xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯ ย้ำแผนไล่ “หุ่นเชิด” ยึดสันติวิธี-อารยะขั้นสูงสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ
“สุริยะใส” จวก “หมัก” ปล่อยข่าว จะมีคนปาระเบิดใส่พันธมิตรฯ เป็นแผนปัดความรับผิดชอบ โยนผิดให้แกนนำ ยืนยันแผน “ไทยคู่ฟ้า” อยู่บนหลักสันติวิธีและอารยะขั้นสูงสุด เป้าหมายขับไล่ “รัฐบาลหุ่นเชิด” ที่ไร้ความชอบธรรม ปล่อยให้ประชุม ครม.ต่อไม่ได้อีกแล้ว ชี้ทางปลดล็อก “หมัก” ต้องออกสถานเดียว เชื่อทหารไม่ขยับ

วันนี้ (25 ส.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังเวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า หลังจากที่ทางพันธมิตรฯ ได้ประกาศเป่านกหวีดการชุมนุมครั้งสุดท้าย โดยจะมีมาตรการที่ชื่อว่า “แผนไทยคู่ฟ้า” ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่เช้ามืด ในวันที่ 26 ส.ค.ก็มีเสียงโต้ตอบจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ซึ่งสะท้อนความไม่รับผิดชอบ ที่ระบุว่า หากมีการปาระเบิดในที่ชุมนุมจะไปโทษเขาไม่ได้

นายสุริยะใส กล่าวว่า ท่าทีดังกล่าวสามารถตีความได้สามแบบ คือ 1.นายสมัคร ต้องการสกัดกั้นการชุมนุม ต้องการให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวและไม่กล้าเข้าร่วมชุมนุม 2.ต้องการส่งสัญญาณให้กับเครือข่ายระบอบทักษิณ หรือฝ่ายตรงข้ามกับพันธมิตรฯ ที่มีศักยภาพในการปฏิบัติการได้ และประการที่ 3.ต้องการชี้ช่องให้ตนเอง เพื่อป้ายสีให้กับแกนนำพันธมิตรฯ หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทั้งๆ ที่โดยหลักปฏิบัติแล้วนายกฯ ต้องแสดงภาวะความเป็นผู้นำให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ใช้มาตรการรับมือด้วยความรุนแรง และไม่จัดตั้งมือที่สามขึ้นมาป่วน

ท่าทีดังกล่าว นายสมัคร วางแผนโยนความผิดให้กับพันธมิตรฯ ทั้งๆ ที่การเคลื่อนไหวที่ผ่านมาของพันธมิตรฯ สื่อมวลชนก็เห็นแล้วว่า เราไม่ต้องการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงเลย ยืนยันว่า แผนไทยคู่ฟ้า จะอยู่บนหลักสันติวิธี และมาตรการอารยะขั้นสูงสุด มีเป้าหมายเพื่อขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด ซึ่งหมดความชอบธรรมไปแล้ว เราจะปล่อยให้รัฐบาลชุดนี้จัดประชุม ครม. อีกต่อไปไม่ได้แล้ว เราจะปล่อยให้มีมติ ครม.ที่ลักไก่ อนุมัติเมกะโปรเจกต์ และจัดระเบียบมาตรการเงินการคลัง เพื่อเอื้อต่อระบอบทักษิณไม่ได้อีกแล้ว

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ในคืนนี้แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 จะขึ้นปราศรัยใน 2 ช่วง คือ ช่วงปกติในเวลาสองทุ่มกว่าๆ และอีกช่วงในเวลาตีสี่ เป็นต้นไป โดยในเวลา 07.00 น.แกนนำจะขึ้นเวทีเพื่อประกาศเจตนารมณ์ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ และเปิดเผยแผนปฏิบัติการเสริมของแนวร่วมต่างๆ ทั้งนี้ แผนต่างๆ ดังกล่าวได้มีการประชุมหารือ และซักซ้อมเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อให้แน่ใจว่า จะไม่เกิดความรุนแรงขึ้น

