รอง หน.พรรคเพื่อแผ่นดิน “นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ” แจงเรื่อง “สุวิทย์” ถอนตัวไม่ใช่มติพรรค วอนทุกกลุ่มในพรรคอย่าเพิ่งแถลงข่าวให้รอประชุมร่วมกันก่อน-แย้ม ส่วนตัวแล้วไม่พอใจผลงานรัฐบาลทุนเดิม หากที่ประชุมพรรคมีเหตุผลไม่เพียงพอ ก็อาจฝืนมติ ออกจากพรรคร่วมตามรอย “สุวิทย์”
วานนี้ (29 ก.ค.) นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส และรองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ในรายการ คมชัดลึก ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นแชนนัล ถึงกรณี นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน แถลงข่าวที่ถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่มติพรรค ซึ่งพรรคไม่ได้มีการประชุมหรือพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าวมาก่อน ดังนั้น ในตอนนี้ตนจึงคิดว่าทุกกลุ่มในพรรค ควรประชุมพูดคุยเพื่อหาข้อสรุปให้เร็วที่สุด เพื่อหาข้อสรุปที่เป็นเอกภาพของพรรค และตนไม่เห็นด้วยที่จะมีการประชุมนอกรอบของกลุ่มต่างๆ แล้วไปแถลงข่าวกันโดยไม่ได้มีการปรึกษาหารือกันก่อน
ผู้ดำเนินรายการถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าการตัดสินใจแถลงข่าวครั้งนี้ เป็นเพราะ นายสุวิทย์หลุดโผ ครม. นพ.แวมาฮะดี กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวคร่าวๆ มาตั้งแต่เที่ยงแล้ว ว่า นายสุวิทย์ ไม่ได้มีรายชื่ออยู่ในโผ ครม.ที่จะมีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ แต่ตนก็ไม่คิดว่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้เพียงอย่างเดียว เพราะเมื่อหลังจากนายสุวิทย์ แถลงข่าวถอนตัวแล้ว ก็ได้มีการโทรศัพท์มาหาตน แล้วบอกถึงสาเหตุการตัดสินใจว่า ไม่สบายใจที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลต่อไป จึงได้ตัดสินใจเช่นนี้
ทั้งนี้ เรื่องของความไม่สบายใจในการทำงานร่วมกับรัฐบาลของ นายสุวิทย์ นั้น ตนก็รับทราบมานานแล้ว ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ตนก็คิดเช่นเดียวกับ นายสุวิทย์ และจับตามองการทำงานของรัฐบาลมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนเข้าร่วมรัฐบาลตนก็ไม่เห็นด้วยเพราะนโยบายของรัฐบาลไม่ได้มีความชัดเจนในเรื่องของการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาภาคใต้ แต่ที่ตนยอมเข้าร่วมรัฐบาลมาแต่แรกก็เพราะเห็นแก่มติส่วนใหญ่ของพรรคเท่านั้น
ต่อคำถามว่า แล้วตัว นพ.แวมาฮะดีเอง จะตัดสินใจ ออกจากการร่วมรัฐบาลไปตาม นายสุวิทย์ หรือไม่ นพ.แวมาฮะดี กล่าวว่า ตนอยากให้มีการประชุมภายในพรรคออกมาก่อน เพื่อที่จะได้ฟังเหตุผลของแต่กลุ่มแต่ละคน ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของจำนวน ส.ส.ว่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่เป็นเรื่องที่จะต้องพูดคุยกันด้วยเหตุผล ว่าพรรคควรจะตัดสินใจอย่างไรเพื่อให้เกิดผลดีต่อการบริหารประเทศให้มากที่สุด
ดังนั้น โดยสรุปแล้ว ตนอยากฟังเหตุผลของที่ประชุมพรรคเสียก่อนว่าจะมีมติ ออกมาอย่างไร ซึ่งหากเสียงส่วนใหญ่มีเหตุผลที่ดี ตนก็ยอมรับและพร้อมจะทำตาม แต่หากเสียงส่วนใหญ่ตัดสินออกมาอย่างไม่มีเหตุผล หรือเป็นเหตุผลที่ตนรับไม่ได้ ตนก็อาจจะฝืนมติพรรคแล้วก็แยกตัวออกมาจากพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน
