ปชป.รุมสับ “หมัก” ทำความดีในบั้นปลายชีวิตปรับโผ ครม. เปรียบแต่งหน้าศพเพื่อรอฌาปนกิจ พุ่งเป้าขย่มเก้าอี้ “เจ๊มิ่ง-เหลิม” แขวะเอาปากไปเข้าพรรษา 3 เดือน ยกเลิกจัดสนทนาประสามัคร
วันนี้ (27 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับ ครม.ของรัฐบาลว่า หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ นายเตช บุนนาค เป็น รมว.ต่างประเทศคนใหม่ ถือว่าเป็นบุคคลที่มีความสามารถคนหนึ่งและได้รับการยอมรับ แต่ยังมีรัฐมนตรีในตำแหน่งอื่น ที่นายกฯ ต้องใช้ความกล้าหาญในการปรับปรุงเพื่อสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมจริงๆ โดยไม่ต้องไปคำนึงถึงแรงกดดันในพรรค ซึ่งต้องจับตามองการดิ้นสุดชีวิตของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ที่ขณะนี้ไม่ได้บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน แต่ใช้เวลาบำบัดทุกข์บำรุงสุขตัวเองรักษาเก้าอี้ตัวเองเอาไว้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงอยากถามว่าที่เคยประกาศจะเป็นประธานอำนวยการปราบปรามยาเสพติด และตั้งลูกชายให้เป็นกรรมการ ไม่ทราบผลงานไปถึงไหน จับยาบ้าได้สักเม็ดหรือยัง
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะหลุดจากตำแหน่ง มท.1 ไปอยู่กระทรวงสาธารณสุขนั้น นายเทพไท กล่าวว่า ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะดูการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ แล้ว เชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะรักษาตำแหน่งไว้ได้ แต่ถ้าไปอยู่กระทรวงสาธารณสุขจริง ร.ต.อ.เฉลิมก็ไม่น่าจะมีความเหมาะสม ยกเว้นข้อเดียวที่มีคุณสมบัติ คือ ลูกชายเคยเป็นนายแบบโถส้วมทำให้ ร.ต.อ.เฉลิมมาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้
“ผมอยากให้จับตาตำแหน่งของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รมว.พาณิชย์ เพราะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ มีข่าวว่าจะไปอยู่ประจำสำนักนายกฯ ดูแลสื่อ ผมก็อยากถามว่านโยบายสี่ลดสี่เพิ่มที่ใช้หาเสียงในช่วงการเลือกตั้งไปถึงไหนแล้ว ถ้าปรับมิ่งขวัญไปอยู่ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เท่ากับลดฐานะการเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชาชนลง แสดงให้เห็นว่าการบริหารงานเศรษฐกิจของรัฐบาลเสียหาย ถ้าเป็นมิ่งขวัญจะไม่ยอมรับเพราะเป็นการดิสเครดิตครั้งสำคัญและจะลาออกจากตำแหน่ง ผมคิดว่านายกฯ น่าจะใช้ความเป็นนายกฯให้เป็นเกียรติประวัติที่นายกฯ ควรภาคภูมิใจเพราะได้เป็นนายกฯในบั้นปลายชีวิต ควรใช้ความดีในบั้นปลายชีวิตปรับ ครม.ให้เป็นที่คาดหวังของประชน เหมือนเป็นการแต่งศพให้ดูดีรอการเผา ไม่ต้องเกรงใจใครต้องทำให้ดีที่สุดแม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไทยังตำหนินายสมัครที่ใช้รายการสนทนาประสาสมัครโดยไม่มีการพูดถึงประเด็นการเมืองที่กำลังเป็นปัญหากับประเทศในขณะนี้ว่า นายกฯ ใช้เวลาสอนภาษาไทยเพียงอย่างเดียว ซึ่งคงทำตามที่ตนแนะนำให้เอาปากไปเข้าพรรษา 3 เดือน แต่นายกฯ ควรมีความเห็นเรื่องการเมืองบ้าง โดยเฉพาะความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ จ.อุดรธานี เพราะทั่วโลกได้ออกมาประณามประเทศไทยถือเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่นายกฯ กลับนิ่งเฉยไมสนใจ ทั้งนี้เห็นว่าถ้าประชาชนพึ่งอำนาจในระบบไม่ได้ วันหน้าจะเรียกหาอำนาจนอกระบบซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อระบอบประชาธิปไตย จึงอยากให้นายกฯ รักษาภาพลักษณ์ของชาติด้วย