“อภิสิทธิ์” เรียกร้องรัฐบาลจริงจังต่อสู้เพื่อดึงตัว “แม้ว” กลับมาขึ้นศาล ชี้ อย่าปากว่าตาขยิบ รอลุ้นหามาตรการปกป้องสถาบันตุลาการ เชื่อแม้วไม่วางทางการเมือง พิสูจน์ชัดคำแถลงการณ์ส่อเจตนา
วันนี้ (14 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ระบุว่า ให้จับตาดูให้ดีในวันที่ 15 ส.ค.นี้ อาจจะมีพรรคการเมืองอีกพรรคจะได้รับใบแดง ว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องหลายคน ยังเชื่อว่า มีประเด็นที่จะต่อสู้กันไปได้ การไปด่วนสรุปว่าทุกพรรคที่มีคำร้องจะต้องถูกยุบหรือพรรคอื่นๆ ต้องถูกยุบตามมาก็ยังไกลเกินไป อย่างไรก็ตาม เรายังยืนยันว่า ถ้ามีการทำผิดกฎหมาย ก็ต้องรับโทษตามกฎหมาย ส่วนที่สุดแล้วจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่มีใครทราบ เพียงแต่ต้องดูการทำงานขององค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนกรณีที่การแจกจ่ายจดหมายจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ให้กับประชาชนใน อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ที่มีเนื้อหาระบุว่า ถ้ามีการยุบพรรคพลังประชาชน ได้เตรียมพรรคใหม่ และหัวหน้าพรรคคนใหม่ที่พร้อมจะสานต่อนโยบายของพรรคพลังประชาชนไว้แล้ว ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ทุกคนที่สิทธิ์ดำเนินการอะไรที่เหมาะสมในแง่ของการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เรายังไม่ทราบที่มาที่ไป และทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ จึงวิเคราะห์ชัดเจนว่า กระบวนการจะต้องเดินไปถึงจุดนั้น ทั้งนี้ ตนคิดว่า สัญญาณต่างๆ ก็ชัดมาโดยตลอด ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ได้วางมือทางการเมือง และแถลงการณ์ล่าสุดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีการระบุว่า ให้รอคอยการกลับมา แต่เราอาจต้องอ่านเจตนาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ออกเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดอะไรว่าจริงหรือไม่จริง อย่างไร
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่าจากนี้ไปปัญหาทางการเมืองจะคลี่คลาย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นการวิเคราะห์ของบางฝ่ายเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วอยู่ที่การปฏิบัติของคนที่อยู่ในที่นี่มากกว่า ซึ่งถ้าคนที่นี่มีหน้าที่อะไรแล้วทำไปอย่างตรงไปตรงมา และยึดประโยชน์ของบ้านเมือง ทุกอย่างก็เรียบร้อย ส่วนกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทางการไทยจะต้องเข้มแข็งในการรักษาประโยชน์ของประเทศ ถ้าต้องการให้คนไทยมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของไทย ก็จะต้องต่อสู้ แต่ยอมรับว่าคงไม่ง่าย เพราะมีหลายตัวอย่างให้เห็นแล้วว่าจะต้องใช้ความตั้งใจสูงและความเชี่ยวชาญพอสมควร ซึ่งแม้เป็นงานหนักสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่จะต้องทำ
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะอ้างในการขอลี้ภัยทางการเมือง ว่า คณะรัฐประหารเป็นผู้ตั้ง คตส.และ ป.ป.ช.ที่เป็นต้นทางในการส่งไปศาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ศาลจะต้องฟังพยานหลักฐานจากทุกฝ่าย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ต่อสู้ในกระบวนการศาลไปแล้ว และมีในส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยื่นฟ้องคดีต่างๆ เข้าสู่ศาล ดังนั้น ไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีเหตุผลใด ก็ไม่ควรทำให้กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยเสียหาย และอย่างน้อยที่สุด รัฐบาลไทยก็มีหน้าที่ยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยได้มาตรฐาน และเป็นสิ่งที่ทุกประเทศไว้วางใจได้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ยินเรื่องนี้เลยจากบุคคลสำคัญในรัฐบาล อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องต่อสู้ไปตามขั้นตอนของกฎหมาย