“สุริยะใส” จวก “หุ่นเชิด” บิดเบือนข่าว กล่าวหาพันธมิตรฯ ไม่ให้ จนท.เข้าไปเอาเอกสารงานพระราชทานเพลิงศพในทำเนียบ หนำซ้ำใช้งาน “116 วัน” เป่าหูกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-ลูกเสือ ให้เข้าใจผิดพันธมิตรฯ เตือน นปก. หากจะบุกเกิดอะไรขึ้นไม่รับผิดชอบ
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 1 ก.ย. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า ได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ประสานเรื่องขอเข้ามาเอาเอกสารที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารเงินเดือนข้าราชการลูกจ้างประจำ ซึ่งทางพันธมิตรฯ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่กลับมีข่าวออกมาในทำนองว่า เจ้าหน้าที่จะเข้ามาเอาเอกสารที่เกี่ยวกับการพระราชทานเพลิงศพ แล้วไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนกรณีที่มีนักวิชาการกลุ่มหนึ่งออกมาระบุว่า พันธมิตรฯ เล่นนอกกติกา ต้องการให้เกิดการรัฐประหารนั้น ขอยืนยันว่าการรัฐประหารไม่ใช่วัตถุประสงค์ของพันธมิตรฯ เราต้องการให้รัฐบาลลาออก ซึ่งเป็นการรักษาระบบเอาไว้แต่ทางรัฐบาลกลับดื้อดึง และน่าแปลกใจว่า นักวิชาการโดยเฉพาะนายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งออกมาปกป้องนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งตนเองเห็นแล้วน่าเวทนา เพราะนายสุธาชัยเป็นผู้ที่เข้าใจเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เป็นอย่างดี แต่กลับทำให้ประวัติศาสตร์เดือนตุลาคม ต้องมัวหมองจากความไม่เอาไหนของนักวิชาการ เพราะเหตุการณ์ 6 ตุลาคม เป็นเรื่อเงที่เกี่ยวข้องกับการฆ่านักศึกษาในสนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งหากนักวิชาการไม่อยากเห็นการเกิดรัฐประหาร ควรไปเรียกร้องให้รัฐบาลตัดสินใจโดยเร็วเพื่อรักษาระบบไว้
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า การที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจจะหยุดทำงานทั่วประเทศในวันที่ 3 กันยายนนั้น จะส่งผลต่อภาพกว้างอย่างแน่นอน ซึ่งทางพันธมิตร ไม่มีทางเลือกและคงต้องเพิ่มแรงกดดัน 3 วันต่อ 1 ครั้ง แบบนี้ไปเรื่อยๆ
นายสุริยะใส กล่าวว่า ท่าทีของรัฐบาลวันนี้ที่พยามยามทำลายความชอบธรรมของพันธมิตร โดยใช้สื่อของรัฐโจมตี รวมทั้งใช้กฎหมายและอ้างว่าพันธมิตรไม่ยอมรับกระบวนการทางกฎหมาย ทั้งที่เราเคารพการตัดสินของศาล ขณะนี้เรากำลังรอการอุทธรณ์ขอเพิกถอนหมายจับ 9 แกนนำว่าจะออกมาอย่างไร
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า ที่สำคัญรัฐบาลได้บิดเบือนงาน 116 วันจากวันแม่ถึงวันพ่อ ซึ่งนายสมัครใช้งานในวันนั้นเป็นเครื่องมือในการโจมตีใส่สี ตีไข่พันธมิตร โดยเฉพาะทำให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน ลูกเสือเข้าใจว่าพันธมิตรกำลังสร้างความวุ่นวายแก่บ้านเมือง ทั้งๆ ที่นายสมัคร ไม่ควรที่จะเอางานเกี่ยวกับพระราชพิธีมาคํ้าบัลลังก์ของตนเอง
สำหรับข่าวที่ออกมาว่าในวันนี้ เวลาประมาณ 21.00 น. กลุ่ม นปก.จะมาก่อกวนพันธมิตรนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ตนขอเตือนว่า อย่ายั่วยุ เพราะเมื่อถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้แล้ว จะไม่รับประกันความปลอดภัย และหากเกิดอะไรขึ้นมาอย่ามาโทษทางพันธมิตรฯ เพราะทางพันธมิตรต้องทำการปกป้องมวลชนของตนเอง ซึ่งเชื่อว่ากลุ่ม นปก.นั้นมีกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลัง ส่วนเหตุการณ์ที่มีการลอบวางละเบิดใกล้ๆ กับสะพานมัฆวานฯ นั้น ทางการ์ดของพันธมิตรได้เห็น"เสธฯแดง"มาเดินป่วนเปี้ยนหลายครั้ง แต่ตนเองไม่คิดว่าเสธฯแดงจะทำได้แค่นั้น แต่น่าจะเป็นการทำเพื่อป้ายสีให้กับพันธมิตร เพื่อให้ถูกปราบปราม
ส่วนเรื่องของการตัดนํ้าตัดไฟนั้นจะกระทบต่อคนอื่นหรือไม่ นายสุริยะใสบอกว่า ที่ผ่านมาการชุมนุมก็กระทบต่อผู้อื่นอยู่แล้ว และเมื่อมีการยกระดับการชุมนุมย่อมหลีกไม่ได้ แต่ตั้งคำถามว่ประธานสหภาพแรงงานเห็นด้วยกันหมด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทางสหภาพไม่เห็นด้วยเกือบครึ่ง
