xs
xsm
sm
md
lg

“พิภพ”จี้ บัวแก้วส่งหนังสือย้ำสถานะอาชญาแม้ว –ร้องปชช.รวมพลังต้านโจรขายชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
“พิภพ” จี้ “เตช-รัฐบาลหุ่นเชิด”ส่งหนังสือระบุสถานะความเป็นอาชญากรหนีหมายจับของ “แม้ว-อ้อ” และยึดพาสปอร์ตแดงเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของชาติ เชื่ออังกฤษรู้ธรรมชาติการเมืองไทยดีเพียงแต่รอท่าทีอย่างเป็นทางการของรัฐบาล ย้ำ เป่านกหวีด 26ส.ค.นี้ เพื่อสนองพระราชดำรัส ปกป้องชาติไม่ให้ล่มจมเพราะมือมารหุ่นเชิด และสกัดกั้นระบอบทักษิณไม่ให้กลับมาอีก เรียกร้องคนไทยนับล้านออกมาแสดงพลังร่วมกัน

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย 

วันนี้(23 ส.ค.) เมื่อเวลา 21.13น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า ในวันอังคารที่ 26 ส.ค.นี้ เป็นวันสำคัญ ขอให้มากันเยอะ เพราะพลังสันติวิธีต้องการพลังของประชาชนจำนวนมาก การมาครั้งนี้เรามาตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงห่วงใยสถานะการเงินของชาติเป็นอย่างมาก ถึงขั้นทรงบอกว่าใกล้ล่มจมแล้ว คนที่จะทำให้ประเทศชาติสถานะการเงินล่มจมก็มีกลุ่มเดียวคือรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช คนแบบเราจะไปทำให้การเงินล่มได้ยังไง มีรัฐบาลเท่านั้น ฉะนั้นธงเราก็คือไล่รัฐบาลสมัครที่เป็นนอมินีของทักษิณออกไปจากการบริหารประเทศ

นายพิภพ กล่าวว่า ขณะนี้นักวิชาการเริ่มมีความเห็นสอดคล้องกับพันธมิตรฯ บนเวทีนี้จำเป็นต้องโต้ตอบกับกับนักวิชาการบางคน ที่อาจจะทำให้พลังของฝ่ายประชาชนหรือพันธมิตรฯอ่อนแอลง แล้วไปเติมพลังของฝ่ายทักษิณ เราก็จำเป็นต้องโต้ตอบด้วยหลักวิชาและความเห็น ฉะนั้นอย่าเข้าใจผิดว่าเรารังเกียจท่าน เราไม่ได้รังเกียจ เพราะพันธมติรฯประกอบไปด้วยคนที่หลายอาชีพมากที่สุด แต่ขอให้มีธงเดียวกันคือ ทักษิณจะต้องติดคุกและรัฐธรรมนูญจะต้องไม่แก้ รัฐบาลสมัครนอมินีต้องออกไป และการสืบทอดอำนาจของทักษิณจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก มิฉะนั้นประเทศก็จะถูกกลืนกินถูกทำลายไปทุกๆด้าน ตอนนี้ไม่ใช่ทำลายแต่องค์กรอิสระ ข้าราชการดีๆ พยายามจะทำลายตุลาการ ยังจะใช้เงินกันอย่างกับเงินตัวเอง ทั้งๆที่เป็นเงินภาษีอากรของประชาชน เขาจะใช้ให้หมดคลังเลย

ทั้งนี้ นายพิภพ ได้กล่าวถึงความเห็นของดร.ปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ระบุว่า อังกฤษ สามารถที่จะเข้าใจภาษาประเทศไทยได้ และก็รู้ดี เพราะทูตอังกฤษประจำประเทศไทยพูดภาษาไทยได้อย่างดี ฉะนั้นอังกฤษย่อมรู้สถานการณ์ดีว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นประชาธิปไตยตัวจริงหรือเป็นประชาธิปไตยประชานิยมจอมปลอม

