“ทูตสหรัฐฯ” ห่วงสถานการณ์วิกฤต ดอดพบ “ผู้นำฝ่ายค้าน”

“เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ” เข้าพบ “อภิสิทธิ์” ถกสถานการณ์ความขัดแย้ง รับวิตกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เชื่อจะได้รับการแก้ไขตาม รธน.ขณะที่ “อภิสิทธิ์” มั่นใจ ผบ.ทบ.จะควบคุมสถานการณ์ได้ แนะ “เติ้ง” ถามความเห็นก่อนมีใครยอมรับตั้งตัวเป็นกาวใจประสานความขัดแย้งหรือไม่ เตือนอาจสร้างปมขัดแย้งเพิ่มขึ้น หากไม่มีใครยอมรับ

เมื่อเวลา 15.30 น.นายเอริด จี จอร์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ได้เข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง โดย นายเอริด จี จอร์น กล่าวว่า การมาครั้งนี้เป็นการเดินทางมาพบตามปกติและพูดคุยกันเรื่องทั่วไป ที่ตนนั้นตระเวนไปหารือสถานการณ์ต่างๆ กับทุกพรรคการเมือง ส่วนสถานการณ์ที่วิกฤตของประเทศไทยในขณะนี้ ตนขอไม่แสดงความคิดเห็นหรือยุ่งเกี่ยวอะไร แต่เชื่อว่า จะได้รับการแก้ไขตามขั้นตอนทางการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญ

ด้าน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายเอริด ได้แสดงความห่วงใย ในฐานะที่เป็นมิตร เดินทางเพื่อสอบถามการประเมินสถานการณ์ของพวกเรา ซึ่งตนได้อธิบายถึงการประเมินสถานการณ์และให้ข้อมูลเท่าที่ทราบ รวมทั้งได้พูดถึงจุดยืนของพรรค ซึ่งทางเอกอัครราชทูตสหรัฐฯก็มีความประสงค์อยากจะเห็นการคลี่คลายสถานการณ์ไปอย่างสงบภายในกรอบกฎหมาย และวิถีทางประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า ได้มีการหารือเกี่ยวกับการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้ลงลึกประเด็นเฉพาะ เพราะคิดว่าสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายเห็นก็เป็นภาพที่รุนแรง และไม่ควรเกิดขึ้น ส่วนที่มาที่ไปเป็นอย่างไร เอกอัครราชทูตไม่ก้าวล่วง แต่ได้แสดงความเป็นห่วง ซึ่งตนยืนยันชัดเจนว่า แนวทางปฏิวัติรัฐประหารไม่ใช่ทางออกของปัญหา และครั้งนี้มีความเสี่ยงหากเกิดขึ้นอีก จะเกิดปฏิกิริยาทั้งภายใน และต่างประเทศ ความแตกแยกที่เป็นอยู่อาจจะปะทุขึ้นมาเกิดความรุนแรงได้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการแถลงของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ว่า ต้องขอบคุณ ผบ.ทบ.ที่พยายามวางขั้นตอนการทำงาน โดยขั้นตอนแรกที่ถูกต้อง คือทำอย่างไรไม่ให้ 2 ฝ่ายปะทะกัน ส่วนประเด็นที่ไกลกว่านั้น ที่ท่านมองว่า เป็นเรื่องขั้นตอนทางการเมือง ตนก็ปฏิเสธไม่ได้ แต่จะไปรุกเร้าให้ทำอย่างไรนั้นอย่างนี้ ยังไม่ใช่เวลา สิ่งที่จำเป็นเร่งด่วน คือ ต้องหยุดยั้งไม่ให้เกิดความรุนแรงและบานปลาย

“แต่ละฝ่ายคิดแต่จะป้องกันตัวเอง และความรู้สึกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็เป็นการเติมเชื้อไฟลงไป หากคนที่จะมาไม่ได้ต้องการทำให้ความรุนแรงเกิดขึ้น เชื่อว่า ผบ.ทบ.จะควบคุมสถานการณ์ได้ แต่คงต้องใช้วิธีทำความเข้าใจ ทำอย่างไรถึงจะค่อยๆ สลายความขัดแย้ง ในส่วนของผมและพรรค พร้อมเข้าไปเป็นส่วนร่วมในการแก้ปัญหาวิธีใด เพราะเราไม่ใช่พวกขัดแย้ง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ส่วนกรณีที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เสนอตัวเป็นคนกลาง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องไปถามผู้ขัดแย้งว่ายอมรับหรือไม่ หากรัฐบาลและพันธมิตรฯ ยอมรับได้ นายบรรหาร ก็ทำหน้าที่ได้ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีปัญหา แต่การจะเป็นคนกลางได้นั้น จะตั้งตัวเองไม่ได้ ต้องให้ผู้ขัดแย้งยอมรับเราไม่ใช่นั้นก็จะกลายเป็นการตั้งตัวเองขึ้นมา หากไม่ได้รับความร่วมมืออาจจะเป็นการสร้างปมความขัดแย้งเพิ่มขึ้น