“พิภพ” แฉแผนเขมือบงบสภาใหม่-เตือนดันทุรังสร้างผิด รธน.

“พิภพ” ชี้รัฐบาลเร่งสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ เป็นช่องทางหาประโยชน์ จับตา “สมัคร-เนวิน” จ้องเขมือบค่าหัวคิว ระบุหากยังดันทุรังต่อ ถือเป็นการกระทำผิดกฏหมายรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดชัดว่าต้องทำประชาพิจารณ์ พร้อมรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน แนะใช้สิทธิร้องศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญต่อสู้อำนาจเผด็จการ

วันที่ 17 ส.ค. เวลประมาณ 20.40 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า ตลอดเวลาที่เราต่อสู้มา 80 กว่าวัน มีเรื่องมาให้เราต่อสู้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีจดหมายจากนักเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะมาถึงพลตรีจำลอง ศรีเมือง ร้องเรียนเข้ามาถึงกรณีการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ในพื้นที่ของโรงเรียน แสดงให้เห็นว่าเวทีของเรา กลายเป็นเวทีที่รับปัญหาที่ถูกรัฐบาลและผู้มีอำนาจรังแก

โดยเรื่องนี้มีประเด็นที่มีข้อพิจารณาหลายแง่มุม ซึ่งแกนนำพันธมิตรเองมีความเห็นร่วมกันว่า การก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ยังไม่จำเป็นต้องสร้าง เพราะรัฐสภาที่ใช้อยู่ในปัจจุบันยังใช้ได้โดยไม่มีปัญหา นอกจากนั้น ประเด็นที่น่าสนใจ คือ การก่อสร้างจำเป็นต้องใช้เงิน ซึ่งเงินงบประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาทที่จะเอามาก่อสร้าง รัฐบาลอ้างว่าไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ซึ่งข้อสังเกตอยู่ที่ว่าทำไมรัฐบาลถึงพยายามก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่มูลค่าหลายหมื่นล้านหลายแสนล้านบาทขึ้นไป

นายพิภพ กล่าวว่า วิธีหาเงินของนักการเมืองมีอยู่ 2-3 วิธี โดยในสมัยพรรคไทยรักไทยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ก็ใช้ช่องทางผ่านกิจการของตัวเอง โดยเฉพาะกิจการโทรคมนาคม ด้วยการเปลี่ยนแปลงกฏหมายบางตัว เพื่อให้เอื้อต่อธุรกิจของตนเอง เช่น การเปลี่ยนกฏหมายสรรพสามิต กฏหมายภาษี อีกวิธีหนึ่งคือ การเอาเงินไปให้ประเทศเพื่อนบ้านกู้แล้วเข้าไปหาผลประโยชน์ นอกจากนั้น ในกรณีของนักการเมืองที่ไม่มีบริษัทใหญ่โต ก็ให้รับงานไปประมูลแล้วกินเปอร์เซ็นต์จากโครการใหญ่ๆ เป็นต้น ซึ่งนายสมัคร สุนทรเวช เองก็ไม่ได้มีกิจการใหญ่โตอะไร นายเนวิน ชิดชอบเองก็ไม่ได้มีธุรกิจใหญ่โตเช่นกัน ดังนั้น จึงเห็นรัฐบาลนี้เร่งให้มีการเริ่มโครงการใหญ่ๆ เพราะสิ่งที่เขาจะได้คือเปอร์เซนต์ในการลงนามสัญญาก่อสร้าง

“จะเห็นว่าโครงการเมกะโปรเจกต์หลายอย่างถูกเร่งให้เกิดขึ้น บางโครงการไม่มีประโยชน์ในช่วงนี้ก็ยังจะทำ เช่นโครงการผันน้ำจากเขื่อนน้ำงึม เขามาในประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น เพราะเราสามารถกักเก็บน้ำเอาไว้ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินหลายแสนล้านเลย การที่นักการเมืองโกงทำให้เราเสียงบประมาณ แต่ถ้าไม่โกงงบประมาณก็จะถูกลดทอนลงไปบ้าง ซึ่งหากเราได้ข้าราชการที่ดี บอร์ดรัฐวิสาหกิจที่ดี ประเทศเราก็จะประหยัดงบประมาณได้มหาศาลมหาศาล อย่างเช่นคำพูดของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่กล่าวเอาไว้ว่า ประเทศไทยถ้าไม่มีการคอร์รัปชันจะสามารถปูถนนด้วยทองคำ” นายพิภพกล่าว

นายพิภพ กล่าวว่า การสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ด้วยงบประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีการระบุเอาไว้ว่าต้องใช้เงินค่าออกแบบ 1,000 ล้านบาท และเวนคืนที่ดินอีก 4,500 ล้านบาท ซึ่งการก่อสร้างนี้มีการเซ็นเอ็มโอยูไปแล้ว โดยไม่ฟังเสียงชุมนเลย ซึ่งถือว่ากระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ระบุเอาไว้ว่า การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ต้องทำประชาพิจารณ์ แต่การกระทำของรัฐบาลนี้ กลับไม่ฟังเสียงเด็กนักเรียน คนในชุมชุน ไม่ให้สิทธิในการออกความเห็น และไม่คำนึถึงความเดือดร้อน นอกจากนั้น ยังมีการบีบเมียทหารให้ห้ามลูกว่าอย่าต่อต้าน เพราะไม่งั้นจะบีบไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญยังระบุด้วยว่า การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ต้องทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อชุมชนด้วย ซึ่งประเด็นนี้ ไม่ใช่ว่าจะอ้างว่าสถานที่สร้างโรงเรียนที่ใหม่แล้วดีกว่าเดิม เพราะไม่ได้อยู่ที่วัตถุแล้วต้องไป แต่ต้องเข้าใจความรู้สึกของเด็กด้วย อย่างไรก็ตาม เด็กนักเรียนไม่ต้องกลัว ถ้ารัฐบาลยังดันทุรังกระทำผิดและขัดรัฐธรรมนูญ เรามีสิทธิฟ้องศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญได้

“เรื่องนี้กระทบกับคนหลายกลุ่มในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียน ชุมชน ทหาร คนเถ่าแก่ที่อยู่มานาน ซึ่งเรื่องนี้ รัฐบาลไม่สามารถทำอะไรตามใจตัวเองได้ อย่าคิดว่าเอาเงิน 4,500 ล้านบาทในการเวนคืนแล้วจะจบ เพราะมันไม่คุ้มกับสุขภาพจิต และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของคนในชุมชน อย่างไรก็ตาม ให้พี่น้องกลับไปบอกเด็กๆ ว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะมีรัฐธรรมนูญปกป้องอยู่ ซึ่งพันธมิตรฯ เอง พร้อมที่จะสนับสนุนด้วย” นายพิภพกล่าว