นายพิภพ กล่าวว่า เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในยุคทักษิณก็มีมาก ถ้าจะจำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ปีหนึ่งในช่วงพ.ต.ท.ทักษิณเป็นรัฐบาล ทรงตรัสถึงเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งจากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณก็ได้ออกมาตั้งกรรมการตรวจสอบเรื่องการฆ่าตัดตอนทันที แต่หลังจากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ทำอะไรเลย ซึ่งประเด็นทีจะโต้แย้งกับรัฐบาลอังกฤษได้ว่า ทักษิณไม่มีสิทธิ์จะลี้ภัยทางการเมือง นอกจากเป็นนักประชาธิปไตยจอมปลอมใช้ประชานิยมครอบงำแล้ว ยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน อันนี้อังกฤษรับได้ แต่หน้าที่กระทรวงต่างประเทศต้องชี้แจงไป แต่วันนี้กระทรวงต่างประเทศโดยรัฐบาลสมัครยังไม่ได้ทำเรื่องนี้เลย

“ประการที่สองต้องชี้แจงว่าพ.ต.ท.ทักษิณเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นอย่างไร ถึงแม้จะเชื่อได้ว่ากระทรงต่างประเทศของอังกฤษและรัฐบาลอังกฤษจะรู้ความเป็นไปของการเมืองไทยดีพอในสมัยรัฐบาลทักษิณและรู้ดีว่าเรามาชุมนมเพื่ออะไร แต่เขาต้องการจดหมายเป็นทางการวาศษลได้ตัดสินคดีต่างๆของพ.ต.ท.ทักษิณไปมีคดีอะไรบ้าง แล้วหนีไปอังกฤษด้วยหนีหมายศาลอะไรบ้าง เขาต้องการเป็นลายลักษณ์อักษร แต่กระทรวงการต่างประเทศโดยรัฐบาลนี้ยังไม่ทำ ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องไล่รัฐบาลนี้ ให้มีรัฐบาลใหม่มาทำเรื่องนี้ เอาตัวคุณทักษิณกลับมาขึ้นศาลให้ได้”

นายพิภพ ยังพูดถึงนายเตช บุญนาค รมว.ต่างประเทศด้วยว่า ต้องถามตัวเองว่าที่โยนไปให้นายสมัครตัดสินเรื่องพาสปอร์ตสีแดง ที่จริงในวงการทูตเขารู้ดีว่าพาสปอร์ตสีแดงไม่ค่อยมีความหมายเท่าไหร่ แต่ในแง่ของเราถือว่าคนที่ถือพาสปอร์ตสีแดงควรจะเป็นคนที่ประชาชนและทางราชการยอมรับ เหมือนเป็นพาสปอร์ตทางการทูต ถึงจะไม่มีความหมายในทางทูตหรือขอวีซ่าใดๆก็ตาม แต่มันมีความหมายในเรื่องศักดิ์ศรี ที่รัฐบาลปล่อยให้คนที่ถูกกล่าวหาเป็นอาชญากรถือพาสปอร์ตสีแดง ไม่ถูก ต้องเข้าใจและเชื่อว่ารัฐบาลอังกฤษก็เข้าใจ

“ฉะนั้นเรื่องการลี้ภัยกระทรวงการต่างประเทศก็จะต้องเริ่มต้น ถ้าโยนไปให้เป็นวาระแห่งชาติ แสดงว่าต้องการให้นายสมัครตัดสินใจและเผชิญหน้ากับประชาชนและความถูกต้องของนานาชาติ แต่เราเชื่อว่าสมัครจะไม่เผชิญหน้าเรื่องนี้ ไม่ยอมตอบนักข่าวเรื่องนี้ แสดงว่าไม่มีความรับผิดชอบในฐานะนายกฯ ก็ควรจะออกไป” นายพิภพ กล่าว และว่า ลำดับขั้นตอนทางการทูตมี เมื่อเรียกทูตอังกฤษไปรับจดหมาย ทูตก็จะส่งไปให้รัฐบาลอังกฤษ และจะให้ศาลในอังกฤษพิจารณาต่อไปตามลำดับ ซึ่งถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลา แต่สิ่งที่เราต้องการคือกระทรวงต่างประเทศและรัฐบาลต้องเริ่มทำโต้แย้งเรื่องการลี้ภัยพ.ต.ท.ทักษิณตั้งแต่วันนี้

