“สุเทพ” มั่นใจ ปชป.ไม่ถูกยุบ เพราะเป็นคนละกรณีกับ “ยงยุทธ” แต่พร้อมสู้คดีในชั้นศาลหาก กกต.เสนอความเห็น เชื่อ “หมัก” ไม่ยุบสภาหนีคดียุบพรรค ชี้ “ทักษิณ” ไม่ยอมวางมือการเมืองง่ายๆ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (15 ส.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าววว่า อนุคณะกรรมการสอบสวนของคณะกรรมการการเลือก (กกต.) มีมติยุบพรรคพลังประชาชน และคิวต่อไปจะยุบพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เรื่องนี้ข้อเท็จจริงไม่เป็นอย่างที่คนปั่นข่าวกันอยู่ ซึ่งข้อเท็จจริงที่ตนให้ฝ่ายกฎหมายไปดู คือ มีผู้สมัครของพรรคคนหนึ่งเป็นลูกชายเจ้าของโรงหนังและมีการโปรโมตกิจการของโรงหนังมาก่อนนานแล้ว ซึ่งผู้สมัครคนนี้เดิมที่อยู่พรรคชาติไทยมาก่อน จนกระทั่งย้ายมาอยู่พรรคประชาธิปัตย์ และเมื่อมีกฤษฎีกาการเลือกตั้งผู้สมัครคนนี้ก็ไม่ได้ทำกิจกรรมนี้อีก นี่คือข้อเท็จจริง
สมมติว่า กกต.เห็นว่า การแจกตั๋วหนังก่อนมีการเลือกตั้งเป็นความผิด ก็เป็นความผิดของผู้สมัครคนนั้น ซึ่งก็ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ส่วนที่มีข้อกล่าวหาว่าเป็นความผิดของ นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าในภาคอีสาน และกรรมการบริหารพรรค ไม่ได้ร่วมในการกระทำความผิดเรื่อองแจกตั๋วหนัง ดังนั้น จึงมองไม่เห็นว่าจะไปยุบพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูจากข้อกฎหมายและหลักฐาน มั่นใจว่า ไม่ยุบพรรคหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ถูกยุบด้วยเรื่องนี้ เพราะได้มอบหมาบให้นายถาวร เสนเนียม หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายไปรวบรวมหลักฐาน จึงคิดว่าอนุกรรมการฯ มีความเห็นอย่างไร หรือเรียกไปชี้แจง เราก็จะเอาพยานหลักฐานรวมทั้งตัวบุคคลไปชี้แจง ถ้ากกต.ใหญ่พิจารณาก็พร้อมชี้แจง หรือเรื่องไปถึงศาลเราก็พร้อมจะสู้คดี
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์หรือไม่ว่าถ้าหากอนุกรรมการสอบสวน ระบุว่า ยุบพรรคพลังประชาชน และ กกต.ใหญ่อาจยื่นตามนั้น จะส่งผลต่อสถานการณ์การเมืองถึงขั้นยุบสภาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้วิเคราะห์อะไร หาก กกต.เห็นว่า สมควรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคพลังประชาชน ซึ่งสืบเนื่องมาจากกรณีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ซึ่งเป็นรองหัวหน้าพรรคที่กระทำความผิด และกรณีของนายยงยุทธก็แตกต่างกับกรณีของนายวิฑูรย์ และถ้าพรรคพลังประชาชนถูกยุบ กรรมการบริหารพรรคก็อาจถูกพิพากษาให้เว้นวรรคทางการเมือง ไม่ยุ่งทางการเมือง 5 ปี ส่วนสมาชิกคนอื่นก็สามารถไปอยู่พรรคอื่นได้ และจำนวนส.ส.พรรคพลังประชาชนก็ยังมีมากพอที่จะไปร่วมพรรคอื่นเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้
“ผมจึงไม่เห็นว่าการเมืองจะวุ่นวายอะไรเป็น ก็เป็นเรื่องปกติเท่านั้นเอง และคิดว่าถ้ากรณีที่กกต. มีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีก็ไม่สามารถยุบสภาได้เพราะจะเหมือนกับว่ายุบสภาหนีปัญหา หนีความผิดและจะเป็นประเด็นทางการเมืองต่อไป ซึ่งผมไม่คิดว่าการยุบสภาจะเป็นทางออก อย่างไรก็ตาม ผมไม่คิดว่าพรรคการเมืองทั้งหมดถูกยุบเพราะต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง และอย่าไปคิดว่าการเมืองถึงทางตัน ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ถ้าพรรคที่ถูกยุบ สมาชิกพรรคก็ไปหาพรรคใหม่” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่า คิดว่า เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอยู่ต่างประเทศจะมีผลต่อพรรคที่เกิดใหม่ และพรรคพลังประชาชนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเรื่องที่ต้องแยกพิจารณา ถึงแม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปอยู่ต่างประเทศแล้วก็จริง แต่คงไม่หยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะจดหมายที่ส่งมาบอกชัดเจนว่าจะสู้ทางการเมืองต่อไป ดังนั้น บ้านเมืองก็จะวุ่นวาย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อไป ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ จะให้เงินให้ทองมาสนับสนุนพรคการเมืองพรรคการเมืองหนึ่ง หรือหลายพรรคการเมืองที่จะต้องแตกตัวไปตั้งพรรคในวันข้างหน้า หลังจากที่พรรคพลังประชาชนถูกยุบไปแล้วก็ยังจะยังส่งผลกับการเมืองอยู่
“ต้องยอมรับความจริงว่า พรรคไทยรักไทยหรือพรรคพลังประชาชน อยู่ด้วยการสนับสนุนของคุณทักษิณและครอบครัวคุณทักษิณ ด้วยเงิน ด้วยทองของพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะฉะนั้นจะเปลี่ยนชื่อไปเป็นอย่างอื่น หรือจะแตกตัวไปเป็น 2-3 พรรคก็ยังเป็นคุณทักษิณอยู่ดี” นายสุเทพ กล่าว
ส่วนการเตรียมการของพรรคประชาธิปัตย์หากถูกยุบพรรค นายสุเทพ กล่าวว่า เตรียมการเอาไว้ เผื่อว่า มีการยุบสภา หรือมีการเลือกตั้งใหม่ พรรคก็ต้องมีความพร้อม เพราะฉะนั้นตนก็ต้องเตรียมการเอาไว้ให้พร้อม แต่ไม่ได้คิดว่าจะมีการยุบสภาในเร็วๆนี้ เพราะถ้าดูตามที่นายกฯ ประเทศไว้ว่าจะจัดงานวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน ฉะนั้น ถ้าจะมีเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้นก็ควรจะเกิดขึ้นหลังงานเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว