ผู้ช่วยเลขาธิการ ปชป.รุมสวด “หมัก” ดื้อด้านที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เหน็บสงสัยรอเด็กอนุบาลมาขับไล่ก่อน ชี้ การลาออกถือเป็นการรักษาประชาธิปไตยรูปแบบหนึ่ง เตือนอย่าใช้สถาบันเบื้องสูงมาเป็นเกราะป้องกันตน ตำหนิอย่าสร้างเงื่อนไขใหม่จัดครม.จรจัด
วันนี้ (7 ก.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัคร ว่า ยังมีท่าทีแข็งกร้าวทางการเมือง ว่า นายกฯ ยังแสดงท่าทีเหมือนเดิม มีการโจมตีสื่อว่าเป็นผู้จุดชนวน กล่าวหาว่าสื่อเสนอข่าวฝ่ายเดียว ทำให้คนมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลขาดวิจารณญาณ ตนจึงอยากขอให้ไปดูว่าผู้ชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต่างจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อย่างไร เพราะเป็นคนชั้นกลาง ซึ่งมีวิจารณญาณแน่นอน วันนี้ผู้ชุมนุมขยายไปถึงนักเรียน นักศึกษา ถามว่า นายกฯ จะรอให้เด็กประถม อนุบาลออกมาก่อนหรืออย่างไร ถึงจะฟังเสียงประชาชน
นายกฯ ยังพูดว่าอยู่เพื่อรักษาประชาธิปไตย และต้องเฝ้าดูสถาบัน เพราะมีลางสังหรณ์ว่าพันธมิตรฯ จะปลุกระดมแสดงความจงรักภักดีมีนัยอะไร ตนไม่อยากให้นายสมัครใช้สถาบันมาเป็นเกราะป้องกัน ทั้งนี้ การรักษาประชาธิปไตย การยุบสภา หรือลาออก ก็เป็นการรักษาประชาธิปไตยเช่นกัน ในอดีตมีนายกฯ 3 คน ที่เจอสถานการณ์น้อยกว่านายสมัครด้วยซ้ำ แต่ก็ลาออก คือ กรณี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ลาออก เนื่องจากถูกกดดันว่าการเมืองในพรรคอ่อนแอ ก็ประกาศลาออก พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ก็ลาออกกลางสภา จากวิกฤตน้ำมัน และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากวิกฤตเศรษฐกิจ แม้จะมีผู้ชุมนุมต่อต้านไม่ถึงหมื่นคน
“ยุค นายสมัคร คนทั่วประเทศ ทุกอาชีพ แสดงออกว่าไม่เอา นายสมัคร แต่ นายสมัคร กลับห้อยพระมหาอุต ปิดหูปิดตาไม่ฟังใคร เอาตัวเป็นใหญ่ ผมขอให้ลดทิฐิเพื่อเห็นแก่ชาติ อย่าไปกล่าวโทษคนนั้นคนนี้ แต่ต้องสำรวจตัวเองว่าบกพร่องตรงไหน ผู้ถูกวิจารณ์ต้องพึงสังวรก่อนแสดงท่าทีแข็งกร้าว ได้ขอให้เลิก ครม.สัญจร เพราะเหมือน ครม.จรจัดมากกว่า ซึ่งจะสร้างเงื่อนไขเพิ่มขึ้นมาอีกข้อหนึ่ง นอกจากนี้ ขอถามพรรคร่วมรัฐบาลว่ายังมีความสุขความยินดีที่จะร่วมรัฐบาลอยู่หรือ อยากจะกอดคอดูบ้านเมืองหายนะหรือ ขอให้พรรคร่วมฟังความเห็นประชาชนทั่วประเทศ เพี่อรักษาประชาธิปไตยไว้” นายเทพไท กล่าว
