“ปธ.วุฒิสภา” ประกาศยุติบทบาทตัวกลางเจรจา 3 ฝ่าย เหตุสถานการณ์คลี่คลาย โยนกลับสภาผู้แทนฯ เป็นผู้แก้ปัญหาและจะต้องรับผิดชอบหากเสนอ “สมัคร” กลับมานั่งเก้าอี้นายกฯ
วันนี้ (10 ก.ย.) นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วยคณะทำงานในส่วนของสมาชิกวุฒิสภาที่ตั้งขึ้นมาเพื่อประสานงานเจรจากับ ผบ.ทบ.และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เช่น นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้ร่วมกันแถลงข่าวยุติบทบาทการทำหน้าที่ประสานงาน
โดย นายประสพสุข กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ตนและคณะทำงานจึงเห็นพ้องต้องกันว่าควรยุติการดำเนินการตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุม 3 ฝ่ายนิติบัญญัติไว้ก่อนจนกว่าจะมีการประชุม 3 ฝ่ายอีกครั้งหนึ่งในอนาคตเพื่อปิดโอกาสให้ฝ่ายการเมืองได้แก้ไขและคลี่คลายสถานการณ์ จึงเห็นควรให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายสภาผู้แทนราษฎรที่จะต้องดำเนินการตามวิถีทางการเมืองต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนและวุฒิสภายังคงเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง และหวังว่าสถานการณ์คงคลี่คลายไปในทางที่ดี สามารถหาข้อยุติได้และนำพาบบ้านเมืองไปสู่สันตินำความสามัคคีมาสู่ประเทศได้
เมื่อถามว่า การเปลี่ยนแปลงนายกฯ จะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้นหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า เมื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น โดยส่วนตัวยังเชื่อมั่นในระบบรัฐสภาว่าสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศได้ ส่วนข้อเสนอให้ตนเป็นนายกฯ คนกลางนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เป็นเรื่องที่พูดกันเล่นๆ
เมื่อถามถึงกรณีที่แกนนำพันธมิตรฯ อยากให้คิดนอกกรอบในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง นายประสพสุข กล่าวว่า ไม่เข้าใจความหมายของการคิดนอกกรอบว่าหมายถึงอะไร เพราะเราต้องเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา ในระบอบประชาธิปไตย เมื่อถามว่าหากพรรคพลังประชาชนจะโหวตให้นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ กลับเข้ามาเป็นนายกฯ ใหม่อีกครั้ง นายประสพสุข กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปวิจารณ์ เพราะเป็นเพียงข้อคิดเห็น ต้องรอให้มีการเสนอของสภาจริงๆ เสียก่อน ซึ่งสภาเป็นผู้ตั้งนายกฯ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