“สมเกียรติ” จับตา “เดือนแห่งการสังหาร” ก.ย.นี้ ลุ้นศาลอ่านคำพิพากษาสั่งจำคุกลับหลัง “แม้ว” ชี้ชัดส่งผลกระทบต่อสโมสรฟุตบอลที่อังกฤษแน่นอน เหตุเพราะ “ทักษิณ” กลายเป็น “อาชญากรแผ่นดิน” ทันที มั่นใจ “อดีตผู้นำ” จะต้องถูกนำตัวกลับมารับกรรมในประเทศไทย แฉซ้ำสภาสุดระส่ำ เหตุ “พรรคพลังประชาชน” ส่อถูกยุบแน่นอน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
วันนี้ (19 ส.ค.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวถึงกรณีที่การปราศรัยที่ จ.สระบุรี ว่า มีประชาชนที่มาร่วมฟังตนปราศรัยกว่า 30,000 คน โดยวันนี้สำนักข่าวต่างประเทศได้เผยแพร่หมายจับที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่แสนเศร้าสำหรับคนถูกออกหมายจับ ส่วนจุดจบของเขานั้น หลายคนวิเคราะห์ว่า ทางการอังกฤษจะส่งตัวคนโกงชาติกลับประเทศไทย แต่ปรากฏว่ามีบุคคล 2 คนซึ่งหลบหนีไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ แล้วยังไม่เคยถูกส่งตัวกลับมาเลย แต่เราก็หวังว่ารายนี้อาจจะเป็นรายแรก หากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาจำคุก อ่านคดีลับหลังในเดือน ก.ย.นี้
“สรุปคือ คุกเอาไว้ขังคนจนโดยแท้จริง โดยเฉพาะผม และนายสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งไม่ได้หนีไปไหน ที่สำคัญเมื่อคิดได้ว่าจะติดคุกทำให้หายป่วยแล้วรีบเดินทางกลับมาปราศรัยที่กรุงเทพฯ ต่อ เพราะผมยอมติดคุก เนื่องจากสำรวจแล้วว่ามีคนติดคุกอยู่กว่า 1.2 แสนคน โดยจะไปตั้งพันธมิตรฯ ที่ใหญ่ที่สุด แล้วเอานักโทษมาเคลื่อนไหว คาดว่าจะมีหลายสาขา ที่สำคัญ 20 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ติดคุกนั้นไม่มีความผิด ซึ่งถือเป็นโศกนาฏกรรมของกระบวนการยุติธรรมไทย ซึ่งชัดเจนที่สุดก็คือ คดีเชอร์รี่ แอน ดันแคน เพราะคนรวยๆ หนีหมด” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ยกตัวอย่างคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ พิพากษาจำคุกนายรักเกียรติ สุขธนะ อดีต รมว.สาธารณสุข ซึ่งโกงยาไป 1,400 ล้านบาท ซึ่งศาลสั่งจำคุก 15 ปี และริบทรัพย์สิน 234 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2546 จากนั้น 6 ปีให้หลัง ศาลสั่งจำคุกนายวัฒนา อัศวเหม 10 ปี แต่ทั้ง 2 คนหนีคุกหมด ส่วนคนที่ 3 คือ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ และ กกต. ซึ่งศาลอาญาสั่งจำคุก พอถึงวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา กลับมีคนหนีคดี สรุปคือ ขณะนี้ไม่มีคนรวยอยู่ในคุกเลย