นอกจากนั้น นายพิภพ ยังได้กล่าวถึงผลสำรวจความเห็นของประชาชนของสำนักหนึ่ง ซึ่งพบว่า 46% ไม่เชื่อว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมตามคำอ้างของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ 38%ของอีสานยังเชื่อตามพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ ซึ่งเราต้องให้โอกาสเขา โดยเราต้องสู้ด้วยความจริง ส่งจานเอเอสทีวีให้เขาดู ให้ดวงตาเห็นธรรม และ61.8% ไม่เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณวางมือทางการเมือง ซึ่งวันที่ 26 ส.ค.นี้เราต้องแสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่วางมือทางการเมือง เขาอายุใกล้จะ60ปีแล้ว ยังมีความหวังว่าจะเล่นการเมืองได้อีก 5ปี ยังมีโอกาสกลับมา และการกลับมาของเขาจะต้องทำให้เกิดความอ่อนแอในสังคมไทยทุกด้าน เขาพยายามแทรกแซงทุกส่วน ตอนนี้ตำรวจส่วนใหญ๋อยู่ในมือพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว

นายพิภพ กล่าวต่อว่า นี่คือการไม่วางมือทางการเมือง รัฐบาล สภานิติบัญญัติก็อยู่ในมือเขา ตุลาการเท่านั้นที่ยังแข็งขันเพราะเดินตามแนวทางพระราชดำรัสเรื่องตุลาการภิวัตน์ ส่วนกองทัพเขาก็พยายามแทรกแซง ซึ่งในการโยกย้ายเร็วๆนี้จะเป็นตัวพิสูจน์ว่ากองทัพสามารถต้านทานการแทรกแซงได้หรือไม่

นายพิภพ ยังได้ระบุถึง ข้อสำรวจของประชาชนที่ระบุด้วยว่า ประชาชนเกินครึ่งเห็นว่า กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณควรจะเป็นตัวอย่างว่าต่อไปเมื่อนักการเมืองถูกดำเนินคดีจะต้องห้ามออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การที่พันธมิตรฯชุมนุมกันมา 90วันนี้ ทำให้โพลออกมาอย่างนี้ แสดงว่าประชาชนเข้าใจถึงการเคลื่อนไหว ความคิดเห็นของประชาชนเริ่มเข้ารูปเข้ารอยในเรื่องนิติรัฐและความถูกต้องดีงามแล้ว การเคลื่อนไหวของพี่น้องพันธมิตรฯ ทำให้ความคิดของคนในสังคมไทย เริ่มเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เริ่มต่อต้านทุจริตคอรับชั่น ต่อต้านนักการเมือง เริ่มสนับสนุนกระบวนการยุติธรรมและเห็นปัญหาการเลือกตั้ง อันนี้จะทำให้เราได้การเมืองใหม่และสังคมใหม่จริงๆ

นายพิภพ ยังระบุถึงโพลของสสส. เกี่ยวกับด้านสุขภาพระบุว่า ความชอบในตัวพ.ต.ท.ทักษิณ จาก50-60% ลดเหลือ35% เท่านั้น แล้วโพลที่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯกำลังเพิ่มขึ้น ฉะนั้นวิธีการของเราก็คือต้องลดความนิยมในตัวพ.ต.ท.ทักษิณลง เพิ่มความถูกต้องโดยผ่านกระบวนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯให้มากขึ้น จึงจะเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้

