถานีโทรทัศน์ทั้งพีทีวี และเอเอสทีวี ทำให้ความขัดแย้งขยายวงยิ่งขึ้น รวมถึงพฤติการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งภายในและภายนอกต่างประเทศเป็นเรื่องกระตุ้นรบเร้าสร้างความนิยมศรัทธาทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ เป็นอุปสรรคทางการเมืองต่อไป

นอกจากนี้ นโยบายประชานิยมส่งเสริมให้ประชาชนเน้นการบริโภค ทำให้ฟุ่มเฟือยซึ่งจะเป็นปัญหาและและลดการพึ่งพาตนเอง จึงควรจะต้องส่งเสริมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ส่วนแนวทาการแก้ไขปัญหาควรต้องพิทักษ์รักษาเสริมสร้างและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มีความมั่นคงเพื่อเป็นศูนย์รวมของคนในชาติให้มีความรักความสามัคคี ขจัดความขัดแย้ง และการแบ่งฝ่ายของประชาชน รวมถึงการใช้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและคำพิพากษาของศาลฎีกา การศึกษาคุณธรรม จริยธรรมเพื่อแก้ไขปัญหา รวมถึงการเรื่องการแต่งตั้งตุลาการและผู้พิพากษาที่ทำหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดีการเมืองเป็นการเฉพาะในฐานะผู้ชำนาญการ การปลูกฝังอุดมการณ์ค่านิยมรู้รักสามัคคี และการปรองดองของชาติ การจัดกิจกรรมค่ายประชาธิปไตย เพื่อให้ชุมชนเรียนรู้ความแตกต่างทางความคิดเห็น และการปรองดอง
กำลังโหลดความคิดเห็น