หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เตือนสร้างกระแสปฏิวัติตัวเองเพื่อล้มกระดาน-รวบรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญหวังช่วยคนบางคนจะต้องถูกประชาชนออกมาต่อต้านขนานใหญ่แน่ รวมทั้งจะนำไปสู่เงื่อนไขความขัดแย้ง
วันนี้ (2 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังปาฐกถาพิเศษ “ทิศทางการเมืองไทย” ให้กับสมาคมส่งเสริมการลงทุนไทย ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงกระแสข่าวเรื่องรัฐบาลจะทำรัฐประหารตัวเอง เพื่อล้มกระดานทางการเมืองว่า การปฏิวัติในปัจจุบันเป็นเรื่องยาก ประชาชนไม่ยอมรับ แต่สถานการณ์การเมืองในขณะนี้ รัฐบาลไม่ควรนำมาเป็นเงื่อนไข จนนำไปสู่เหตุการณ์บานปลายให้เกิดการปฏิวัติ เพราะเชื่อว่าบ้านเมืองยังไม่ถึงทางตัน ถ้าทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน จะมีทางออกที่ดีได้
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังวันที่ 18 สิงหาคมว่า ตนยืนยันมาโดยตลอดว่าหากการแก้ไขอยู่ในกรอบความคิดและผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาบังคับใช้รัฐธรรมนูญ 2550 สภาผู้แทนราษฎร ที่ทุกฝ่ายเข้าไปมีส่วนร่วม จะไม่ทำให้การแก้ไขเกิดปัญหา ถือเป็นวาระสำคัญ แต่ถ้าเป็นการแก้ไขที่ประชาชนจำนวนมากมองว่าเป็นวาระส่วนตัว หรือช่วยพวกพ้อง การแก้ไขไม่ว่าจะเป็นวันนี้หรือวันที่ 18 สิงหาคม ก็จะเป็นปัญหา เพราะต้องการที่จะลบล้างความผิดให้บางคน และเชื่อว่าน่าจะมีคนออกมาต่อต้าน
ถามว่า วิปรัฐบาลระบุว่าการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจจะต้องยื่นหลายครั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ คำถามจะเกิดขึ้นว่ามีเหตุผลอะไรที่จะทำเช่นนั้น เพราะรัฐธรรมนูญในหลายมาตรามีความเชื่อมโยงกัน และหากไปแก้แบบเป็นขยัก ๆ โดยไม่มีความสอดคล้องกัน ก็จะเป็นปัญหา เพราะนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักรัฐมนตรี ที่ดูแลเรื่องกฎหมาย พูดแต่ละวัน ก็ไม่ตรงกันว่าจะทำเรื่องใดก่อนหลัง แต่ขณะนี้ตนยอมรับว่ายังไม่ได้ฟังการชี้แจงของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ อย่างเป็นทางการว่ามีมาตราใดตกผลึกแล้วบ้าง และเห็นว่ามาตราใดเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องแก้ ตนเห็นว่าถ้าดีที่สุดควรให้ประเด็นที่ตกผลึกแล้วในคณะกรรมาธิการฯ และเห็นแล้วว่าควรจะแก้ไข และมีความจำเป็นเร่งด่วนให้คณะกรรมาธิการฯ ได้ยืนยันก่อน ยังถือว่ามีเหตุผลในการจะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงอุปสรรคที่ขัดขวางการพัฒนาระบบประชาธิปไตยของไทย ว่า เกิดจากคนที่เข้ามาเปลี่ยนกติกาเพื่อลบล้างความผิดของตนเอง รวมทั้งกระบวนการยุติธรรม ทั้งอัยการ และตำรวจ ที่ยังไม่แสดงความกล้าหาญในการแก้ไขปัญหา
“ในใจผมอยากทำให้มันดี เพราะว่าในส่วนของผมเองได้พูดไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่ามีหลายมาตราที่เห็นว่าควรแก้ไข แต่ขณะนี้มันถูกแทรกแซงในเรื่องอื่นๆ เข้ามา ผมอยากให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการแก้ไขที่สมบูรณ์สำหรับอนาคต ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะมาแก้ไขเพื่อปัญหาของตัวเองของพวกเพื่อหวังผลในทางการเมือง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเตรียมสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมลี้ภัยทางการเมืองว่า เรื่องนี้คงต้องเป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้ยืนยัน ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำงานอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เมื่ออดีตนายกรัฐมนตรี และคนใกล้ชิดยืนยันว่าจะกลับมาสู้คดีก็ไม่อยากให้มองเป็นอย่างอื่นว่าจะมีการลี้ภัยไปเลย และหากมั่นใจว่าบริสุทธิ์ก็ให้สู้คดีต่อไป