ทั้งนี้ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า เหตผุลที่ต้องเคลื่อนไหวใหญ่ ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ มีหลักการที่จะต้องรับรู้ร่วมกันว่าสาเหตุและเป้าหมายคืออะไร ซึ่งเป้าหมายเราชัดเจนว่าต้องการป้องกันสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน เราควรดูว่าโครงสร้างของอำนาจและสังคมไทยอะไรที่จะป้องกันชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน รวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างของสังคมได้ ซึ่งก็คือ การเมืองต้องดี ตุลาการต้องดี นิติบัญญัติต้องดี บริหารต้องดี กองทัพ ศาสนา คณะสงฆ์ ผู้เผยแพร่ศาสนาใดๆต้องดี และภาคธุรกิจไม่เอาเปรียบประชาชน ไม่ร่วมมือกับนักการเมือง ทุนก็ต้องดี ฯลฯ รวมทั้ง รัฐธรรมนูญและประชาชนต้องดีด้วย

นายพิภพ กล่าวว่า เหตุที่เราฟังพระราชดำรัสแล้วรู้สึกว่าเราจะต้องขยับตัวให้เห็นว่าเราพร้อมจะสนองพระราชดำรัส ซึ่งต้องมีสาเหตุ เพราะช่วงหลังจะเห็นว่ากระบวนการของทักษิณ หรือทักษิโณมิค เริ่มเข้าไปยึดสถาบันการเงินแล้ว ตั้งแต่กระทรวงการคลัง ขอเรียกคืนเงิน7.6หมื่นล้านบาทที่ถูกอายัดไว้ เพื่อเอาไหให้กับลูกพ.ต.ท.ทักษิณ แล้วก็จะเอาเงินนั้นไปทำงานการเมืองเลวๆ เพื่อยึดประเทศไทยกลับคืนไปสู่ตระกูลชินวัตรอีกครั้งหนึ่ง หรือตระกูลอื่นๆที่รอบตัวทักษิณด้วย รวมทั้งนักการเมือง ไม่ว่า กลุ่มเนวิน กลุ่มสุดารัตน์ ฯลฯ เพื่อมาทำการเมืองเลวๆอีก

นายพิภพ ยังได้กล่าวย้ำถึง กระบวนการที่พยายามจะยึดสถาบันการเงินต่างๆและรัฐวิสาหกิจ โดยระบุว่า ได้มีการจัดตั้งบอร์ดด้วยคนของตัวเอง ยึดธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) โดยส่งคนเข้าไปเป็นบอร์ดสถาบันการเงินต่างๆ รวมทั้งไม่ยอมเอาปตทออกจากตลาดหลักทรัพย์เพื่อหากินจากกำไรต่อไป และใช้นโยบายเข้าไปควบคุมแหล่งทรัพยากรของเพื่อนบ้านเพื่อหาเงินมาใช้เล่นการเมืองต่อไป

“นี่ล่ะคือเหตุที่เราจะต้องรู้เท่าทันกลุ่มทุนทักษิณ ที่พยายามจะหาทุนเพื่อมายึดประเทศไทยและเป็นรัฐบาลใหม่ต่อไปอีก ฉะนั้นวันที่ 26 นี้เราจะต้องส่งสัญญาณให้ชัดเจนว่า รัฐบาลและกลุ่มทุนทักษิณอยู่ต่อไปไม่ได้อีก เป็นรัฐบาลครั้งนี้เขายึดตำรวจ อัยการบางส่วน และรัฐสภาไปได้ และพยายามยึดองค์กรอิสระ ทำลายความชอบธรรมของตุลาการ ทั้งหมดนี้เป็นแพคเกจใหญ่ที่จะมาบริหารจัดการประเทศไทยอีก” นายพิภพ กล่าว และว่า ฉะนั้นวันที่ 26 มีความหมายมากต้องมากันให้มากๆเรือนล้านให้ได้ เราจึงจะขับไล่รัฐบาลสมัครออกไปได้
กำลังโหลดความคิดเห็น