“ที่สำคัญในเดือน ก.ย.นี้จะมีคดีใหญ่ เพราะศาลฎีกาเรียก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร มาปรากฏตัว ส่งผลให้คณะกฎหมายส่งหนังสือลับไปบอกว่าให้คนทั้ง 2 หนีไปเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ทำให้สังคมยุ่งเหยิง แต่ประเทศอังกฤษกำลังรอว่า ถ้าศาลฎีกามีคำพิพากษาในเดือน ก.ย.นี้ คำพิพากษานั้น ก็จะกลายเป็นหมายจับฉบับที่ 2 สรุปคือ คดีที่ดินรัชดา ซึ่งคาดว่าศาลจะอ่านคำพิพากษาลับหลัง เพราะจำเลยหลบหนี และจะกระทบกับทีมฟุตบอลทันที ซึ่งถึงตอนนั้น เราก็จะได้ตัวผู้ร้ายข้ามแดน เพราะถือว่าเป็นอาชญากรแผ่นดิน ฉะนั้นเดือน ก.ย.นี้ จึงถือว่าเป็นเดือนสังหารโดยแท้จริง” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว
แกนนำพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึงกรณีการเจรจาเรื่องเขาพระวิหารว่า วานนี้มีบุคคลสำคัญไปทำข้าวหน้าไก่ให้ทหารไทยกินที่เขาพระวิหาร ซึ่งคาดว่าการเจรจาจะไม่สำเร็จ เพราะเชื่อว่าจะไม่สามารถล้อมรั้วตัวปราสาท และพื้นที่ซึ่งไทยถอยร่นลงมาก็ไม่สามารถเจรจาได้ เนื่องจากเขาไปเจรจาเรื่องการแบ่งข้าวหน้าไก่กันว่า ใครจะเอาไก่ เอาตับ เอาตีน หรือหัวไก่ ก็แบ่งกันไป ทำให้คิดถึง พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส.ที่กำลังจะเกษียณอายุในอีกเดือนกว่าๆ ซึ่งออกมาพูดอย่างแข็งขันว่า 1.ร่างแถลงการณ์จะต้องถูกยกเลิก 2.ทหารเขมรที่บุกเข้ามาจะต้องถูกผลักดันออกไป และ 3.จะต้องมีการกำหนดเขตอย่างแน่นอน ซึ่งทำไม่ได้เลยสักข้อ ตนจึงกล่อมไปว่า หลับเถิดลูก เดี๋ยวจะเกาหลังให้
“ผู้นำที่เก่งที่สุดในโลกคนหนึ่ง คือ มูชาราฟ ของปากีสถาน ขณะนี้ลาออกเพราะถูกประชาชนผลักดัน เพราะไปเล่นงานศาล แต่อดีตผู้นำของเราไม่ได้เล่นงานศาล แต่ไปกระแนะกระแหนศาลว่าศาลท่านคุ้มครอง ฉะนั้น จุดจบของ พ.ต.ท.ทักษิณ คือ รอคำพิพากษาในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งจะกระทบต่อความเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล ก็จะส่งผลให้พวกสโมสรฟุตบอลเดินเครื่องปลดเขาออก”นายสมเกียรติ ระบุ
แกนนำพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ว่า รัฐสภาในขณะนี้กำลังระส่ำระสาย เพราะในวันที่ 3-4 ก.ย.นี้ กฎหมายงบประมาณกว่า 1.8 ล้านล้านบาท กำลังจะผ่านสภา โดยจะมีโครงการใหญ่มากมายเช่น โครงการผันน้ำ โครงการรถไฟฟ้า โครงการเกี่ยวกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ซึ่งมีงบฯ ผูกพันประมาณ 14 แสนล้านบาท เฉพาะแม่น้ำโขง 7 แสนล้านบาท และผันน้ำโขงเข้ามา ประชาชนจะเปลี่ยนอาชีพไปเป็นชาวประมง เพราะถูกน้ำ ท่วมทั้งหมด ส่วนที่ระบุว่าสภากำลังระส่ำระสายนั้น เนื่องจากพรรคใหญ่กำลังจะแตก แต่พรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่าบริสุทธิ์ ซึ่งไอ้พวก 3 เกลอ ไม่กล้าเอาวีซีดีมาฉาย ที่สำคัญถ้ามีความผิดจริง ทางพรรคประชาธิปัตย์ก็จะไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพร้อมที่จะยอมรับทุกอย่าง
“วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเงียบๆ อีกฉบับหนึ่งคือ ส.ส.ที่ไปเป็นคนคุมคะแนนเสียงในสภาที่นายกฯ แต่งตั้งขึ้นมานั้น ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจถูกเถิกถอนมากกว่า 50 คน ซึ่งระส่ำระสายไปหมด รวมทั้ง กกต.เตรียมส่งสำนวนยุบพรรคไปให้ศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ ฉะนั้นคนที่หนักแน่นก็คือ คนที่มาร่วมชุมนุม จิตใจไม่วอกแวก เพราะหัวใจมีมโนธรรม คือทำเพื่อส่วนรวมมาอย่างยาวนานถึง 87 วัน โดยในวันที่ 99 ต้องฉลอง เพราะ 100 วันเขาใช้กับงานอย่างอื่น” นายสมเกียรติ ระบุ
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า กองทัพไทยเปรียบเป็นราชสีห์ แต่มีผู้บัญชาการเป็นหมูบ้า แต่กองทัพของพันธมิตรฯ เป็นหมูที่มีอุดมการณ์สูง และมีผู้บัญชาการเป็นราชสีห์ เรากำลังจะบอกว่าเอาคนที่เป็นหมูบ้ามาเป็นรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งมีทั้งเรือรบ มีราชนาวี และมีรถถังครบสูตร แต่ก็ไม่เห็นทำอะไร แต่กองทัพพันธมิตรฯ ทำให้ทหารหลายคนที่คิดจะยึดอำนาจ ออกมาเปิดโปง 3 รายชื่อ ทำให้พวกเขาไม่กล้า โดยทหารที่จะปฏิวัติ จะมีการนำเอากระดาษไปติดที่รถถัง เช่น คันที่ 1 ยึดกรมประชาสัมพันธ์ แล้วจะออกประกาศคณะปฏิวัติ เหมือนกรณี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่เขียนประกาศไม่ทัน ซึ่งมีครั้งแรกในประเทศไทย
“ตอนนี้ทหารก็เตรียมปฏิวัติอีกเช่นกัน โดยผู้บัญชาการสั่งเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้ว แต่เราเตรียมสู้เต็มที่โดยใช้แผงกั้น และรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งทำให้เขากลัว ที่สำคัญเขาจะเอาทหารพรานออกไปสู้ก่อน ฉะนั้นจึงต้องขอบคุณ ฯพณฯ จิ้งจอกหอกหักเป็นอย่างมาก เพราะทำให้คนที่สามารถเป็นนายกฯ ได้ มีอยู่ประมาณล้านกว่าคน คือ 1.สามารถเดินจ่ายตลาดได้ 2.สามารถเจียวไข่วิธีพิษดารได้ 3.สามารถทำข้าวมันไก่ได้ และ 4.ชอบทำรายการชิมไปบ่นไปได้ แค่นี้ก็มีคุณสมบัติเป็นนายกฯ ได้แล้ว” นายสมเกียรติ ระบุ
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 4 ก.ย.นี้ ส.ส.จะลงมติให้งบประมาณผ่าน และพอผ่านปั๊บ วุฒิสภาก็จะหยิบขึ้นมาพิจารณา จากนั้น ส.ส.ก็จะมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะจะเกิดภาวะจนตรอง เนื่องจากในเดือน ก.ย.นี้ จะเป็นเดือนแห่งการสังหาร ดังนั้นทุกอย่างน่าจะเสร็จสิ้นไม่เกินวันที่ 30 ก.ย.นี้แน่นอน จึงขอใคร่ครวญให้พี่น้องประชาชนอดทน เพราะเหลืออีกเพียงไม่กี่วัน ที่สำคัญเราต้องอาศัยเจตจำนงพิเศษ เนื่องจากคนที่มาชุมนุมเหนื่อยล้า แต่ทหารที่ทำเนียบหน้าตาเหลือแต่กระดูก แต่มีบางคนเป็นมากกว่า เพราะผิวหนังเหมือนตัวเงินตัวทองเข้าไปทุกวันแล้ว และนี่คงเป็นสงครามครั้งสุดท้าย
“ผมต้องขอโทษแทนพวกน้องๆ ด้วยที่อาจมีเหตุเข้าใจผิด ทำให้คนที่ค้ำจุนพลังทางศีลธรรมจำนวนมากไม่ยอมมาชุมนุมเหมือนเดิม แล้วผมจะโทรไปหา และขอเรียกร้องเพื่อนพ้องน้องพี่ที่เคยร่วมรบกันมาตั้งปี 2548 แต่ผมเข้าใจว่าคนไทยโกรธกันไม่นาน เพราะเรามีจิตใจอันประเสริฐ ซึ่งต้องขอขอบพระคุณอย่างสูง” นายสมเกียรติ ระบุ