“การที่เราเลือกปฏิบัติการในเวลากลางวันโดยไม่เคลื่อนไหวในเวลากลางคืน ซึ่งสุ่มเสี่ยงกว่า เป็นการยืนยันว่า เราต้องการให้ประชาชนที่มาเข้าร่วมชุมนุมมั่นใจว่าจะไม่มีความรุนแรง”

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ส่วนข่าวว่า พันธมิตรฯ จะมีการเคลื่อนไหวไปยังหน่วยงานราชการต่างๆ ตนเห็นว่า ที่ผ่านมา มีข่าวปล่อยอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งทางพันธมิตรฯ เองก็ได้มีการหารือในแผนการเสริมต่างๆ ซึ่งอาจจะมีการใช้ยุทธการดาวกระจายเพื่อรองรับแผนสำรอง ทั้งนี้ ก็ต้องหารือที่ประชุมแกนนำก่อน อย่างไรก็ตาม ระบุได้เพียงว่า แต่ละแผนการจะมีระยะเวลา ลักษณะเฉพาะและเป้าหมายเฉพาะแตกต่างกันไป

ทั้งนี้ ได้มีการประเมินท่าทีของรัฐบาล โดยเฉพาะรัฐบาลที่อยู่ในภาวะจนตรอกในขณะนี้ เป็นไปได้ทีจะงัดกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินออกมาใช้ เหมือนที่เคยประกาศว่าจะใช้ก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของรัฐบาลอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ นายสมัคร สามารถปลดล็อกได้ไม่ยาก คือ ประกาศลาออกโดยเร็ว

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ พันธมิตรฯได้มีการประเมินกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายของระบอบทักษิณ ตำรวจ และทหารทุกเหล่าทัพ โดยเฉพาะกลุ่มที่จะสามารถสร้างสถานการณ์ได้ โดยจะมีการประเมินกันในทุกชั่วโมง อย่างไรก็ตาม หากเกิดความรุนแรงผลที่ตามมาก็อยู่ในประวัติศาสตร์อยู่แล้ว กล่าวคือ รัฐบาลจะต้องยุติบทบาทในทันที

นอกจากนี้ การประเมินท่าทีของทหารในขณะนี้ ตนยังเห็นว่า ทหารยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เนื่องจากโผโยกย้ายก็ลงตัว แตกตางจากสถานการณ์เมื่อปี 2549 ซึ่งโผทหารพลิกซึ่งเป็นเงื่อนไขประการหนึ่งที่ทำให้เกิดการรัฐประหารขึ้น เชื่อว่า นายกฯ คนนี้ก็ไม่อยากมีเรื่องกับทหาร การคุมสถานการณ์ให้ทหารนิ่งเฉยไม่เข้าข้างพันธมิตรฯ ก็เป็นความสำเร็จอยู่แล้ว

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ตนมั่นใจ การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะจบภายในวันเดียว แต่อย่างไรก็ตามก็ได้เตรียมแผนสอง แผนสามไว้ ซึ่งแต่ละแผนก็จะมีช่วงเวลาและความสำคัญแตกต่างกันไป ทั้งนี้ เวทีใหญ่ที่สะพานมัฆวาน จะเป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของการชุมนุมอยู่

ส่วนกรณีที่มีคำถามว่า พันธมิตรฯ จะชุมนุมบริเวณถนนพิษณุโลกได้อีกหรือไม่ เนื่องจากมีคำสั่งศาลแพ่งคุ้มครองไว้ก่อนหน้านี้ ตนทราบว่า คณะผู้ปกครองโรงเรียนราชวินิตซึ่งเป็นผู้ฟ้องได้ถอนฟ้องไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยไม่ทราบสาเหตุ คำสั่งศาลดังกล่าวจึงตกไปด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น