กมธ.คมนาคมฯ สภาอวดบารมีอ้าง พ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจข่มเหงจิตใจสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ชี้หยุดงานผิด กม. ขีดเส้นกลับเข้าทำงานภายใน 3 วัน พร้อมออกคำสั่งกดดันฝ่ายบริหาร รถไฟ การบินไทย ประปา ไฟฟ้า เลิกจ้างพนักงานรับสมัครพนักงานใหม่ทดแทน
วันนี้ (1 ก.ย.) ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี นายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคพลังประชาชน กรรมาธิการ ร่วมกันแถลงว่า เรียกร้องให้พนักงานรัฐวิสาหกิจทุกสาขาได้กลับเข้าไปทำงานตามปกติภายใน 3 วัน เพราะการหยุดงานที่ผ่านมาสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล
ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ส.ค.สหภาพแรงงานหลายหน่วยงานได้นัดกันหยุดงาน เช่น สหภาพแรงงานการรถไฟ สหภาพแรงงานการบินไทย สหภาพแรงงานการไฟฟ้า การประปา ซึ่งได้สร้างความเสียหายและผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของต่างชาติ และส่งผลกระทบโดยตรงในหลายธุรกิจ เช่น ธุรกิจการท่องเที่ยว มีการยกเลิกโรงแรม ทัวร์ และเที่ยวบิน ดังนั้นคณะกรรมาธิการจึงขอเรียกร้องและวิงวอนให้ประธานสหภาพแรงงานทุกสาขาได้ตระหนักถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และกำลังที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขอเรียกร้องให้พนักงานทุกคนได้กลับเข้ามาทำงานตามปกติภายใน 3 วันนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพราะตามกฎหมายการหยุดงานของสหภาพแรงงานจะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับค่าจ้างงานเท่านั้น ดังนั้น การหยุดงานครั้งนี้จึงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
“คณะกรรมาธิการคมนาคมขอแจ้งให้ทางสหภาพแรงงานได้ปฏิบัติตามที่เรียกร้อง หากยังหยุดงานเกิน 3 วันตามที่ได้แจ้ง คณะกรรมาธิการจะดำเนินการในขั้นเด็ดขาด คือจะนัดประชุมคณะกรรมาธิการเป็นการด่วนนัดพิเศษในวันที่ 8 ก.ย.เพื่อเชิญผู้ว่าการรถไฟฯ และรัฐมนตรีคมนาคมเข้าชี้แจง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้ว่าการรถไฟฯ ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้กระทำผิดและเลิกจ้าง โดยให้ประกาศรับสมัครพนักงานการรถไฟใหม่ทดแทนพนักงานที่ถูกตัดชื่อออกไปเพื่อเป็นการตอบโต้ไม่ให้เอาเยี่ยงอย่าง” ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าว
ด้าน นายอำนวย กล่าวว่า ประชาชนได้ร้องเรียนมายังคณะกรรมาธิการว่าได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากจากการหยุดงานของพนักงานรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะการรถไฟ ซึ่งหยุดวิ่งทั้งหมด 76 เที่ยวมูลค่าความเสียหายวันละ 60 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาก็ประสบภาวะขาดทุนหลายหมื่นล้านบาท แต่พนักงานกลับหยุดงาน ดังนั้นพนักงานเหล่านี้ควรจะลาออกไป เพื่อให้เปิดรับสมัครพนักงานใหม่มาปฎิบัติงานให้มีกำไรต่อไปในอนาคต หากไม่มีการดำเนินการอะไรผู้ว่าการรถไฟจะต้องรับผิดชอบ
ขณะที่ นายสถาพร กล่าวว่า การหยุดงานได้ต้องเป็นมติของที่ประชุมสหภาพแรงงานทั้งหมด ตาม พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธุ์ ปี 2540 โดยกิจการใดที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและประชาชนไม่สามรถหยุดงานได้ และการจะนัดหยุดงานจะต้องมีการยื่นข้อเรียกร้อง สิทธิประโยชน์เกี่ยวกับค่าจ้าง เพราะฉะนั้น การหยุดงานของสหภาพฯ ซึ่งมีสวัสดิภาพและสวัสดิที่ดีกว่าพนักงานเอกชนอื่นๆ โดยเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวประกัน ทั้งที่เงินเดือน ค่าจ้างของพนักงานก็เป็นภาษีของประชาชน ดังนั้น ขอเรียกร้องให้เพื่อนพนักงานรัฐวิสาหกิจพิจารณากฎหมายได้ดีเพราะอาจจะมีการฟ้องร้องกันในอนาคตได้