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 1 ก.ย. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า ได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ประสานเรื่องขอเข้ามาเอาเอกสารที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารเงินเดือนข้าราชการลูกจ้างประจำ ซึ่งทางพันธมิตรฯ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่กลับมีข่าวออกมาในทำนองว่า เจ้าหน้าที่จะเข้ามาเอาเอกสารที่เกี่ยวกับการพระราชทานเพลิงศพ แล้วไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนกรณีที่มีนักวิชาการกลุ่มหนึ่งออกมาระบุว่า พันธมิตรฯ เล่นนอกกติกา ต้องการให้เกิดการรัฐประหารนั้น ขอยืนยันว่าการรัฐประหารไม่ใช่วัตถุประสงค์ของพันธมิตรฯ เราต้องการให้รัฐบาลลาออก ซึ่งเป็นการรักษาระบบเอาไว้แต่ทางรัฐบาลกลับดื้อดึง และน่าแปลกใจว่า นักวิชาการโดยเฉพาะนายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งออกมาปกป้องนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งตนเองเห็นแล้วน่าเวทนา เพราะนายสุธาชัยเป็นผู้ที่เข้าใจเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เป็นอย่างดี แต่กลับทำให้ประวัติศาสตร์เดือนตุลาคม ต้องมัวหมองจากความไม่เอาไหนของนักวิชาการ เพราะเหตุการณ์ 6 ตุลาคม เป็นเรื่อเงที่เกี่ยวข้องกับการฆ่านักศึกษาในสนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งหากนักวิชาการไม่อยากเห็นการเกิดรัฐประหาร ควรไปเรียกร้องให้รัฐบาลตัดสินใจโดยเร็วเพื่อรักษาระบบไว้
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า การที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจจะหยุดทำงานทั่วประเทศในวันที่ 3 กันยายนนั้น จะส่งผลต่อภาพกว้างอย่างแน่นอน ซึ่งทางพันธมิตร ไม่มีทางเลือกและคงต้องเพิ่มแรงกดดัน 3 วันต่อ 1 ครั้ง แบบนี้ไปเรื่อยๆ
นายสุริยะใส กล่าวว่า ท่าทีของรัฐบาลวันนี้ที่พยามยามทำลายความชอบธรรมของพันธมิตร โดยใช้สื่อของรัฐโจมตี รวมทั้งใช้กฎหมายและอ้างว่าพันธมิตรไม่ยอมรับกระบวนการทางกฎหมาย ทั้งที่เราเคารพการตัดสินของศาล ขณะนี้เรากำลังรอการอุทธรณ์ขอเพิกถอนหมายจับ 9 แกนนำว่าจะออกมาอย่างไร
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า ที่สำคัญรัฐบาลได้บิดเบือนงาน 116 วันจากวันแม่ถึงวันพ่อ ซึ่งนายสมัครใช้งานในวันนั้นเป็นเครื่องมือในการโจมตีใส่สี ตีไข่พันธมิตร โดยเฉพาะทำให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน ลูกเสือเข้าใจว่าพันธมิตรกำลังสร้างความวุ่นวายแก่บ้านเมือง ทั้งๆ ที่นายสมัคร ไม่ควรที่จะเอางานเกี่ยวกับพระราชพิธีมาคํ้าบัลลังก์ของตนเอง
สำหรับข่าวที่ออกมาว่าในวันนี้ เวลาประมาณ 21.00 น. กลุ่ม นปก.จะมาก่อกวนพันธมิตรนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ตนขอเตือนว่า อย่ายั่วยุ เพราะเมื่อถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้แล้ว จะไม่รับประกันความปลอดภัย และหากเกิดอะไรขึ้นมาอย่ามาโทษทางพันธมิตรฯ เพราะทางพันธมิตรต้องทำการปกป้องมวลชนของตนเอง ซึ่งเชื่อว่ากลุ่ม นปก.นั้นมีกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลัง ส่วนเหตุการณ์ที่มีการลอบวางละเบิดใกล้ๆ กับสะพานมัฆวานฯ นั้น ทางการ์ดของพันธมิตรได้เห็น"เสธฯแดง"มาเดินป่วนเปี้ยนหลายครั้ง แต่ตนเองไม่คิดว่าเสธฯแดงจะทำได้แค่นั้น แต่น่าจะเป็นการทำเพื่อป้ายสีให้กับพันธมิตร เพื่อให้ถูกปราบปราม
ส่วนเรื่องของการตัดนํ้าตัดไฟนั้นจะกระทบต่อคนอื่นหรือไม่ นายสุริยะใสบอกว่า ที่ผ่านมาการชุมนุมก็กระทบต่อผู้อื่นอยู่แล้ว และเมื่อมีการยกระดับการชุมนุมย่อมหลีกไม่ได้ แต่ตั้งคำถามว่ประธานสหภาพแรงงานเห็นด้วยกันหมด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทางสหภาพไม่เห็นด้วยเกือบครึ่ง