นักวิชาการนิด้า ชี้ “สมัคร” ปรับ ครม. แบบเล่นพรรคเล่นพวก ไม่ได้ช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลดีขึ้น ระบุ “ไชยา” ไม่เหมาะกับเก้าอี้ รมว.พาณิชย์ วิพากษ์โยก “มิ่งขวัญ” นั่ง รมว.อุตสาหกรรม-ฉุดทีมเศรษฐกิจตกต่ำประชาชนขาดศรัทธา
วันนี้ (31 ก.ค.) ผศ.ปกรณ์ ปรียากร คณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ GSPA NIDA ได้แสดงความถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาลว่า ยังแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของอำนาจเก่าที่ยังมีบทบาทในการปรับ ครม.ในครั้งนี้ ซึ่งทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีหลายตำแหน่ง ยังเป็นการนำเอาพรรคพวก หรือกลุ่มทุนของนักการเมืองต่างๆ เข้ามานั่งในเก้าอี้สำคัญ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจะเกิดปัญหาในการทำงานที่ทำให้รัฐบาลไม่มีผลงานที่ถูกใจประชาชน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ ที่ดูแล้วภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือตกต่ำกว่าเดิม เนื่องจากการดึงนายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์แทนนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่โยกไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่ากระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ต้องยอมรับว่านายไชยาไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการบริหารงานทางด้านนี้มาก่อน และไม่มีความสามารถมากพอในการออกไปเจรจาการค้ากับต่างประเทศ
ส่วน นายมิ่งขวัญ ที่ไปนั่งเก้าอี้กระทรวงอุตสาหกรรมนั้นก็เป็นงานที่ไม่ถนัด ประกอบกับการที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ยังอยู่ในระหว่างการตีความคุณสมบัติรัฐมนตรีว่าต้องหยุดการทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ หลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งรับฟ้องในคดีหวยบนดิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในการทำงานที่ดูแลและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
“ต้องบอกว่าปรับ ครม.ครั้งนี้ทำให้ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลอ่อนแอลงกว่าเดิมและยากที่จะหวังพึ่งพิงได้ ทั้งตัวหมอเลี๊ยบ ที่ไม่รู้ว่าจะต้องออกจากตำแหน่ง รมว.คลังหรือไม่ หรือนายไชยา สะสมทรัพย์ที่เป็นเพียงพ่อค้าท้องถิ่น แต่กลับมานั่งในตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ซึ่งเป็นการปรับเพื่อพรรคพวกมากกว่า หรือกรณีนายมิ่งขวัญที่ไปนั่ง รมว.อุตสาหกรรม ก็ไม่ถนัด แทนที่จะโยกไปอยู่สำนักนายกรัฐมนตรี แต่ก็กลัวรัฐบาลเสียหน้า เพราะครั้งหนึ่งนายมิ่งขวัญ เคยเป็นหนึ่งในกุนซือทีมเศรษฐกิจ เลยต้องจับใจสับเปลี่ยนไปนั่งกระทรวงอุตสาหกรรมแทน การปรับ ครม.ครั้งนี้จึงกลายเป็นการซ้ำเติมภาพลักษณ์การทำงานของรัฐบาลชุดนี้ให้แย่ลงไปกว่าเดิม” ผศ.ปกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย
